กลุ่มสื่อต่างประเทศ รายงาน (26 เม.ย.) บริษัทจีนแห่เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในอัตราที่รวดเร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมา ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างสองประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของโลก และความเสี่ยงที่จะถูกเตะออกจากตลาดหุ้นมะกัน
รายงานระบุว่า ในปีนี้ บริษัทจีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกงจะระดมทุน 6.6 พันล้านดอลลาร์จากการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา เพิ่มขึ้น 8 เท่าจากปี 2563
การเสนอขายหุ้น “RLX Technology Inc.” ผู้ผลิตบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ และ “Tuya Inc.” บริษัทซอฟต์แวร์ ครองตำแหน่งการเสนอขายหุ้นที่ใหญ่ที่สุด ด้วยมูลค่า 1,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5 หมื่นล้านบาท) และ 947 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5 หมื่นล้านบาท) ตามลำดับ
ก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวระบุว่า “Didi Chuxing” ผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นรถยนต์ร่วมโดยสารรายใหญ่ของจีนย่องยื่นคำร้องเสนอขายหุ้นฯซึ่งสามารถระดมทุนได้ถึง 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.1 ล้านล้านบาท) ขณะที่ “Full Truck Alliance” ผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นรถขนของ คาดว่าจะระดมทุนได้ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6.2 หมื่นล้านบาท)
เมื่อปี 2557 “Alibaba Group Holding Ltd.” ของจีนระดมทุนได้ จำนวน 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 7.8 แสนล้านบาท) ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์
หุ้นบริษัทจีนยังได้รับการตอบรับอย่างดีในสหรัฐฯ ในปีนี้ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยร้อยละ 11% จากจากการซื้อขายในตลาดหุ้น
เมื่อเดือนที่แล้ว สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า สหรัฐฯ จะเริ่มใช้กฎหมายอนุญาตให้หน่วยงานของสหรัฐฯ ตรวจสอบทางการเงินบริษัทในต่างประเทศ บริษัทที่ไม่ให้ความร่วมมืออาจถูกเพิกถอนจากตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กหรือ Nasdaq ซึ่งเป็นสิ่งที่จีนปฏิเสธอย่างต่อเนื่อง โดยมีข้อห่วงกังวลด้านความมั่นคงของประเทศ
ทั้งนี้ บริษัทจีนนิยมเข้าระดมทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ด้วยเหตุผลหลายประการ เช่น การมีฐานนักลงทุนที่กว้าง สภาพคล่อง และการสร้างความร่วมมือกับบริษัทอื่น ๆ ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ