หลังจากมีชื่อติดอยู่กับฉายา “4 สาวนักแสดงรุ่นใหม่แห่งยุคที่เกิดหลังปี 1995”* หรือที่ในภาษาจีนเรียกกันว่า “ซื่อเสี่ยวฮวาตั้น” (四小花旦) รุ่นล่าสุดในปี 2019 เมื่อเวลาล่วงเลยไปกว่าสามปี ในเส้นทางสายการแสดงของทั้ง ‘จางจื่อเฟิง’ (张子枫) และ ‘เฉินเหวินฉี’ (陈文琪) นับวันก็ยิ่งน่าจับตามองมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในปี 2021 ที่ทั้งคู่ต่างก็มีผลงานการแสดงออกมาพิสูจน์ฝีมือความสามารถกันมากขึ้น แถมแต่ละเรื่องยังได้รับกระแสตอบรับที่ค่อนข้างดีอีกด้วย
*หมายเหตุ: “4 สาวนักแสดงรุ่นใหม่แห่งยุค” หรือ “ซื่อเสี่ยวฮวาตั้น” เป็นฉายาที่สื่อหลักในจีนมอบให้กับนักแสดงหญิงรุ่นใหม่ในแวดวงอุตสาหกรรมบันเทิงจีน ถูกใช้กันอย่างเป็นทางการมาตั้งแต่ปี 2002 ใครจะมาเป็นได้ต้องถูกเสนอชื่อเพื่อพิจารณาคุณสมบัติด้านต่าง ๆ และโหวตนับคะแนนจากเหล่าบรรดาสื่อมวลชนและชาวเน็ตกันอย่างจริงจัง โดย “ซื่อเสี่ยวฮวาตั้นรุ่นล่าสุด” อีก 2 คน นอกจาก ‘จางจื่อเฟิง’ และ ‘เฉินเหวินฉี’ นั่นก็คือ ‘กวนเสี่ยวถง’ และ ‘โอหยางน่าน่า’
เกริ่นมาซะขนาดนี้ แน่นอนว่าในวันนี้โต๊ะฯจีนของเราก็ไม่พลาดหยิบยกเอาเรื่องราวประวัติของสองสาว “ซื่อเสี่ยวฮวาตั้นรุ่นล่าสุด” ผู้เกิดหลังปี 2000 ที่ปัจจุบันยังมุ่งมั่นเอาดีด้านการแสดงจนกลายเป็นที่จับตามองอย่าง ‘จางจื่อเฟิง’ และ ‘เฉินเหวินฉี’ ขึ้นมาแนะนำให้คุณผู้อ่านทุกท่านได้รู้จักกัน พร้อมทั้งตามไปอัพเดทเพิ่มเติมกันหน่อยสิว่าสำหรับเส้นทางสายการแสดงของสองสาวในปี 2021 นี้เป็นอย่างไรกันบ้าง จะรุ่ง เลิศ ปัง ขนาดไหนไปดูกันเลย!!!!
‘จางจื่อเฟิง’ นักแสดงหญิงจากจีนแผ่นดินใหญ่ เจ้าของรางวัลนักแสดงหน้าใหม่จากงาน Hundred Flowers Awards ที่อายุน้อยที่สุด
‘จางจื่อเฟิง’ เกิดเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม ค.ศ. 2001 ที่มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน (ปัจจุบันอายุ 19 ปี) เธอเริ่มต้นเส้นทางในวงการบันเทิงด้วยกันเป็นดาราเด็ก ตั้งแต่อายุได้ 5 ขวบ ‘จางจื่อเฟิง’ เริ่มถ่ายทำโฆษณาและเข้าสู่วงการธุรกิจการแสดง โดยการร่วมแสดงซีรีส์จีนหลายเรื่อง จนกระทั่งในปี 2010 ‘จางจื่อเฟิง’ ได้รับบท "เสี่ยวฟางเติง" ในภาพยนตร์จีนแนวภัยพิบัติเรื่อง "Aftershock 1976 มหาภิบัติ สิ้นแผ่นดิน" (唐山大地震) ซึ่งจากบทบาทดังกล่าวนี้เอง ทำให้ในปี 2012 ‘จางจื่อเฟิง’ ได้รับรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมจากงาน Hundred Flowers Awards ครั้งที่ 31 ไปครอง
หลังจากได้รับรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมของงาน Hundred Flowers Awards ครั้งที่ 31 ไปแล้ว ‘จางจื่อเฟิง’ ก็มีผลงานการแสดงภาพยนตร์ออกมาอีกหลายเรื่อง อาทิเช่น ภาพยนตร์เรื่อง “Detective Chinatown 1” (唐人街探案1) ในปี 2015 “How Are You” (李雷和韩梅梅) ในปี 2017 “Go Brother!” (快把我哥带走) และ “Last Letter” (你好,之华) ในปี 2018 ก่อนจะได้ติดเป็นหนึ่งในรายชื่อของ “4 สาวนักแสดงรุ่นใหม่แห่งยุคที่เกิดหลังปี 1995” ในปี 2019 และห่างหายจากหน้าจอภาพยนตร์ไปในปี 2020 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ทั่วโลกที่ทำให้กำหนดการฉายภาพยนตร์จีนหลายเรื่องต้องเลื่อนออกไป แถมยังตรงกับปีที่ ‘จางจื่อเฟิง’ ต้องเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยอีกด้วย
สำหรับปี 2021 นี้ ‘จางจื่อเฟิง’ กลับมาอีกครั้งในสายงานการแสดงภาพยนตร์ ซึ่งกลายมาเป็นที่น่าจับตามองอย่างมากเลยทีเดียว โดยจากข้อมูลคร่าว ๆ ที่โต๊ะฯจีนแอบแวบไปส่องมานั้นก็พบว่า ตลอดทั้งปี 2021 อาจจะมีผลงานภาพยนตร์ที่ ‘จางจื่อเฟิง’ ร่วมแสดงออกมาให้รับชมกันถึง 5 เรื่อง!!! โดยมี 3 เรื่องที่เข้าฉายไปแล้วในช่วงครึ่งปีแรก ประกอบไปด้วย ภาพยนตร์จีนแนวแอคชั่นคอมเมดี้อย่าง “Detective Chinatown 3” (唐人街探案 3) ภาพยนตร์จีนแนวดราม่าชีวิตสุดสะเทือนอารมณ์อย่าง “My Sister” (我的姐姐) และภาพยนตร์จีนแนวระทึกขวัญอย่าง “Home Sweet Home” (秘密访客)
หากวัดตามรายได้ที่ภาพยนตร์แต่ละเรื่องทำได้ ก็จะรู้ว่าไม่ใช่แค่ปริมาณที่เยอะ แต่คุณภาพก็เยอะเหมือนกันนะ! โดยในส่วนภาพยนตร์เรื่อง “Detective Chinatown 3” หรือ “แก๊งม่วนป่วนโตเกียว” ที่ 'จางจื่อเฟิง' ร่วมแสดงบทสมทบมาตั้งแต่ภาคแรกก็ยังกวาดรายได้ในจีนไปอย่างถล่มทลายเหมือนเช่นเคย แถมภาพยนตร์จีนแนวดราม่าชีวิตสุดสะเทือนอารมณ์เรื่องใหม่อย่าง “My Sister” ที่ ‘จางจื่อเฟิง’ ร่วมแสดงนำก็ยังได้รับผลตอบรับที่ดีมากจากผู้ชมทุกช่วงวัยในจีน แม้จะน่าเสียดายที่ทำรายได้ไปไม่ทะลุพันล้านหยวน แต่ก็กวาดรายได้ไปถึง 860 ล้านหยวนหรือประมาณ 4,185 ล้านบาท ซึ่งก็นับว่าไม่ใช่จำนวนเงินน้อย ๆ เลยทีเดียว
ในส่วนของภาพยนตร์จีนแนวระทึกขวัญอย่าง “Home Sweet Home” ที่เพิ่งเข้าฉายไปเมื่อวันแรงงานที่ผ่านมา (1 พ.ค.) แม้จะกวาดรายได้ไปไม่เยอะเท่าภาพยนตร์เรื่องก่อนหน้าอย่าง "My Sister" แต่ยังก็กวาดรายได้รวมสะสมในจีนไปไม่ต่ำกว่า 215 ล้านหยวน หรือราว ๆ 1,046 ล้านบาทเลยทีเดียว
นอกจากสามเรื่องที่ว่าไป ยังมีภาพยนตร์จีนที่ ‘จางจื่อเฟิง’ ร่วมแสดงนำและยังคงรอต่อคิวเตรียมเข้าฉายในปีนี้อีกถึงสองเรื่องด้วยกัน ได้แก่ ภาพยนตร์เรื่อง “FAREWELL, MY LAD” (再见,少年) ที่ถึงแม้จะถูกเลื่อนฉายออกไปจากกำหนดเดิมเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาเนื่องจากปัญหาทางเทคนิค แต่ก่อนหน้านี้จากการรับบทนำในภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว ทำให้ตัว ‘จางจื่อเฟิง’ ล่วงหน้าคว้ารางวัล “นักแสดงนำหญิงที่ได้รับความสนใจจากสื่อมากที่สุด” ในงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเซี่ยงไฮ้ ครั้งที่ 23 (ปี 2020) ไปก่อนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ส่วนอีกเรื่องหนึ่ง นั่นก็คือ ภาพยนตร์แนวชีวิตรักวัยรุ่น เรื่อง “UPCOMING” (盛夏未来) ซึ่งจะเข้าฉายที่ประเทศจีนในวันที่ 13 ส.ค. โดยในภาพยนตร์เรื่องนี้ ‘จางจื่อเฟิง’ ได้กลับมาแสดงนำคู่กับพระเอกหนุ่มเจ้าของฉายา “น้องชายแห่งชาติจีน” อย่าง ‘อู๋เหล่ย’ (吴磊) อีกครั้ง หลังจากที่เคยร่วมงานกันไปแล้วในภาพยนตร์จีนแนวรักโรแมนติกเรื่อง “Adoring” (宠爱) เมื่อปี 2019
เรียกได้ว่าตลอดทั้งปี 2021 หน้าของ ‘จางจื่อเฟิง’ นั้นยังคงเฉิดฉายอยู่อย่างต่อเนื่องในตลาดภาพยนตร์จีน ซึ่งประเมินจากผลงานที่เข้าฉายไปแล้วและกำลังจะเข้าฉาย บอกได้เลยว่ายังไงในงานการแสดงสายภาพยนตร์สาวน้อย ‘จางจื่อเฟิง’ คนนี้ก็มีแววไปได้ไกลกว่านี้อย่างแน่นอนจ้า
‘เฉินเหวินฉี’ นักแสดงสาวชาวไต้หวัน เจ้าของรางวัลม้าทองคำในบทบาทนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมของปี 2017
‘เฉินเหวินฉี’ หรือ ‘เหวินฉี’ เกิดเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ค.ศ. 2003 (ปัจจุบันอายุ 17 ปี) เป็นนักแสดงหญิงชาวไต้หวันที่อายุน้อยที่สุดในบรรดา “4 สาวนักแสดงรุ่นใหม่แห่งยุคที่เกิดหลังปี 1995” ตัวของ ‘เหวินฉี’ เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงจีนในปี 2014 จากผลงานการแสดงในซีรีส์ของจีนแผ่นดินใหญ่เรื่อง “Lady's House” (淑女之家)
ต่อมาในช่วงปี 2017 ‘เหวินฉี’ เริ่มมีผลงานการแสดงที่โดดเด่นมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยในงานประกาศรางวัลม้าทองคำ ครั้งที่ 54 ของไต้หวัน (ซึ่งก่อนที่จะมีรางวัลคู่แข่งอย่าง “รางวัลไก่ทองคำ” จากจีนแผ่นดินใหญ่ผุดขึ้นมา รางวัลนี้เคยถูกขนานนามว่าเป็น “ออสการ์แห่งภาพยนตร์ภาษาจีน” มาก่อน) ‘เหวินฉี’ ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลม้าทองคำสำหรับตำแหน่งนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์ของจีนแผ่นดินใหญ่เรื่อง "Angels Wear White" (嘉年华) ซึ่งน่าเสียดายที่สุดท้ายพลาดรางวัลนี้ไป แต่แล้วในงานครั้งเดียวกันนั้นเอง ด้วยภาพยนตร์ของไต้หวันเรื่อง "The bold, The corrupt and The beautiful" (血观音) ทำให้สาวน้อย ‘เหวินฉี’ ไม่ต้องกลับบ้านมือเปล่า เพราะสุดท้ายคว้ารางวัลม้าทองคำในส่วนของนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมกลับมาครอบครอง
หลังจากมีผลงานการแสดงเรื่องเด่น ๆ ที่กวาดรางวัลมาเพียบในช่วงปี 2017 - 2018 แล้ว ในปี 2018 ‘เหวินฉี’ ได้มีโอกาสเข้ามาร่วมแสดงบทนำในซีรีส์ออนไลน์ของจีนแผ่นดินใหญ่เรื่อง “Eagles and Youngster” หรือ “ไขปริศนาล่าขุมทรัพย์ภูเขาหิมะ” (天坑鹰猎) ประกบคู่กับ ‘หวังจวิ้นข่าย’ (王俊凯) หัวหน้าวงไอดอลจีนชื่อดังอย่าง TFBOYS ที่มีแฟนคลับวัยรุ่นอยู่มากมายทั่วประเทศจีน งานนี้จึงมีส่วนทำให้ตัว ‘เหวินฉี’ กลายมาเป็นที่รู้จักมากขึ้น จนต่อมาในปี 2019 ‘เหวินฉี’ จึงได้รับการจัดรายชื่อให้เป็นหนึ่งใน “4 สาวนักแสดงรุ่นใหม่แห่งยุคที่เกิดหลังปี 1995”
สำหรับในปี 2021 นี้ ผลงานซีรีส์เรื่อง “เส้นทางชีวิต ลิขิตฝัน” (生活家) ที่ ‘เหวินฉี’ ร่วมแสดงนำในบทนางเอกนั้นได้รับผลตอบรับที่ดีมากในประเทศจีน ในซีรีส์เรื่องนี้ ‘เหวินฉี’ ท้าทายทักษะความสามารถด้านการแสดงของเธอ จากการรับบท “ชิวตงน่า” สาวออฟฟิศที่อายุมากกว่าชีวิตจริงของเธออยู่หลายปี แถมยังต้องมาประกบคู่กับ ‘ชิวเจ๋อ’ (邱泽) พระเอกที่ในชีวิตจริงแก่กว่า ‘เหวินฉี’ ถึง 22 ปี ซึ่งในช่วงก่อนออกอากาศ ประเด็นต่าง ๆ เกี่ยวกับนักแสดงถูกนำมาถกเถียงกันอยู่มากพอสมควร โดยเฉพาะเรื่องเคมีความเข้ากันของพระ-นางว่าจะไปรอดกันหรือไม่
แต่พอเมื่อซีรีส์ออกอากาศไปแล้ว เหมือนเป็นการได้พิสูจน์ว่า นักแสดงสาวอายุน้อยอย่าง ‘เหวินฉี’ นั้นเอาอยู่!! เพราะนอกจากเธอจะเล่นบทที่แก่กว่าอายุจริงได้อย่างเป็นธรรมชาติแล้ว งานนี้เคมีความเข้ากันของ ‘เหวินฉี’ และ ‘ชิวเจ๋อ’ ยังดีแบบสุด ๆ โดยแฮชแท็คโมเมนต์หวานตอนจบอย่าง #顾飞求婚邱冬娜# (แปลว่า “กู้เฟยขอชิวตงน่าแต่งงาน”) ติดเป็นฮอตเสิร์ชที่มีคนกดเข้าไปดูกว่า 210 ล้านวิวเลยทีเดียว
นอกจากซีรีส์เรื่อง “เส้นทางชีวิต ลิขิตฝัน” ผลงานการแสดงอีกเรื่องหนึ่งของ ‘เหวินฉี’ ที่น่าติดตามมากไม่แพ้กัน นั่นก็คือ ซีรีส์สั้นแนวลุ้นระทึกเรื่อง “Wisher” (致命愿望) โดยในซีรีส์สั้นเรื่องนี้ ‘เหวินฉี’ รับบทเป็น “ลู่หลี่” ประกบคู่กับ ‘ฟ่านเฉิงเฉิง’ (范丞丞) ที่รับบทเป็น “ฉิวเหวินตง” สำหรับเรื่องกำหนดการออกอากาศแม้จะยังไม่ได้รับการยืนยันที่แน่ชัด แต่ก็เริ่มมีแหล่งข่าวจีนหลายแห่งคาดการณ์กันไว้ว่าซีรีส์เรื่องนี้น่าจะออกอากาศให้ได้รับชมกันภายในปีนี้อย่างแน่นอน
สำหรับในปีนี้พิเศษสุด ๆ เพราะ ‘เหวินฉี’ ไม่เพียงแต่พิสูจน์ความแจ๋วของเธอผ่านผลงานการแสดงที่ปล่อยออกมาให้เราได้ชมทางหน้าจอเท่านั้น แต่เธอยังได้พิสูจน์ความสามารถให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาของทุกคนผ่านการสอบเข้า “วิทยาลัยการแสดงแห่งชาติจีน” ในปักกิ่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในสามมหาวิทยาลัยด้านศิลปะชั้นนำของประเทศจีน* ด้วยคะแนนสอบสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของทั้งสาขาวิชาการแสดงและสาขาวิชาการกำกับการแสดง เรียกได้ว่าอายุแค่นี้ แต่ความสามารถนี่ระดับสุดยอดจริง ๆ จ้า
*เกร็ดความรู้เพิ่มเติม :ในแวดวงของคนที่ติดตามวงการบันเทิงจีนมักจะเรียก "สามมหาวิทยาลัยด้านศิลปะชั้นนำของประเทศจีน" ที่ประกอบไปด้วย "วิทยาลัยภาพยนตร์ปักกิ่ง" "วิทยาลัยการแสดงแห่งชาติจีน" และ "วิทยาลัยการละครเซี่ยงไฮ้" ว่า “สามเสาหลัก” เพราะเป็นสถาบันการศึกษาที่ค้ำชูวงการบันเทิงจีน โดยดารา ศิลปิน นักแสดงในวงการเกินครึ่งล้วนแต่เป็นศิษย์เก่าหรือไม่ก็ศิษย์ปัจจุบันจากสามวิทยาลัยนี้ทั้งสิ้น