xs
xsm
sm
md
lg

เกือบเป็นเรื่อง!!! ‘ตู้ฮวา’ ซีอีโอเยว่ฮวามือลั่น กดไลค์คลิปข่าวลือที่ว่า ‘จางอี้ชิง’ - ‘หยางจื่อ’ กำลังคบหากัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เกือบจะเป็นเรื่องใหญ่โตกันซะแล้ว สำหรับข่าวลือเรื่องการคบหากันของ ‘จางอี้ชิง’ (张艺兴) และ ‘หยางจื่อ’ (杨紫) ที่ถูกพูดถึงกันบนโลกโซเชียลของจีนมาตั้งแต่ช่วงต้นปี เนื่องจากเมื่อวันที่ 24 เม.ษ. ที่ผ่านมานี้มีชาวเน็ตตาดีไปพบว่า ‘ตู้ฮวา’ (杜华) ซีอีโอของบริษัทเอ็นเตอร์เทนเมนท์ยักษ์ใหญ่ของจีนอย่าง “Yuehua Entertainment” (บริษัทต้นสังกัดของหวังอี้ป๋อ) ได้ไปกดไลค์คลิปวีดิโอเกี่ยวกับข่าวลือเรื่องที่ว่า ‘จางอี้ชิง’ และ ‘หยางจื่อ’ นั้นกำลังคบหากัน โดยจากการกระทำดังกล่าวทำให้ชาวเน็ตที่ติดตามข่าวลือเรื่องนี้อยู่แล้วเริ่มปักใจเชื่อ เพราะการกระทำดังกล่าวของ ‘ตู้ฮวา’ เหมือนเป็นการเพิ่มน้ำหนักความน่าเชื่อถือของข่าวลือนี้ให้มากขึ้น แต่ผ่านไปไม่กี่วัน ‘ตู้ฮวา’ ก็ออกมาโพสต์เว่ยป๋อส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องที่ได้กดไลค์คลิปดังกล่าวว่า “对不起,手滑!” (แปลว่า ขอโทษด้วย มือลั่น!) จากโพสต์ดังกล่าวกลับทำให้เธอได้รับผลตอบรับในเชิงลบโดยเฉพาะจากชาวเน็ตบางส่วนที่ไม่เห็นด้วยกับข่าวลือเรื่องการคบหากันของ ‘จางอี้ชิง’ และ ‘หยางจื่อ’ 

‘ตู้ฮวา’  ซีอีโอของบริษัทเอ็นเตอร์เทนเมนท์ยักษ์ใหญ่ของจีนอย่าง “Yuehua Entertainment” (แฟ้มภาพจาก เว่ยป๋อส่วนตัวของตู้ฮวา)

คลิปวีดิโอเกี่ยวกับข่าวลือเรื่องการคบหากันของ ‘หยางจื่อ’ - ‘จางอี้ชิง’ ที่ ‘ตู้ฮวา’ มือลั่นไปกดไลค์ (แฟ้มภาพจาก เว่ยป๋อ)

‘ตู้ฮวา’ ออกมาโพสต์ขอโทษผ่านเว่ยป๋อส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องที่ได้กดไลค์คลิปข่าวลือดังกล่าวไป (แฟ้มภาพจาก เว่ยป๋อ)
ย้อนรอยกันซะหน่อยว่าข่าวลือเกี่ยวกับการคบหากันของ ‘จางอี้ชิง’ และ ‘หยางจื่อ’ ที่ว่ามันมาได้อย่างไร

เมื่อต้นปีที่ผ่านมามีแอคเคาน์หนึ่งในเว่ยป๋อ (ซึ่งมีฉายาทวิตเตอร์เมืองจีน) ออกมาโพสต์เพื่อปล่อยข่าวลือเกี่ยวกับเรื่องราวของคนในวงการบันเทิงจีน โดยในข้อมูลระบุว่าในปีนี้จะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นคือ เรื่องเจิ้งส่วงกับการอุ้มบุญ เรื่องฮวาเฉินอวี่และจางปี้เฉินมีลูกด้วยกัน เรื่องจ้าวลี่อิ่งกับเฝิงเส้าเฟิงหย่าร้างกัน และเรื่องจางอี้ชิงและหยางจื่อกำลังคบหากัน จากข้อมูลตามข่าวลือที่ถูกปล่อยออกมาก็เกิดเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงกันบนโลกโซเชียลของจีน เนื่องจากรายชื่อดาราที่ถูกพาดพิงถึงนั้นล้วนเป็นดาราคนดังระดับแนวหน้าของจีนทั้งสิ้น

แอคเคาน์หนึ่งในเว่ยป๋อออกมาโพสต์เพื่อปล่อยข่าวลือเกี่ยวกับเรื่องราวของคนในวงการบันเทิงจีนในช่วงต้นปีที่ผ่านมา (แฟ้มภาพจาก sina news)
ตามข่าวลือที่ถูกปล่อยออกมาจากแอคเคาน์นั้น เรื่องของการอุ้มบุญของเจิ้งส่วงและเรื่องที่ฮวาเฉินอวี่กับจางปี้เฉินมีลูกด้วยกันถูกยืนยันก่อนช่วงเวลาที่แอคเคาน์นั้นจะโพสต์ ทำให้ชาวเน็ตยังไม่ให้ความสนใจเกี่ยวกับเรื่องความน่าเชื่อถือของข่าวลือต่าง ๆ สักเท่าไหร่นัก แต่เมื่อเร็วนี้ ๆ ข่าวลือเรื่องที่สามที่เคยกล่าวถึงอย่างเรื่อง “การหย่าร้างของจ้าวลี่อิ่งและเฝิงเส้าเฟิง” (คลิกเพื่ออ่านเพิ่มเติม) นั้นเพิ่งถูกยืนยันอย่างเป็นทางการว่าเป็นความจริง ทำให้ชาวเน็ตจีนบางส่วนเริ่มเชื่อถือและแห่กันมาให้ความสนใจกับข่าวลือเรื่องที่สี่ ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องที่ศิลปินหนุ่มชื่อดังอย่าง ‘จางอี้ชิง’ และนักแสดงสาวมากความสามารถอย่าง ‘หยางจื่อ’ อาจจะกำลังคบหากันอยู่มากขึ้นด้วย

ศิลปินหนุ่ม ‘จางอี้ชิง’ และนักแสดงสาว ‘หยางจื่อ’ ที่ตกเป็นข่าวลือว่าอาจจะกำลังคบหากันอยู่ (แฟ้มภาพจาก sina news)
จากกระแสข่าวลือเรื่องการคบหากันของ ‘จางอี้ชิง’ และ ‘หยางจื่อ’ ที่แพร่สะพัดบนโลกโซเชียลของจีนนั้น ทำให้มีชาวเน็ตจีนหลายรายเริ่มจับตามองทั้งคู่มากขึ้น บางรายถึงขนาดที่ว่ากลับไปขุดคุ้ยเรื่องราว ปฏิสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่มีต่อกัน เพื่อมาจับมาเชื่อมโยงและคาดเดากันไปต่าง ๆ นานาถึงความเป็นไปได้ที่ทั้งคู่จะคบหากัน โดยจากแหล่งข่าวหนึ่งของจีนที่ไปรวบรวมหลักฐานเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่ชาวเน็ตขุดคุ้ยมาได้นั้น ระบุว่าทั้งคู่ได้เคยไปถ่ายรายการวาไรตี้ Back to Field (向往的生活) ร่วมกัน ในงานกาล่าครั้งหนึ่งในตอนที่เดินสวนกันระหว่างขึ้นลงเวที ‘จางอี้ชิง’ จับมือ ‘หยางจื่อ’ เพื่อช่วยเธอก้าวขึ้นเวที หลังจากลงเวทีมาแล้วก็มีการมานั่งคุยกันอย่างสนิทสนม โดยตอนแรกระหว่างทั้งสองมีนักร้องรุ่นพี่อย่าง ‘ลัวจื้อเสียง’ (罗志祥) นั่งคั่นกลางอยู่ แต่เมื่อผ่านไปสักพักก็เกิดการสลับที่กันเกิดขึ้นโดยกลายเป็นว่า ‘จางอี้ชิง’ และ ‘หยางจื่อ’ มานั่งข้างกันแทน และทั้งคู่ก็ไม่วายคุยกันอย่างสนิทสนมอีกเช่นเคย 

‘จางอี้ชิง’ และ ‘หยางจื่อ’ ในรายการวาไรตี้ Back to Field (แฟ้มภาพจาก เว่ยป๋อ)

‘จางอี้ชิง’ และ ‘หยางจื่อ’ ในงานกาล่าครั้งหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าทั้งรู้จักกันและดูคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี (แฟ้มภาพจาก เว่ยป๋อ)
นอกจากนั้นในงานคอนเสิร์ตของจางอี้ชิงได้มีแฟนคลับจับภาพของผู้หญิงใส่หมวกแก๊ปสีขาวที่เข้ามาร่วมชมคอนเสิร์ตได้ โดยผู้หญิงคนดังกล่าวก็คือ ‘หยางจื่อ’ นั่นเอง ยิ่งไปกว่านั้นมีชาวเน็ตตามขุดคุ้ยไปถึงรูปที่ ‘จางอี้ชิง’ ลงเมื่อวันที่ 6 พ.ย. ปีที่แล้วซึ่งตรงกับวันเกิด ‘หยางจื่อ’ พอดี โดยในภาพเซ็ตดังกล่าวเป็นภาพของ ‘จางอี้ชิง’ ที่ถ่ายคู่กับป้ายไฟตัวอักษรสีม่วงของคำว่า “LOVE” ทำให้ชาวเน็ตที่จับตามองเรื่องราวของทั้งคู่ก็ได้คาดเดากันไปว่าเป็นการหมายถึงตัวนักแสดงสาว ‘หยางจื่อ’ หรือไม่ เพราะตัวอักษร “紫” ซึ่งเป็นชื่อของเธอ ในภาษาจีนแปลว่า “สีม่วง”

ภาพจากวีดิโอที่แฟนคลับถ่ายได้ในคอนเสิร์ตของ‘จางอี้ชิง’ ที่ปรากฎว่าผู้หญิงคนดังกล่าวคือ ‘หยางจื่อ’ (แฟ้มภาพจาก เว่ยป๋อ)

ภาพที่ถูกโพสต์บนเว่ยป๋อส่วนตัวของ ‘จางอี้ชิง’ที่ชวนให้ชาวเน็ตสงสัยว่าป้ายไฟคำว่า LOVE สีม่วง นี่หมายถึง ‘หยางจื่อ’ หรือไม่ เพราะเจ้าตัวดันลงเมื่อวันที่ 6 พ.ย. ปีที่แล้วซึ่งตรงกับวันเกิด ‘หยางจื่อ’ พอดิบพอดี
หลังจากข่าวลือดังกล่าวถูกพูดถึงกันมากขึ้น ในด้านแฟนคลับของ ‘หยางจื่อ’ ก็เริ่มโต้กลับด้วยการนำหลักฐานภาพบันทึกหน้าจอเกี่ยวกับโพสต์ต่าง ๆ ของสตูดิโอ ‘หยางจื่อ’ และเจ้าตัวที่พูดมาโดยตลอดตั้งแต่ปี 2018 ว่า "เธอนั้นโสดและชีวิตก็มีแต่งานเท่านั้น!!!" ในขณะเดียวกันก็มีชาวเน็ตบางส่วนเข้ามาชี้แจงเพิ่มเติมว่า สตูดิโอของ ‘จางอี้ชิง’ ก็เคยออกมาโพสต์ในเชิงตอบโต้ข่าวลือที่ว่า 'จางอี้ชิง' กำลังมีความรักตั้งแต่เนิ่น ๆ แล้วว่า “Sorry 只有三只猫” แปลว่า “ขอโทษนะ มีแมวแค่สามตัวเท่านั้นแหละ” นอกจากนั้นยังบอกอีกว่าทีมงานจากสตูดิโอ ‘จางอี้ชิง’ ได้ให้ข้อมูลว่า ‘จางอี้ชิง’ ไม่ได้กำลังมีความรักแต่อย่างใดและยืนยันด้วยว่าตัว ‘จางอี้ชิง’ นั้นยังโสด

แฟนคลับของ ‘หยางจื่อ’ รวบรวมหลักฐานเกี่ยวคำยืนยันจากทางฝ่าย ‘หยางจื่อ’ ที่ว่าตัวเธอนั้นโสดและชีวิตก็มีแต่งานเท่านั้น (แฟ้มภาพจาก เว่ยป๋อ)
แต่อย่างไรก็ตาม แม้จะมีชาวเน็ตออกมาโต้กลับข่าวลือเรื่องการคบหากันระหว่าง 'จางอี้ชิง' และ 'หยางจื่อโดยเผยหลักฐานเป็นคำยืนยันต่าง ๆ แต่ด้วยความแม่นยำจากข่าวลือเรื่อง “การหย่าร่างของจ้าวลี่อิ่งและเฝิงเส้าเฟิง” บวกกับเหตุการณ์มือลั่นของ ‘ตู้ฮวา’ ซีอีโอแห่ง “Yuehua Entertainment” ก็ทำให้กระแสข่าวลือเกี่ยวกับการคบหากันของ ‘จางอี้ชิง’ และ ‘หยางจื่อ’ บนโลกโซเชียลของจีนยังคงไม่หายไปเสียทีเดียว อีกทั้งกระแสบนโลกโซเชียลยังแตกออกเป็นสองเสียงด้วย โดยส่วนหนึ่งเป็นเสียงของทั้งชาวเน็ตที่เห็นว่าสตูดิโอต่าง ๆ ออกมายืนยันขนาดนี้ก็ควรจะเชื่อว่าข่าวลือดังกล่าวไม่เป็นความจริง ในขณะเดียวกันท่ามกลางคำยืนยันเหล่านั้นเสียงอีกส่วนหนึ่งของชาวเน็ตก็ยังไม่ปักใจเชื่อเสียเท่าไหร่นัก ซึ่งงานนี้ใครจะมีความคิดเห็นอย่างไรก็คงต้องขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละบุคคลแล้วล่ะจ้า


กำลังโหลดความคิดเห็น