สำหรับเหล่าแวดวงการบันเทิงจีน คนดังบางคนไม่ได้มีความสามารถแค่ทักษะในเรื่องหลักอย่างออกหน้ากล้องอย่างเดียว หากแต่หลังกล้องเองแล้วพวกเขายังแฝงไปด้วยความสามารถในหลาย ๆ ด้าน หนึ่งในนั้นเลยก็คือ ‘หลี่เซียง’ (李湘) พิธีกรสาวชาวจีนวัย 45 ปี ที่นอกจากทักษะการเป็นพิธีกรที่ดีเลิศแล้ว ความสามารถที่เธอเก่งมากอีกอย่างเลยก็คือเรื่องของ “การทำธุรกิจและการลงทุน” ซึ่งนับเป็นความสามารถที่สร้างรายได้ให้เธอแบบมากมายมหาศาลเลยทีเดียว
‘หลี่เซียง’ พิธีกร นักแสดง และโปรดิวเซอร์สาวจีนชื่อดัง เกิดเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1976 ในเมืองฉางซา มณฑลหูหนาน ประเทศจีน สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยการสื่อสารชื่อดังของจีนอย่าง Communication University of China (中国传媒大学)
สำหรับงานในวงการบันเทิง ‘หลี่เซียง’ โด่งดังจนเป็นที่รู้จักมาจากการเป็นพิธีกรหลักของรายการวาไรตี้ชื่อดังของช่องหูหนานอย่าง “Happy Camp” (快乐大本营) เมื่อปี 1997 โดยในปี 2003 เธอได้รับรางวัลพิธีกรรายการโทรทัศน์ดาวเทียมแห่งชาติที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากการสำรวจเรตติ้งของ CCTV ยิ่งไปกว่านั้นปีเดียวกันในฐานะพิธีกรหลักของรายการ “Happy Camp” ‘หลี่เซียง’ ยังได้รับรางวัล China TV Golden Eagle Award สาขาพิธีกรยอดเยี่ยม ก่อนที่ต่อมาในปีถัดไป (2004) เธอจึงได้ตัดสินใจยุติบทบาทการเป็นพิธีกรหลักให้กับรายการวาไรตี้สร้างชื่ออย่าง "Happy Camp" ที่ร่วมงานกันมานานกว่า 7 ปี
หลังจากที่ถอนตัวออกจากการเป็นพิธีกรของรายการวาไรตี้ชื่อดังอย่าง "Happy Camp" ‘หลี่เซียง’ ได้มีโอกาสเข้าร่วมงานด้านอื่น ๆ ในวงการมากขึ้น (อาทิเช่น การเป็นนักแสดง) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นงานสายพิธีกรก็ยังคงเป็นสายงานหลักที่ ‘หลี่เซียง’ ยึดมั่นและรับทำต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
แม้ปัจจุบัน ‘หลี่เซียง’ จะเป็นคนดังที่ทำงานในวงการบันเทิงจีนมานาน แต่อีกอาชีพที่สร้างรายได้มากมายให้กับชีวิตของเธอ นั่นก็คือ “การเป็นนักลงทุน” โดยในอดีตเมื่อสถานะอาชีพพิธีกรของ ‘หลี่เซียง’ มั่นคงขึ้น เธอจึงได้ถอนตัวออกจากการเป็นพิธีกรหลักของรายการ "Happy Camp" และได้เริ่มลงทุนในการทำธุรกิจอย่างจริงจัง ในปี 2004 เธอได้ก่อตั้งบริษัทมีเดียแห่งแรกของตัวเองที่มีชื่อว่า “Beijing Happy Star Culture” (北京快乐星文化) ขึ้นอย่างเป็นทางการในกรุงปักกิ่ง
ไม่เพียงแต่บริษัทแห่งแรกเท่านั้น สำหรับกิจการเกี่ยวกับแวดวงบันเทิง ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ‘หลี่เซียง’ ได้เข้าไปลงทุนในบริษัทมีเดีย รวมถึงในงานภาพยนตร์และซีรีส์อื่น ๆ อีกมากมาย อาทิเช่น 360 Entertainment (หลี่เซียงดำรงตำแหน่ง “ประธาน”) และ Mango Media (หลี่เซียงดำรงตำแหน่ง “ผู้ถือหุ้นรายใหญ่") นอกจากนั้นยังได้ร่วมมือกับ Bona Film (博纳影业) เพื่อเปิดโรงภาพยนตร์ระดับห้าดาวในฉางชา ซึ่งการเข้าไปลงทุนในกิจการพวกนี้ ทำให้นอกจากการเป็นพิธีกรชื่อดังแล้ว ‘หลี่เซียง’ ยังได้ผันตัวเข้าไปทำงานในตำแหน่งโปรดิวเซอร์ไปจนถึงผู้นำระดับสูงขององค์กรอีกด้วย
เพิ่มเติม: ต่อมาเมื่อแน่วแน่ว่าจะเริ่มเอาดีทางงานธุรกิจควบคู่ไปด้วย ‘หลี่เซียง’ จึงได้ตัดสินใจเลือกเรียนต่อปริญญาโทอย่างจริงจังในหลักสูตร EMBA (Executive MBA) ของ “University of International Business and Economics” (对外经济贸易大学) และได้สำเร็จการศึกษาไปเมื่อปี 2015 ที่ผ่านมา
นอกจากที่กล่าวไป อีกการลงทุนหนึ่งที่ ‘หลี่เซียง’ ชอบมากถึงขนาดเข้าขั้น “คลั่งไคล้” เลย นั่นก็คือ “การลงทุนในด้านอสังหาริมทรัพย์” โดยตามข้อมูลจากสื่อจีนระบุว่า ตั้งแต่เมื่อประมาณ 20 ปีก่อน ในขณะที่ทุกคนไม่กล้าลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจีน แต่ตัวของ ‘หลี่เซียง’ นั้นกลับเลือกที่จะสวนกระแสเริ่มมุ่งหน้าลงทุนในด้านนี้อย่างไม่ลังเล เริ่มตั้งแต่สมัยที่ ‘หลี่เซียง’ ยังทำงานเป็นพิธีกรชื่อดังของช่องหูหนาน เธอแบ่งเงินเดือนออกเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งใช้บริโภคในชีวิตประจำวัน ส่วนที่เหลือใช้ซื้ออสังหาริมทรัพย์จำพวกบ้านและอพาร์ทเม้นท์ในปักกิ่ง ซึ่งตอนนั้นราคาในบางพื้นที่ของปักกิ่งยังค่อนข้างถูกมากเมื่อเทียบกับปัจจุบัน
ไม่นานเงินที่ ‘หลี่เซียง’ ลงทุนไปกับการซื้ออสังหาริมทรัพย์เก็บไว้ก็ไม่เสียเปล่า เนื่องจากอีกไม่กี่ปีถัดมาราคาอสังหาริมทรัพย์จำพวกบ้านและอพาร์ทเม้นท์ในปักกิ่งพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ ‘หลี่เซียง’ ทำเงินได้มากมายมหาศาลจากการที่ราคาอสังหาริมทรัพย์ในมือของเธอแข็งค่าขึ้น
ความสำเร็จในการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ของ ‘หลี่เซียง’ เกิดจากความชื่นชอบบวกกับวิสัยทัศน์ด้านการลงทุนที่เป็นเอกลักษณ์และวิธีการลงทุนที่เด็ดขาด โดยเธอมีสายตาคาดการณ์ที่เฉียบแหลมมาก
ครั้งหนึ่ง ‘เหอจง’ (何炅) พิธีกรจีนชื่อดังที่หลายคนอาจจะคุ้นหน้ากันดีจากการเป็นพิธีกรหลักของรายการ “Happy Camp” มาเป็นเวลากว่า 23 ปี ได้เคยแชร์เรื่องราวความสามารถอันเฉียบแหลมในด้านนี้ของพิธีกรสาวไว้ในการสัมภาษณ์รายการหนึ่งว่า ในปี 1997 หลังจากที่เขา (เหอจง) สำเร็จการศึกษาได้ไม่นาน ‘หลี่เซียง’ ซึ่งในตอนนั้นเป็นเพื่อนร่วมงานกัน ได้เกลี้ยกล่อมให้เขาซื้ออพาร์ทเม้นท์ห้องแรกของตัวเองที่ถนนวงแหวนที่สามของปักกิ่ง ซึ่งในเวลานั้นมีราคาอยู่ที่เพียง 3,000 หยวนต่อตารางเมตรเท่านั้น ทันทีที่การซื้อตามคำบอกของ ‘หลี่เซียง’ เสร็จสิ้น อยู่ดี ๆ ราคาอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ปักกิ่งก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนตอนนี้ราคาอพาร์ทเม้นท์ที่ ‘หลี่เซียง’ เคยให้ ‘เหอจง’ ซื้อนั้นราคาพุ่งสูงมากกว่าเดิมถึง 30 เท่าเลยทีเดียว
แหล่งข่าวใน NetEase เผยว่า เงื่อนไขการตัดสินใจลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ของ ‘หลี่เซียง’ มีเพียงสามข้อเท่านั้น นั่นก็คือ ทำเลเยี่ยม ตำแหน่งชั้นดี และแปลนห้องเลิศ ตัวของ ‘หลี่เซียง’ เองเคยกล่าวว่า "อสังหาริมทรัพย์ที่ตรงตามสามเงื่อนไขนี้ เวลาจะขายทิ้งเมื่อไหร่ ก็มักจะขายออกได้อย่างรวดเร็วทันที"
สำหรับตัวของ ‘หลี่เซียง’ ที่ชื่นชอบการลงทุนในด้านอสังหาริมทรัพย์ การกว้านซื้อบ้านหรืออพาร์ทเม้นท์ที่ตรงตามเงื่อนไขสามข้อของเธอไว้มากมายนั้นนับเป็นเรื่องปกติ โดยตัวของ ‘หลี่เซียง’ เองได้เคยเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ในความเป็นจริงนอกจากที่ปักกิ่ง ส่วนตัวแล้วตนนั้นยังมีอสังหาริมทรัพย์จำพวกบ้านและอพาร์ทเม้นท์หลายแห่งที่ซื้อเก็บไว้ตามเมืองใหญ่ ๆ ทั้งเซี่ยงไฮ้ ฉางซา เฉิงตู และกวางโจว ซึ่งถ้าหากถามถึงเรื่องจำนวนตัวเลขที่แน่ชัดล่ะก็ ตัวของ ‘หลี่เซียง’ เคยกล่าวว่า “มันเยอะแยะเสียจนถึงขนาดที่ว่าบางครั้งตัวเธอเองก็ยังนับไม่หมดเลยเช่นกัน”......