เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ สื่อจีน รายงาน (7 พ.ค.) วันหยุดวันแรงงานในปีนี้เป็นช่วงหยุดยาวครั้งแรกของจีนที่ปลอดโควิด ทำให้ชาวจีนพากันท่องเที่ยวชดเชยกับที่ขาดหายไปนาน โดยหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวจีนเปิดเผยว่า มีการเดินทางในประเทศมากถึง 230 ล้านครั้ง สถิติสูงสุดใหม่สำหรับช่วงวันหยุด
อย่างไรก็ดี ในช่วงเวลาดังกล่าว สถานที่ท่องเที่ยวจีนหลายแห่งต้องเผชิญกับปัญหาพฤติกรรมไม่เหมาะสมของนักท่องเที่ยวอีกครั้ง
“นครซีอาน” พบนักท่องเที่ยวปีนขึ้นไปบนกำแพงเมืองโบราณสมัยราชวงศ์หมิง (ค.ศ.1368-1644) เก่าแก่กว่า 600 ปี ทำให้อิฐหล่นลงมา นอกจากนี้ ยังมีนักท่องเที่ยวบางคนขุดดินด้านนอกของกำแพง บ้างก็เชิญชวนให้ลูกหลานปีนขึ้นไปวิ่งเล่นบนซากปรักหักพังสมัยราชวงศ์ถัง (ค.ศ. 618-907)
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุว่า พวกเขาต้องซ่อมแซมโครงสร้างโบราณสถานหลังจากคลื่นมหาชนมาท่องเที่ยว จนกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว โดยพื้นที่โบราณสถานมีความยาวกว่า 13.7 กิโลเมตร จะให้เจ้าหน้าที่มาคอยยืนควบคุมก็คงไม่ไหว
ด้าน “วัดเส้าหลิน” ในมณฑลเหอหนาน พบวัยรุ่นวาดรูปบนเสาหินจารึกโบราณเก่าแก่ 500 ปี นอกจากนี้ ยังพบรอยขีดเขียนบนต้นไผ่ใกล้วัด
“ *** อยู่ที่นี่” “ *** และ *** 1314” ซึ่งหมายความถึง การที่ทั้งสองคนจะใช้ชีวิตที่เหลือร่วมกันถูกสลักลงบนต้นไผ่
นอกจากนี้ผู้ใหญ่กลุ่มหนึ่งยังปีนขึ้นไปบนไม้ไผ่ และสนับสนุนให้เด็ก ๆ ปีนตาม เมื่อถูกถามว่าปีนขึ้นไปบนต้นไม้เพื่ออะไร ผู้ใหญ่คนหนึ่งบอกว่า “ ไปออกกำลังกาย”
สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ เพิ่มความพยายามในการจัดการกับนักท่องเที่ยวที่ "ไร้อารยธรรม" โดยวนอุทยานแห่งหนึ่งในมณฑลอันฮุยขับไล่นักท่องเที่ยว 2 คน หลังจากทั้งคู่ปีนขึ้นรั้วนิรภัยของขาหยั่งกระจกสะพานที่สูงจากพื้นดินประมาณ200 เมตร เพื่อถ่ายภาพ ท่ามกลางเสียงเตือนจากนักท่องเที่ยวอื่น ๆ
ด้านกำแพงเมืองโบราณซีอาน ส่งเจ้าหน้าที่แต่งตัวเป็นนักรบจากราชวงศ์ถัง คอยตรวจตราและตักเตือนนักท่องเที่ยวที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม