เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ สื่อจีน รายงาน (24 เม.ย.) วัยรุ่นจีนยุค “Generation Z” (ผู้ที่เกิดตั้งแต่ปี 2538 – 2553) ที่ยินดีซื้อสินค้าหรู คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 15 ของสินค้าราคาสูงทั้งหมดที่ขายได้ในจีน สูงกว่าค่าเฉลี่ยของโลกซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 10
รายงานระบุว่า ค่าใช้จ่ายของชาว Generation Z ยังคิดเป็นร้อยละ 13 ของรายได้ครัวเรือนทั้งหมด เปรียบเทียบกับสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรที่คิดเป็นสัดส่วนเพียงร้อยละ 4
ปัจจุบัน ชาวจีนยุคมิลเลนเนียล (เกิดระหว่างปี 2523-2538) และคน Generation Z มีจำนวนถึง 386 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 27 ของประชากร ซึ่งคนกลุ่มนี้กลายเป็นกำลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจีน แซงหน้าพฤติกรรมการบริโภคของเพื่อนวัยเดียวกันในตะวันตก
ชาวจีนวัยดังกล่าวส่วนใหญ่ไม่มีพี่น้อง ในขณะที่มีความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานเหมือนเป็นคู่แข่ง นอกจากนี้ยังมีความผูกพันกับอินเทอร์เน็ตสูงกว่าพ่อแม่มาก ทำให้คนกลุ่มนี้กระตือรือร้นที่จะเป็นเจ้าของสินค้า
โมนิกา หลิว วัย 25 ปี ผู้มีรายได้ปีละ 250,000 หยวน (1.25 ล้านบาท) ระบุว่า ผู้คนในช่วงอายุของเธอยังคงเป็นคนรุ่นใหม่ที่ใฝ่หาสินค้าหรูหราและยินดีใช้เงินจำนวนมากไปกับแบรนด์ในยุโรปและอเมริกา
“ ฉันจะใช้เงินเดือนทั้งหมดของฉันทุกเดือน 40 เปอร์เซ็นต์สำหรับค่าเช่าและอาหารและ 60 เปอร์เซ็นต์สำหรับ ความงาม ฟิตเนส การท่องเที่ยวและเสื้อผ้า การท่องเที่ยวเป็นสิ่งที่ต้องทำทุกเดือน” โมนิกากล่าว
ผลสำรวจพบว่า ผู้ที่เกิดหลังปี 2543 มีแนวโน้มจะออกไปพบปะผู้คนน้อยลง โดยมีเพียงร้อยละ 33 ที่ยินดีกับการออกไปสังสรรค์กับเพื่อนฝูง เนื่องจากพวกเขามีความสุขกับการจับจ่ายใช้สอยมากกว่า เทียบกับชาวจีนยุคปี 2503 ที่ชื่นชอบการรวมกลุ่มกับเพื่อฝูงมีจำนวนร้อยละ 42
หวง ฮั่นเหวิน รายการไลฟ์สตรีมมิงดังระบุว่า คนหนุ่มสาวในวัยของเขากังวลเกี่ยวกับรูปลักษณ์ หลายคนยินดีจ่ายเงินร้อยละ 40 ของรายได้หรือมากกว่านั้น ไปกับเครื่องสำอาง ยาเพื่อความงาม และเสื้อผ้า
รายงานวิจัยพฤติกรรมผู้บริโภคของเทนเซ็นต์ (Tencent) เจ้าพ่อไอทีจีน และกันตาร์ (Kantar) ผู้นำระดับโลกด้านการวิจัยผู้บริโภคเชิงลึก เปิดเผยว่า ชาวจีน Generation Z เห็นว่า การบริโภคมีเป้าหมายเพื่อแสวงหาการจดจำตัวตน โดยมีรูปแบบส่วนบุคคลและความพึงพอใจเป็นแรงจูงใจที่สำคัญ