ทางการเมืองหยังโจว มณฑลเจียงซู แถลง(4 ส.ค.) เกี่ยวกับการจับกุมและดำเนินการไต่สวน “อาม่าจอมซ่า” เมินกฎล็อกดาวน์ไปเที่ยวหยังโจว ปล่อยเชื้อโควิดกระจาย นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ต้องปิดชุมชน ทำให้ประชาชนกว่า 3,000 คน ต้องถูกกักตัว
“คนไม่รับผิดชอบคนเดียว ทำทั้งเมืองฉิบหาย” คือเสียงของชาวเน็ตแดนมังกรที่รุมประณาม นาง เหมาโหม่วหนิงวัย 64 ปี ผู้ฝ่าฝืนมาตรการปิดพื้นที่เสี่ยงโรคระบาด ท่ามกลางสถานการณ์ที่ตัวเลขผู้ป่วยในชุมชนของมณฑลเจียงซูขยับสูงขึ้นทุกวันโดยมีจำนวนมากสุดในจีนนับจากวันที่ 20 ก.ค.ที่พบผู้ป่วยที่สนามบินนานาชาติลู่โข่วในหนันจิงจำนวน 9 ราย
ชาวเน็ตจีนได้ตั้งฉายา นาง เหมาโหม่วหนิง ซึ่งเป็นผู้ป่วยรายแรกของเมืองหยังโจว ว่าเป็น “นางเฒ่าเหมาแห่งหนันจิง” นางเหมาผู้มีประวัติพักอยู่ในย่านลู่โข่วของเมืองหนันจิง ได้ดอดไปบ้านพี่สาวในอำเภอหานเจียงของเมืองหยังโจวในวันที่ 21 ก.ค.ซึ่งเป็นวันแรกที่หนันจิงล็อกดาวน์ชุมชนที่มีความเสี่ยงแพร่โรคระบาดระดับปานกลางและระดับสูง
นางเหมาได้แหกกฎฯเดินทางมายังบ้านพี่สาวในหยังโจวโดยปกปิดการพักอาศัยในพื้นที่เสี่ยงต่อโรคระบาดของหนันจิงและประวัติการเดินทาง พอมาถึงบ้านพี่สาวยังออกไปเพ่นพ่านตามที่ต่างๆที่มีคนหนาแน่น ทั้งเที่ยวบ่อนเล่นไพ่นกกระจอก ไปร้านอาหาร ไปห้าง ไปตลาดสด ไปสถานพยาบาลซื้อยา
ระหว่างวันที่ 21-24 ก.ค. นางไปบ่อนในเขตชิวหนันฟ่าน จนกระทั่งวันที่ 27 ก.ค.นางเหมาโหม่วหนิงมีอาการไอ เป็นไข้ และอาการอื่นๆจึงไปตรวจที่โรงพยาบาล วันต่อมาผลตรวจยืนยันว่านางเป็นผู้ป่วยโควิดและถูกกักตัวไว้
ในวันที่จันทร์(2 ส.ค.) สื่อท้องถิ่นเผยว่าเคสผู้ป่วยโควิดที่ยืนยันผลในหยังโจวร่วม 100 คน เป็นการแพร่เชื้อแบบลูกโซ่จากผู้ป่วยรายแรกคือนางเหมา และจากข้อมูลนับถึงวันที่ 3 ส.ค. ระบุว่าผู้ป่วยที่ยืนยันผล 54 คน ไปบ่อนชิวหนันฟ่าน
ส่วนพี่สาวของนางเหมาคือ เหมาโหม่วย่า วัย 70 ปี ก็กลายเป็นผู้ป่วยอันดับที่สองของเมืองหยังโจว นางเหมาผู้พี่ก็เป็นขาประจำบ่อนเช่นกันโดยมักไปที่บ่อนอีกแห่งคือบ่อนหงหยวนบนถนนสื่อเคอฝ่า หลังจากที่ผลตรวจยืนยันว่านางโหม่วย่าติดเชื้อโควิด ก็มีรายงานว่าผู้ป่วยที่ยืนยันผล 13 คน ไปบ่อนหงหยวน
จากข้อมูลนับถึงเที่ยงคืนวันที่ 3 ส.ค. ผู้ป่วยรายใหม่ในเมืองหยังโจว เท่ากับ 126 คน ในจำนวนนี้ 78 คนซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนแก่วัย 60 ปีขึ้นไป ไปบ่อนตามที่ต่างๆในเมือง โดยบ่อนชิวหนันฟ่านและบ่อนหงหยวนสองบ่อนที่พี่น้องแซ่เหมาไปมานั้นมีเคสผู้ป่วยมากที่สุด
ในแถลงการณ์ดำเนินการไต่สวนฯระบุว่า พฤติกรรมฝ่าฝืนกฎควบคุมโรคระบาดของนางเหมานั้นส่งผลให้การแพร่ระบาดในเมืองหยังโจวขยายวงกว้าง และส่งผลเลวร้ายที่สุด โดยนอกจากผู้ป่วยเพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกวัน เจ้าหน้าที่ได้ปิดชุมชนในหานเจียงซึ่งมีกว่า 1,100 ครัวเรือน และมีผู้อาศัยทั้งสิ้นกว่า 3,000 คน
ชาวหยังโจวกล่าวด้วยความโกรธแค้นว่า นางเหมาก่ออาชญากรรมสามเรื่อง คือ 1) รู้ว่าโควิดกำลังระบาดหนัก ยังขโมย “กรีน โค้ด” เดินทางไปบ้านพี่ที่หยังโจว ถือเป็นการฝ่าฝืนกฎป้องกันควบคุมโรคฯอย่างร้ายแรง 2) เมื่อมาถึงหยังโจว ไม่รายงานเจ้าหน้าที่ และไปยังสถานที่ที่มีคนจำนวนมากหลายครั้ง ทำให้เกิดสถานการณ์ที่เรียกว่า ซูเปอร์สเปรดเดอร์ 3) หลังจากที่ตัวเองป่วยแล้ว ยังปกปิดการเดินทาง โกหก และไม่ยอมอธิบายความจริงกับแพทย์และตำรวจ
*จำนวนผู้ป่วยสะสมในเมืองหยังโจว นับถึงวันที่ 5 ส.ค.2021 เท่ากับ 162 ราย ในจำนวนนี้ อาการเบา 58 อาการทั่วไป93, อาการหนัก 9, อาการวิกฤต 2 นอกจากนี้มีผู้สัมผัส/ใกล้ชิดผู้ป่วยรวมทั้งสิ้น 6,227 คน ทั้งหมดอยู่ในระบบกักโรค
โพสต์ของเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลมิตรภาพ เขียนคอมเมนท์เกี่ยวกับกรณีนางเหมาโหม่วหนิงว่า “คุณว่านางเป็นคนแก่ที่อินโนเซนท์ อินโนเซนท์ที่ขโมยกรีนโค้ดคนอื่นปะปนกับฝูงชนมาถึงโรงพยาบาล โกหกหมอ ปฏิเสธตอบเกี่ยวกับประวัติการเดินทาง เพราะนาง เพื่อนๆในโรงพยาบาลถูกกักตัวอยู่ในโรงพยาบาลกลับบ้านไม่ได้ บางคนมีลูกร้องกินนมอยู่ที่บ้าน บางคนมีลูกเล็กอยู่ที่บ้านวันๆเอาแต่ร้องหาแม่ บางคนที่บ้านมีคนแก่ต้องดูแล...ฯลฯ”