ไต้หวันเผยผลชันสูตรศพผู้เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนเกาตวน MVC 3 รายอาร์ทีไอรายงาน (1 ก.ย.) หลังจากที่ไต้หวันเริ่มฉีดวัคซีนเกาตวน หรือวัคซีน MVC ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วจำนวนกว่า 4.5 แสนโดส พบมีผู้เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนดังกล่าวจำนวน 6 ราย ซึ่งต้องมีการชันสูตรเพื่อพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง
รายงานข่าวกล่าวว่า ทราบผลการชันสูตรแล้ว 3 ราย มี 2 ราย ที่เกี่ยวข้องกับหลอดเลือดใหญ่ฉีกขาดหรือ Aortic dissection ส่วนอีกรายหนึ่งมีสาเหตุมาจากอาการโรคหัวใจเส้นเลือดหัวใจอุดตันทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญจะพิจารณาจากผลการชันสูตรศพเหล่ามาประกอบการพิจารณาว่า การเสียชีวิตดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีนหรือไม่ต่อไป
สำหรับการฉีดวัคซีนในวันที่ 30 ส.ค. ศูนย์บัญชาการควบคุมโรคระบาดไต้หวัน ระบุว่า พบผู้มีอาการไม่พึงประสงค์หลังฉีดวัคซีนโควิด-19 จำนวน 87 ราย โดยกว่าครึ่งหนึ่ง 49 ราย มีอาการไม่ข้างรุนแรง 36 รายค่อนข้างรุนแรง เสียชีวิต 2 ราย โดยแบ่งเป็นฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนิก้า 42 ราย ไม่รุนแรง 20 ราย เสียชีวิต 1 ราย วัคซีนโมเดอร์นา 10 รายมีอาการไม่รุนแรง เสียชีวิต 1 ราย ส่วนวัคซีนเกาตวน 6 รายไม่รุนแรง ไม่มีคนเสียชีวิต
สำหรับผู้เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนมีสาเหตุตามลำดับ 5 อันดับแรก ได้แก่ เกี่ยวกับโรคเรื้อรังประจำตัว 95 ราย ปอดอักเสบ 8 ราย สำลักหายใจไม่ออก 6 ราย เส้นเลือดใหญ่ลอก 5 ราย โรคระบบทางเดินปัสสาวะ 4 ราย สมองและก้านสมองมีเลือดออก
ก่อนหน้านี้ รอยเตอร์ส รายงานกระทรวงสาธารณสุขไต้หวัน อนุมัติวัคซีนโควิด-19 ของบริษัทไต้หวัน Medigen Vaccine Biologics Corp (MVC) เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อฉีดวัคซีนให้ประชาชนในช่วงเวลาที่การส่งวัคซีนจากบริษัทยาทั่วโลกล่าช้า โดยไช่ อิง เหวิน ประธานาธิบดีไต้หวัน เข้ารับการฉีดเป็นคนแรกแล้ว เมื่อวันที่ 23 ส.ค. เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ขณะเดียวกันก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเร่งรีบในการรับรองวัคซีนดังกล่าว
พรรคฝ่ายค้านหลักของไต้หวันคือพรรคก๊กมินตั๋งหรือ KMT ได้ต่อต้านการฉีดวัคซีน MVC ดังกล่าว โดยอ้างว่าสนับสนุนวัคซีนในประเทศ แต่การอนุมัติของเมดิเกน เป็นไปอย่างรวดเร็วเกินไป
“ไม่มีความจำเป็นสำหรับชีวิตและสุขภาพของชาวไต้หวันที่จะทำหน้าที่เป็นหนูทดลองในห้องปฏิบัติการ” โหว เชีย-ยุง รอง ผอ. ฝ่ายกิจการระหว่างประเทศของ KMT กล่าวกับรอยเตอร์
ขณะนี้ ประชาชนไต้หวันได้รับวัคซีน AstraZeneca หรือ Moderna อย่างน้อยหนึ่งโดสประมาณ 40% ของประชากร 23.5 ล้านคน และมีผู้ได้รับวัคซีนครบโดสน้อยกว่า 5%