สำนักข่าวซินหัว สื่อทางการจีน รายงาน (18 เม.ย.) — มหาวิทยาลัยจีนแห่งฮ่องกง (CUHK) ของจีนตีพิมพ์บทความในวารสารนานาชาติ Ultrasound in Obstetrics and Gynecology เปิดเผยผลการวิจัยพบว่า แม่ที่ฟื้นตัวจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) สามารถถ่ายทอดแอนติบอดีต่อเชื้อไวรัสฯ (SARS-CoV-2) สู่ทารกได้
ภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา สังกัดคณะแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัยฯ วิจัยกลุ่มตัวอย่างหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อไวรัสฯ ตั้งแต่เดือน มี.ค. 63 และคลอดลูกภายในเดือน ม.ค. 2564
ผลการศึกษายืนยันว่ามีการถ่ายโอนแอนติบอดีเชื้อไวรัสฯ จากแม่สู่ลูก โดยทารกแรกเกิด 12 ใน 13 คน มีผลทดสอบแอนติบอดีอิมมูโนโกลบูลินจี (IgG) ของเชื้อไวรัสฯ เป็นบวก
การศึกษายังพบว่า ระยะการติดเชื้อกระทั่งคลอดยิ่งนาน ความเข้มข้นของแอนติบอดีอิมมูโนโกลบูลินจีจะยิ่งลดลง
ลีโอนา พาน นักวิจัยของการศึกษาและศาสตราจารย์ภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยาของมหาวิทยาลัยฯ กล่าวว่า การค้นพบครั้งนี้ก่อให้เกิดคำถามถึง ผลกระทบที่เกิดจากวัคซีนต่อการถ่ายโอนแอนติบอดีอิมมูโนโกลบูลินจี (IgG) ของเชื้อไวรัสฯ จากแม่สู่ลูก
“มีความจำเป็นเร่งด่วนในการสร้างข้อมูลทางคลินิกเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีนโรคโควิด-19 ในหญิงตั้งครรภ์ ตลอดจนกำหนดเทคโนโลยีวัคซีนและระยะเวลาการฉีดวัคซีน ซึ่งจะสามารถมอบประโยชน์สูงสุดแก่สตรีมีครรภ์และทารก” พานกล่าวเสริม