หลังจากที่ในวันที่ 1 มิ.ย. องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประทับตราอนุมัติวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของชิโนแวค ไบโอเทค (Sinavac Biotech)ให้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน สามวันต่อมาชิโนแวค ไบโอเทค ได้ออกโรงแจ้ง “ข่าวดี” ต่อสาธารณะ เรื่องการขยายฉีดวัคซีนเชื้อตายของชิโนแวคในกลุ่มอายุอย่างกว้างขวาง โดยสามารถฉีดในเด็กอายุ 3 ขวบขึ้นไป และอีกเรื่องที่น่าตื่นเต้นคือ การทดลองฉีดวัคซีนเข็มที่สาม ปรากฏผลน่าทึ่งคือ ระดับแอนติบอดี หรือสารภูมิต้านทานในร่างกายพุ่งสูงขึ้น 10 เท่า! แต่ต้องรอการทดลองขั้นต่อไปเพื่อฟันธงว่าจะฉีดเข็มที่สามได้เมื่อไหร่
ประธานบอร์ด ชิโนแวค ไบโอเทค นาย อิ่น เว่ยตง (尹卫 东) ให้สัมภาษณ์กับสื่อจีนสถานีโทรทัศน์กลางแฟ่งประเทศจีนเมื่อวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ข่าวดีเรื่องแรก... เมื่อต้นปีนี้ ชิโนแวคทำการทดลองวัคซีนระยะที่ 1 และระยะที่ 2 ในกลุ่มเด็กวัย 3-17 ปี
“หลังจากฉีดวัคซีนในกลุ่มอายุ 3-17 ปี ปรากฏว่าอัตราความปลอดภัยออกมาดี โดยอัตราความปลอดภัยเทียบเท่ากับการฉีดวัคซีนในวัยผู้ใหญ่อายุ 18 ปี”
“จีนอนุมัติฉีดวัคซีนชิโนแวคในกรณีฉุกเฉินอย่างกว้างขวางขึ้นโดยขยายกลุ่มอายุผู้ฉีดวัคซีนในเด็กอายุ 3 ขวบขึ้นไป ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเตรียมการจัดคิวฉีดวัคซีนในกลุ่มเด็ก 3-17 ปี
ข่าวดีเรื่องที่สอง...ประธาน ชิโนแวค นาย อิ่น เว่ยตง เผยอีกว่า “ผมขอบอกอย่างมั่นใจต่อทุกๆท่านว่า เมื่อฉีดวัคซีนเชื้อตายของชิโนแวคครบสองเข็มแล้ว ในร่างกายของผู้ฉีดฯจะสร้างความจำทางอิมมูน (Immunologic Memory)ขึ้นมา เมื่อเร็วๆนี้เราได้บรรลุการทดสอบทางคลินิกระยะที่สอง โดยเป็นการทดลองกับกลุ่มอาสาสมัครที่ฉีดวัคซีนครบสองเข็มแล้ว หลังจากนั้นสามเดือนถึงหกเดือนมาฉีดวัคซีนเข็มที่สาม ปรากฏผลว่าภายในหนึ่งสัปดาห์ระดับแอนติบอดี หรือสารภูมิต้านทาน (Antibody levels) พุ่งสูงอย่างรวดเร็วถึงสิบเท่า และสูงขึ้น 20 เท่าในครึ่งเดือน"
"แต่ขณะนี้ในทางปฏิบัติจริงเรากำลังอยู่ในช่วงการวิจัยระดับโลกเพื่อสรุปว่าประสิทธิภาพการฉีดวัคซีนสองเข็มนั้นมีผลคุ้มกันโรคได้นานแค่ไหน"
สำหรับจีนแล้ว เป้าหมายสำคัญที่สุดในตอนนี้คือ การสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้แก่ประชาชนด้วยการฉีดวัคซีนสองเข็ม ส่วนการฉีดวัคซีนเข็มที่สามจะฉีดได้เมื่อไหร่นั้นต้องรอผลการวิจัยที่คืบหน้ากว่านี้ ตอนนี้เจ้าหน้าที่การวิจัยกำลังทำการทดลองอย่างละเอียดถี่ถ้วนในครึ่งปีถึงหนึ่งปี จึงจะสามารถแนะนำการฉีดวัคซีนเข็มที่สามเพื่อเพิ่มระดับภูมิคุ้มกันโรค
