xs
xsm
sm
md
lg

New China Insights: จีนกับเรื่องของวัคซีนโควิด-19

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


กราฟแสดงการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในประเทศจีนของช่วงเวลาต่าง ๆ จนถึงวันที่ 16 ก.ค. ใกล้จะแตะ 1,500 ล้านโดสแล้ว (ที่มา Toutiao)
ร่มฉัตร จันทรานุกูล
มหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และธุรกิจระหว่างประเทศ วิทยาลัยนานาชาติ กรุงปักกิ่ง (UIBE)


ในบทความนี้ผู้เขียนอยากหยิบยกประเด็นและอัพเดทสถานการณ์วัคซีนโควิด-19 จีน พร้อมวิเคราะห์กันอีกครั้งต่อจากบทความอาทิตย์ที่แล้ว “ทำไมจีนถึงควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19ได้ดี”

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ณ ปัจจุบันวัคซีนที่จีนฉีดให้ประชาชนทั้งประเทศมีอยู่สองประเภท คือวัคซีนประเภทเชื้อตายที่เรารู้จักกันดีอย่างซิโนฟาร์มและซิโนแวค กับวัคซีนประเภท Recombinant มีชื่อเรียกภาษาอังกฤษว่า Ad5-nCoV ซึ่งวัคซีนประเภทหลังนี้คนไทยอาจจะไม่คุ้นเคยกันนัก แต่ในจีนเริ่มมีการฉีดให้กับประชาชนแล้ว เป็นวัคซีนจากค่าย CanSino Biologics บริษัทยาชีวเภสัชภัณฑ์ของจีน โดยร่วมมือกับ Institute of Biology ของ Academy of Military Medical Sciences สถาบันวิจัยหน่วยงานทหารจีน

วัคซีน Ad5-nCoV เป็นวัคซีนที่ถูกประกาศใช้เร่งด่วนในจีนถัดมาจากวัคซีนเชื้อตายจากสองค่าย โดยจะฉีดแค่เข็มเดียวเท่านั้น จากผลการทดสอบระยะที่สามก่อนประกาศใช้จริงในวงกว้างพบว่า วัคซีน Ad5-nCoV หลังจากฉีดไป 28 วันมีผลการปกป้องอาการจากโควิด-19 ทั้งหมด 65% และมีผลปกป้องผู้ป่วยโควิด-19 ที่จะป่วยอาการหนักสูงถึง 90% และวัคซีนนี้ได้รับการอนุมัติเริ่มใช้ (อย่างมีเงื่อนไข) ในต่างประเทศแล้วที่เม็กซิโกและปากีสถาน

ด้านปริมาณการฉีดวัคซีนโควิด-19 จนถึงสิ้นเดือนนี้ จีนจะฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ประชากรทั่วประเทศมากกว่า 1,500 ล้านโดส จีนนำมาเป็นอันดับหนึ่งของโลก และเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา จากหลักฐานการทดลองจริงในช่วงที่สาม จีนจะให้ประชากรวัยเด็กอายุ 3-17 ปีฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว โดยวัคซีนที่จะใช้กับประชากรวัยเด็กของจีนคือวัคซีนเชื้อตายจากซิโนฟาร์ม

ผู้เขียนมองว่าตอนนี้จีนพยายามเร่งฉีดให้ประชาชน จากผู้ใหญ่วัยทำงาน ผู้สูงอายุและกลุ่มสุดท้ายคือกลุ่มวัยเด็ก เมื่ออาทิตย์ที่แล้วมีข่าวออกว่า บางเมืองของจีนจะเริ่มจำกัดการเดินทางและการทำกิจกรรมของบุคคลที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน เช่น คนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนจะไปโรงพยาบาลไม่ได้ เข้าสถานที่สำคัญต่าง ๆ ไม่ได้ มีไปจนกระทั่งเข้าหมู่บ้านไม่ได้ เป็นต้น

หลังจากข่าวนี้แพร่กระจายออกไปรัฐบาลกลางและสถานีโทรทัศน์กลางของจีนได้ออกมาบอกว่า ในเรื่องของการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของประชาชนจะไม่มีการบังคับ โดยยึดหลักสามประการคือ “รับรู้ เห็นด้วยและยินยอม” กล่าวคือรัฐบาลกลางไม่สนับสนุนให้มีการบังคับประชาชนให้ต้องฉีดวัคซีน แต่เพราะการบริหารในระดับท้องถิ่นหลายครั้งใช้วิธีการตรง ๆ แบบผ่าซาก ทำให้เกิดความเข้าใจผิดและไม่พอใจของประชาชนจีนบางกลุ่มในท้องที่นั้น ๆ เนื่องจากการจะฉีดวัคซีนฯได้ก็มีเงื่อนไข หากร่างกายไม่พร้อมที่จะฉีดหรือกำลังป่วยเรื้อรังได้รับวัคซีนฯ ไปแล้วเกิดแพ้หรือเสียชีวิต ใครกันที่จะออกมารับผิดชอบ?

แต่กระนั้นรัฐบาลจีนก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะให้ประชาชนเห็นความสำคัญและกระตือรือร้นไปฉีดรับวัคซีนฯ ถึงขนาดบางพื้นที่มีให้รางวัลแก่ผู้ที่ไปฉีดวัคซีนด้วย

หลังจากที่จีนควบคุมการระบาดของโควิด-19 ในประเทศได้ดี ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตปกติแล้ว ในเมืองเล็กบางที่ประชาชนแทบไม่ใส่หน้ากากอนามัยกันแล้ว ในแง่ของการชักชวนให้ประชาชนไปฉีดรับวัคซีนฯ ก็เป็นอุปสรรคอยู่เหมือนกัน เพราะหลายคนมองว่าในเมื่อสถานการณ์รอบตัวปลอดภัยแล้วไม่จำเป็นต้องไปฉีด ขาดความกระตือรือร้นนั่นเอง

ผู้เขียนมองว่าที่รัฐบาลจีนพยายามกระตุ้นการฉีดวัคซีนฯ อยู่นี้ อีกแง่หนึ่งคือการเตรียมพร้อมเปิดประเทศในอนาคต เพราะจีนจะปิดประเทศแบบนี้ตลอดไปก็เป็นไปไม่ได้ และการที่ผู้คนกำลังถกเถียงกันเรื่องของวัคซีนเชื้อตายของจีนอยู่นี้ ต้องบอกว่าจีนระงับการระบาดในประเทศได้ไม่ใช่เพราะวัคซีนฯ แต่เป็นเพราะการจัดระเบียบของรัฐและความร่วมมือของประชาชนทั้งประเทศ

ทุกวันนี้ผู้ที่ได้รับวัคซีนฯ ครบไปแล้วสองโดสก็ยังคงต้องปฎิบัติตัวเหมือนตอนยังไม่ได้ฉีดวัคซีนฯอยู่ ในด้านการปฎิบัติตัวในที่สาธารณะก็ไม่มีอะไรที่แตกต่างเลย

ในแง่ของการช่วยเหลือวัคซีนโควิด-19 แก่ต่างประเทศในครึ่งปีแรกของปีนี้จีนได้ส่งออกไปแล้วให้ 115 ประเทศทั่วโลก จำนวนมากกว่า 500 ล้านโดส เป็นจำนวน 1/6 ของวัคซีนฯ ทั้งโลก โดยวัคซีนเชื้อตายของจีนอย่างซิโนฟาร์มและซิโนแวคก็ได้เข้าโครงการ COVAX ซึ่งจนถึงเดือนต.ค.ของปีนี้ จะส่งมอบวัคซีนฯเข้าโครงการทั้งหมด 110 ล้านโดส และอย่างที่ทุกท่านทราบ เชื้อไวรัสยังมีการพัฒนากลายพันธุ์อยู่ตลอดที่ผ่านมาทำให้การพัฒนาและการทดสอบ ตามผลของวัคซีนฯที่มีใช้อยู่ปัจจุบันต้องทำอยู่ตลอด

ด้านการพัฒนาของวัคซีนโควิด-19 เองก็ไม่เคยหยุดอยู่เช่นกัน ในเดือนนี้จีนได้ประกาศความสำเร็จใหม่ของวัคซีน mRNA ตัวแรกของจีน ที่การจัดเก็บไม่ต้องอยู่ในอุณหภูมิที่ต่ำจนติดลบ ทำให้ต้นทุนในการเก็บรักษาต่ำกว่า ในอนาคตอันใกล้มีความหวังว่าจะกลายเป็นวัคซีนฯ ในการฉีดกระตุ้นภูมิคุ้มกันในจีนแผ่นดินใหญ่ โดยวัคซีนฯ ตัวใหม่นี้เป็นการร่วมมือกันระหว่าง Fosun Pharma และ BioNtech ร่วมทุนสัดส่วน 50:50 จัดตั้งโรงงานในจีน Fosun Pharma ลงทุนเป็นเงินจำนวน 100 ล้านเหรียญสหรัฐ และ BioNtech ร่วมลงทุนด้านให้เทคโนโลยีการผลิตและให้สิทธิการใช้สิทธิบัตร วัคซีนตัวนี้มีชื่อภาษาจีนว่า “复必泰” (ฟู่ปี้ไท่) ชื่อภาษาอังกฤษคือ COMIRNATY อยู่ระหว่างดำเนินการขออนุมัติ และในระหว่างนี้ทางโรงงานกำลังเตรียมการผลิตวัคซีนฯไปด้วยพร้อมกัน ทางบริษัท Fosun Pharma กล่าวว่าหลังจากได้รับการอนุมัติตามขั้นตอนจะเริ่มทยอยฉีดในวงกว้างขึ้นในจีนแผ่นดินใหญ่

วัคซีน mRNA ตัวแรกของจีนเตรียมที่จะใช้ในจีนแผ่นดินใหญ่เร็ว ๆ นี้ (ที่มา Zhixinwen)
ด้านสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ของโลกก็ไม่มีท่าทีจะดีขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาที่ขาดศักยภาพด้านสาธารณสุข และการเข้าถึงวัคซีนฯ มีข้อจำกัด

ไม่นานมานี้ WHO ได้ออกมากล่าวว่า ปัจจุบันโลกของเรากำลังเกิดความเหลื่อมล้ำด้านวัคซีนฯ ประเทศพัฒนาแล้วที่มีศักยภาพเริ่มฉีดวัคซีนฯ เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันแล้ว ในขณะที่บางประเทศยังขาดแคลนวัคซีนฯ อยู่ และประเทศที่มีเงินก็จอง กวาดซื้อและตุน วัคซีนฯ ที่มีศักยภาพในขณะนี้ ทำให้การส่งมอบวัคซีนฯในโครงการ COVAX เพื่อกระจายแบ่งไปสู่ประเทศกำลังพัฒนาก็เป็นไปได้ช้าลงด้วย โดยเฉพาะการระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าที่พบในกว่า 100 กว่าประเทศจะเป็นสายพันธุ์หลักของโลก ที่ดุและรุนแรงขึ้น

ผู้เขียนมองว่าจีนกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่มีเรื่องท้าทายอยู่หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ในประเทศ ทั้งการพยุงเศรษฐกิจ สร้างงาน เพิ่มรายได้ให้ประชาชนและกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ ภาคการส่งออกต่างประเทศ รวมทั้งการลงทุนทั้งในและต่างประเทศที่ยังต้องดำเนินอยู่ กับการป้องกันการระบาดของโควิดฯ ขาเข้าในประเทศ

ปฎิเสธไม่ได้ว่าการปิดประเทศมายาวนานขนาดนี้ ก็สร้างความลำบากหลายเรื่องอยู่เหมือนกัน การพยายามกระตุ้นให้ประชาชนไปฉีดวัคซีนฯ เพื่อเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ที่แท้จริง (ทั้งลดผู้ป่วยอาการหนักและลดจำนวนผู้เสียชีวิตหากเกิดการระบาดในอนาคต) ในด้านการต่างประเทศนอกจากความกดดันจากความสัมพันธ์กับต่างประเทศ ยังมีความท้าทายของภาพลักษณ์ประเทศในสายตานานาชาติ เป็นต้น

ในสถานการณ์โลกที่อลเวงแบบนี้ ไม่มีประเทศไหนที่ไม่มีอุปสรรคทั้งจากภายในและปัจจัยภายนอก ไทยเราเองผู้เขียนก็หวังว่าจะผ่านอุปสรรคโรคระบาดที่แสนสาหัสนี้ไปได้ด้วยโดยเร็ว เพื่อให้เศรษฐกิจและประชาชนกลับมาเป็นปกติโดยเร็ว….. Pray for Thailand 


กำลังโหลดความคิดเห็น