ซีเอ็นบีซี สื่อต่างประเทศรายงาน (16 ส.ค.) เกมคอนโซลเคยถูกแบนในประเทศจีน ตอนนี้นักพัฒนาชาวจีนต้องการส่วนแบ่ง 4.9 หมื่นล้านดอลลาร์
- นักพัฒนาในจีนมีความแข็งแกร่งในด้านการพัฒนาเกมบนมือถือและพีซี เนื่องจากคอนโซลถูกแบนในประเทศเป็นเวลาประมาณ 14 ปีจนถึงปี 2014
- ขณะที่ผู้ผลิต Sony, Microsoft และ Nintendo ได้เปิดตัวคอนโซลครองตลาดในประเทศจีนแล้ว และนักพัฒนาอิสระร่วมกับบริษัทใหญ่ๆ เช่น Tencent และ NetEase ต่างก็ได้แต่จับตามองตลาด
- รายได้จากตลาดคอนโซลทั่วโลกคาดว่าจะอยู่ที่ 4.92 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2564 และนักพัฒนาชาวจีนมองเห็นโอกาสในการขยายไปสู่ต่างประเทศและเติบโตในตลาดเกมที่ร่ำรวย
รายงานข่าวกล่าวว่า เป็นเวลา 14 ปีที่เครื่องเล่นเกมจาก Sony, Microsoft และ Nintendo ถูกแบนในประเทศจ ก่อนจะถูกยกเลิกในที่สุดในปี 2014
ในขณะที่คอนโซลเหล่านี้มีวางจำหน่ายใน "ตลาดสีเทา" ซึ่งเป็นสถานที่ที่จะขายอุปกรณ์นำเข้าในราคาสูง แต่การห้ามดังกล่าวทำให้ความนิยมของเกมพีซีและมือถือเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
นักพัฒนาชาวจีน เช่น Tencent และ NetEase ยักษ์ใหญ่ ทุ่มสุดตัวเพื่อสร้างเกมยอดฮิตสำหรับแพลตฟอร์มเหล่านั้นในช่วงที่ถูกแบนมานานกว่าทศวรรษ
ตอนนี้สิ่งต่าง ๆ กำลังเปลี่ยนแปลง บรรดายักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของจีน และนักพัฒนาเกมสายพันธุ์ใหม่ กำลังมองหาการเติบโตของคอนโซลวิดีโอเกมในประเทศจีน และยังกำหนดเป้าหมายผู้เล่นในต่างประเทศที่โตมากับอุปกรณ์เหล่านี้
แฟรงค์ หมิวปั่ว หลี่ ผู้ก่อตั้ง Studio Surgical Scalpels ซึ่งเป็นสตูดิโอเกมที่ได้รับการสนับสนุนจาก Tencent กล่าวกับ CNBC ว่า “สำหรับตลาดโลก สัดส่วนตลาดเกมคอนโซลมีขนาดใหญ่มาก สัดส่วนประมาณ 30% ของรายได้ ขณะที่ในประเทศจีนยังมีเพียง 1% เท่านั้น ดังนั้นจึงมีโอกาสสูงสำหรับนักพัฒนาเกมคอนโซลในประเทศจีน”
Studio Surgical Scalpels กำลังสร้างเกม "ยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่ง" ที่อิงจากอวกาศโดยใช้ชื่อว่า "Boundary" สำหรับพีซีและ PlayStation 4 และ PlayStation 5 ของ Sony
ตามรายงานของ Niko Partners บริษัทข่าวกรองด้านการตลาด ระบุว่า ตลาดฮาร์ดแวร์เกมคอนโซลและซอฟต์แวร์ของจีนแตะ 1.84 พันล้านดอลลาร์ในปี 2563 และคาดว่าจะสูงถึง 2.46 พันล้านดอลลาร์ในปี 2568 โดยถูกบดบังด้วยรายได้จากเกมมือถือและพีซี ที่เฉพาะรายได้จากเกมมือถือเพียงอย่างเดียวในปี 2020 อยู่ที่ 2.92 หมื่นล้านดอลลาร์
บริษัทวิจัยตลาด Newzoo คาดการณ์ว่าตลาดคอนโซลทั่วโลกจะสร้างรายได้ 4.92 หมื่นล้านดอลลาร์ คิดเป็น 28% ของตลาดเกมทั่วโลก
นั่นคือโอกาสของผู้พัฒนาฯ
“แม้ว่าคอนโซลจะถูกแบนระหว่างปี 2000 ถึง 2014 แต่เราเห็นความต้องการคอนโซลสูงในประเทศจีน และยังมีตลาดคอนโซลที่ใหญ่กว่านอกประเทศ” แดเนียล อาหมัด นักวิเคราะห์อาวุโสของ Niko Partners กล่าวกับ CNBC
หลี่ ซึ่งเป็นผู้คร่ำหวอดในอุตสาหกรรมเกมกล่าวว่า “Boundary” ได้รับการออกแบบมาสำหรับตลาดโลก อันเป็นที่หมายของนักพัฒนาชาวจีน
นอกจาก “Boundary” ยังมีอีกเกมหนึ่งคือ “Black Myth: Wu Kong” ซึ่งพัฒนาโดยสตูดิโอ Game Science ของจีน
บริษัทเกมที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Tencent และบริษัทคู่แข่งอย่าง NetEase ของจีน ก็กำลังจับตามองตลาดคอนโซลด้วยเช่นกัน
NetEase เปิดตัวเกมที่มีชื่อเสียงในวันพฤหัสบดีที่เรียกว่า “Naraka: Bladepoint” เกมสไตล์แบทเทิลรอยัล 60 คน เช่น เกมยอดนิยม “Fortnite” โดยกำลังพัฒนาเกมสำหรับคอนโซล แต่ยังไม่ได้เปิดเผยวันวางจำหน่าย
ก่อนหน้านี้ ในปี 2019 NetEase ได้เปิดตัวเกมในมอนทรีออล ประเทศแคนาดา อันเป็นส่วนขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ และอีกสตูดิโอในญี่ปุ่นที่ทุ่มเทให้กับการผลิตเกมคอนโซลเมื่อปีที่แล้ว
ในการให้สัมภาษณ์กับ CNBC เดือนนี้ หู จื่อเผิง รองประธาน NetEase เรียกตลาดคอนโซลว่า “น่าเย้ายวนทีเดียว”
“Sakura Studio ของเราในญี่ปุ่นและมอนทรีออลทุ่มเทให้กับการพัฒนาเกมบนคอนโซล เนื่องจากหนึ่งในสามของส่วนแบ่งการตลาดต่างประเทศมาจากเกมคอนโซล” หูกล่าว
การเติบโตของ Tencent ในด้านเกมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ได้รับแรงผลักดันอย่างมากจากการเข้าซื้อกิจการหรือการลงทุนในสตูดิโอเกม ที่เน้นไปที่มือถือเป็นหลัก แต่ตอนนี้กำลังเปลี่ยนไปเป็นบริษัทที่สร้างเกมสำหรับพีซีและคอนโซล
ตามรายงานของ Niko Partners ที่เผยแพร่ในเดือนพฤษภาคม “เกือบครึ่งหนึ่งของการลงทุนทั้งหมดในปี 2564 อยู่ในบริษัทที่มีประสบการณ์ในการพัฒนาเกมพีซีและคอนโซล สิ่งเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นของนักพัฒนาในประเทศ”
รายงานระบุ จนถึงปี 2020 การลงทุนในประเทศส่วนใหญ่ของ Tencent เข้าสู่เกมบนมือถือ ในขณะที่การลงทุนพีซีและคอนโซลทำในต่างประเทศ ในนามผู้พัฒนา TiMi Studio