ซินหัว/MGR Online - เศรษฐกิจจีนในไตรมาสแรกปีนี้เติบโตแบบก้าวกระโดดถึง 18.3% เมื่อเทียบปีต่อปี จากการฟื้นตัวด้านการผลิต การบริโภค และการค้าในแทบทุกด้าน บ่งชี้การเติบโตในรูปแบบตัววี (V) ตอกย้ำการคาดการณ์ของผู้นำที่ประกาศว่าในภาพรวมปีนี้เศรษฐกิจจีนจะโตขึ้น 6%
วานนี้ (16 เม.ย.) สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยว่าในไตรมาสแรกของปี 2564 ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนเติบโตแตะ 24.93 ล้านล้านหยวน (ราว 119.28 ล้านล้านบาท) หรือเติบโตกว่าร้อยละ 18.3
สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน ระบุด้วยว่าช่วงสามเดือนแรกในเดือนมกราคม-มีนาคม 2564 จีนมีการฟื้นตัวด้านการผลิตทางอุตสาหกรรมอย่างคงที่ มีการพัฒนาด้านยอดจำหน่ายในตลาด และการฟื้นตัวด้านการลงทุนสินทรัพย์ถาวร ตลอดจนกระแสการค้าสินค้าระหว่างประเทศที่โดดเด่นอย่างเห็นได้ชัด
ทั้งนี้เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว เศรษฐกิจจีนหดตัวร้อยละ 6.8 ในไตรมาสแรกของปี 2563 เนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19 ทว่ามาตรการควบคุมโรคที่เด็ดขาดและมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้จีนกลับมายืนหยัดได้อีกครั้งด้วยการเติบโตในรูปแบบตัววี (V) โดยมีการฟื้นตัวติดต่อกัน 3 ไตรมาสในปีก่อน คือ ร้อยละ 3.2 ในไตรมาสที่ 2, ร้อยละ 4.9 ในไตรมาสที่ 3 และร้อยละ 6.5 ในไตรมาสที่ 4
ก่อนหน้านี้ ในเดือนมกราคม 2564 สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน รายงานว่าจีดีพีจีนในปี 2563 เติบโตขึ้น ร้อยละ 2.3 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ในขณะทั่วโลกกำลังพยายามควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยจีนถือเป็นเศรษฐกิจหลักเพียงประเทศเดียวที่เติบโตในปีที่แล้ว และจีดีพีมีการปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 2
ต่อมา ในการประชุมประจำปีของสภาประชาชนแห่งชาติจีนระหว่างวันที่ 4-11 มีนาคม 2564 นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนประกาศว่าในปีนี้ คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจีนจะเติบโตขึ้นร้อยละ 6 นอกจากนี้อัตราการว่างงานในเมืองจากร้อยละ 6 มาอยู่ที่ร้อยละ 5.5