xs
xsm
sm
md
lg

‘อาม่า’ ปลดแอกชีวิตแม่บ้าน ลุยเดี่ยวขับรถเดินทางทั่วจีน กลายเป็นไอดอล “สตรีหาญ”ดังทั่วโลก (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ในภาพซู หมิ่น พักกลางทุ่งกว้างระหว่างเดินทางเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2020 (ภาพจาก เวยปั๋ว)
กว่า 30 ปีของชีวิตแต่งงาน ซูหมิ่นต้องคอยทำตัวตามความคาดหวังของคนอื่น เป็นภรรยาที่ต้องปฏิบัติตามกฎเหล็ก “ควร” และ “ไม่ควรทำอะไร” ต้องทำอาหารที่สามีชอบกินเท่านั้น...ไม่เคยได้กินอาหารที่ตัวเองชอบ ต้องให้สามีดูรายการหรือซีรีส์โปรดของเขาก่อน...เธอจึงสามารถเลือกดูรายการที่เธออยากดูได้

ในที่สุด ซูหมิ่น (苏敏)ในวัย 56 ปี ก็ปลดแอกชีวิตแม่บ้านที่ไร้ความสุข ก้าวสู่เส้นทางชีวิตที่อิสรเสรี โดยฉายเดี่ยวขับรถยนต์ หรือ Solo Road Trip ไปทั่วแผ่นดินใหญ่ จนชาวเน็ตจีนกว่าล้านคนยกให้เป็นไอดอลสตรีผู้กล้าท้าทายบรรทัดฐานทางเพศและวัยด้วยก็ว่าได้

ในช่วงหกเดือนกว่าหญิงวัยเกินศตวรรษผู้นี้ขับรถยนต์บุกตะลุยเที่ยวคนเดียวไปตามมณฑลต่างๆเป็นระยะทางกว่า13,000 กิโลเมตรแล้ว

“สตรีหาญ แผ่นดินใหญ่” ปลดแอกชีวิต

ในเช้าวันที่ 23 ก.ย. ของปีที่ผ่านมา ซูหมิ่นออกเดินทางไปเพียงลำพังคนเดียว โดยขับรถยนต์โวลค์สวาเกน โปโล สีขาว ที่เธอทวงคืนจากสามีมาได้ มันเป็นรถยนต์ที่เธอซื้อด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเองจากเงินที่เธอเก็บหอมรอมริบระหว่างเป็นคนงานในซูเปอร์มาร์เก็ตสองปี

ซูเหยียบคันเร่งพุ่งทะยานออกจากบ้านที่เมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนัน ปลดแอกจากการเป็นภรรยา แม่ของลูก ยายของหลาน ขณะนี้เธอเป็นเพียงนักเดินทางและได้ถ่ายคลิปวิดีโอโพสต์บนโลกออนไลน์ โดยใช้ชื่อบัญชี @50岁阿姨自驾游 แปลความหมายเป็นไทยได้ประมาณว่า “ป้าวัย 50 ขับรถเที่ยวเองคนเดียว” กลุ่มผู้หญิงจำนวนมากที่ต้องทนทุกข์อยู่กับชีวิตแต่งงานที่กดดันทำร้ายจิตใจอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันได้ออกมายกย่องความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวของเธอ

(ซ้าย) ภาพเซลฟี่ของซูหมิน (ขวา) เสบียงอาหารและข้าวของในรถสำหรับการลุยเดี่ยว Solo Road Trip ของอาม่าวัย 56  ภาพปี  2020 (ภาพจาก เวยปั๋ว)
อันทีจริงซูหมิ่นต้องอยู่ในโลกของการยับยั้งใจมาตลอดตั้งแต่วัยเด็ก เธอเติบโตในคัมโดของเขตปกครองตัวเองชนชาติทิเบต ตอนเด็กๆเธอได้แต่มองน้องชายเล่นผาดโผนกลิ้งตัวลงจากเนินเขาอย่างสนุกสนาน โดยไม่สามารถโดดลงไปเล่นด้วยได้ ต่อมาเธอมีหน้าที่คอยเก็บคอยซักกางเกงที่สุดแสนสกปรกของน้องชาย

หลังแต่งงานก็ต้องทนกับความเย็นชา และความรุนแรงจากสามี ขณะที่ลูกสาวก็เติบโตในบ้านหลังเล็กนั้น เมื่อลูกสาวเรียนจบวิทยาลัยและแต่งงาน ก็มีหลานฝาแฝดสองคนมาให้ผู้เป็นยายเลี้ยงดู

ซูได้เตรียมการเดินทางแบบฉายเดี่ยวมาเกือบปี ระหว่างเตรียมการนี้เธอยังทำหน้าที่ของยายทำงานบ้านไปตามปกติ แต่ก็ซุ่มสาละวนเตรียมข้าวสำหรับเดินทางคนเดียว ค้นข้อมูลในอินเทอร์เน็ต เมื่อเจออุปกรณ์ที่มีประโยชน์ในการเดินทาง เธอก็เก็บใส่ตะกร้าช้อปปิ้งบนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ชเถาเป่า

ขณะที่โรคระบาดแพร่ไปทั่วประเทศ แม้สามีสบประมาทภรรยาเรื่องที่คิดจะออกจากบ้านแต่ก็กลัวไม่มีใครคอยรับใช้และพยายามกีดกันเธอ ทว่า ซูได้ตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวที่จะก้าวออกไปสู่โลกกว้างลิ้มรสชาติชีวิตที่อิสรเสรี เธอเตรียมเสบียงของข้าวอุปกรณ์สำหรับชีวิตประจำวันไว้พร้อมทั้งเตาแก็สแบบพกพา หม้อ กระทะ ตู้เย็นขนาดเล็ก แบตเตอรี่โซลาร์ กระทั่งจีพีเอสไร้สาย วัตถุดิบอาหาร ที่นอนหมอนมุ้ง และเสื้อผ้าเครื่องกันหนาว...ฯลฯ

ชาวเน็ตอ่านเรื่องราวของเธอและรีโพสต์ ในเดือนต.ค.คลิปของซูหมิ่นกลายเป็นไวรัลในโต่วอิน หรือติ๊กต็อกจีน  จนถึงขณะนี้มีกลุ่มผู้ติดตามคลิป Solo Road Trip ของซูหมิ่น รวม 1.35 ล้านคน
บุกตะลุยไปในโลกอิสรเสรี

จากเจิ้งโจว เธอเดินทางไปยังซันเหมินซย่าเมืองริมฝั่งแม่น้ำเหลืองเป็นที่แรก จากนั้นไปยังซีอันถิ่นกองทัพหุ่นทหารดินเผาของจิ๋นซีฮ่องเต้ซึ่งเธอพักอยู่นานเป็นอาทิตย์ ระหว่างทางเธอพักค้างคืนตามที่จอดรถ ที่พักกางเต็นท์ฟรี หรือตามสถานีบริการบนทางด่วน

จากซีอันเดินทางต่อไปยังนครเฉิงตู มณฑลเสฉวนทางภาคตะวันตกเฉียงใต้จีน บุกตะลุยข้ามเทือกเขาฉิน ฝ่าเส้นทางที่คดเคี้ยวเป็นเขาพับผ้าที่ซึ่งแม้คนขับรถที่ช่ำชองก็กลัวกัน เธอใช้เวลา 8-9 ชั่วโมงกว่าในการผ่านเส้นทางวิบากอันตรายนี้ ระหว่างทางเธอพบคนขับรถผ่านเส้นทางนี้ไม่เกินสองคน แต่เธอไม่รู้สึกกลัวหรือเหงาว้าเหว่เลย...รู้สึกเพียงอิสรเสรี

ในยามบ่ายของบางวันหมอกปกคลุมเทือกเขามองเห็นทางข้างหน้าไม่เกิน 200 เมตร เธอจึงต้องจอดรถข้างทางเพื่อรอให้ทัศนะวิสัยดีขึ้น เมื่อเธอก้าวออกมาจากรถ สายลมปะทะเข้าที่ใบหน้า เธอรู้สึกถึงการได้ปลดปล่อยชีวิต เธอส่งวิดีโอสั้นไปให้กับครอบครัว “ดูสิ ถนนชันมาก ขุนเขางามสง่าเพียงไร” มีเพียงลูกสาวที่อวยพรขอให้เธอปลอดภัย

ซูหมิ่นถ่ายภาพภูมิทัศน์โลกแห่งอิสรเสรีของเธอ  (จาก @50?????? บน Weibo)
ภายในเวลาหนึ่งเดือนนับจากวันที่ออกจากบ้าน เธอขับรถไปมากกว่า 1,000 กิโลเมตร เติมแก็ส 5 ครั้ง และถูกหักคะแนนในใบขับขี่จากเหตุฝ่าฝืนกฎต่างๆที่ไม่คาดคิด แต่กระนั้นเธอยังยิ้มได้มากกว่าช่วงเวลานับจากที่เธอแต่งงาน


ทิ้งชีวิตสามี-ภรรยาที่เสมือนโลกแห่งเส้นคู่ขนาน

ซูไม่ค่อยขับรถบนทางด่วนเนื่องจากต้องใช้บัตร ETC ที่ผูกกับบัตรธนาคารของสามี เธอรู้จักเขาดีเขาจะต้องระเบิดอารมณ์ใส่เธอแน่หากบัตรของเขาถูกชาร์จเกิน 100 หยวน ในอดีตเวลาขับรถทางไกล เธอต้องจ่ายเงินคืนให้เขาหากเขาเป็นคนเติมน้ำมันคนสุดท้าย

ซูเปิดเผยชีวิตแต่งงาน 30 กว่าปี เธอรู้ว่าสามีไม่กินอาหารเผ็ด รู้ว่าเขาชอบตกปลาและชอบกินปลามาก รู้ว่าเมื่อเขาดูทีวีจะเปลี่ยนช่องไปมาดูช่องกีฬาและช่องข่าว เธอรู้ว่าเขามีโรคหัวใจและความดันโลหิตสูง แต่เธอไม่เคยรู้ความรู้สึกที่แท้จริงภายในจิตใจของเขา ตลอดเวลาทั้งสองเหมือนอยู่ในโลกของเส้นทางคู่ขนาน

“เธอพูดอย่างนี้ไม่ได้ เธอพูดอย่างนั้นไม่ได้ ไม่มีแม้แต่อิสระในการพูดในบ้านของตัวเอง” ซู เล่าชีวิตที่ขมขื่น เมื่อเขาโกรธเกรี้ยวก็จะขว้างปาข้าวของและบางทีซ้อมเธอบาดเจ็บไปหลายวัน เธอหลีกเลี่ยงที่จะมีเรื่องกับเขาด้วยการพูดให้น้อยที่สุด “การมีชีวิตอยู่กับเขา มีแค่ เครียด...เครียด...เครียด”

ซูเคยตั้งคำถามในใจ ที่สามีไม่ชอบเธอเพราะเธอไม่สวยพออย่างนั้นหรือ? แต่ก็ไม่เคยได้คำตอบที่ชัดเจน เขาเพียงย้อนถามว่า “เธอคิดว่าเธอมีอะไรดีแค่ไหนอย่างนั้นหรือ?”

ซูหมิ่นกำลังเดินขึ้นบันไดที่ Yibin Southern Sichuan Bamboo ในมณฑลเสฉวน ภาพปี 2020
ในวัฒนธรรมประเพณี ครอบครัวจีนชอบลูกชายมากกว่าลูกสาว เมื่อผู้หญิงไม่สามารถมีลูกชายให้ได้ก็จะถูกสามีและครอบครัวของเขาดูถูกดูแคลน ดังนั้น ซูจึงสงสัยว่าการที่ความสัมพันธ์กับสามีบูดเน่าเช่นนี้เป็นเพราะว่าเธอมีแต่ลูกสาว?”

ในปี 2019 ซูถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคซึมเศร้า เธอระเบิดร้องไห้ในบ้าน และเริ่มทำสมาธิ

หลังจากขับรถเดินทางไปหลายร้อยกิโลเมตร ซูโทรหาแม่เป็นครั้งแรกนับจากออกจากบ้าน เพียงต้องการบอกกับแม่ว่าเธอต้องการปลดเปลื้องจิตใจ สำหรับโลกทัศน์ของแม่ไม่เคยไปพ้นจากความคิดตามประเพณีจีน นั่นคือ “สิ่งดีๆทุกอย่างล้วนมาจากความปรองดองในครอบครัว” ซูรู้ดีว่าสำหรับแม่นั้นไม่มีเหตุผลอะไรที่จะทำให้ครอบครัวแตกแยกตราบเท่าที่สามีไม่ได้หลอกลวงหรือต้องการหย่า

ระหว่างเดินทาง ในแต่ละคืนซูหมิ่นต้องนอนคนเดียวในเต็นท์บนหลังรถยนต์
ซูเติบโตในครอบครัวที่ทิเบตจนกระทั่งอายุ 18 พ่อย้ายบ้านกลับมาที่ตอนในของประเทศอย่างกะทันหัน ปีที่สองซูกลับไปบ้านเกิดและทำงานในโรงงานปุ๋ย เมื่ออายุ 23 ปี ซูก็ต้องแต่งงาน สำหรับเด็กสาวในโรงงานแล้วมักแต่งงานก่อนอายุ 20 การที่ซูตัดสินใจแต่งงานเป็นเพราะต้องการอิสระจากพ่อแม่ โดยเฉพาะแม่ที่เข้มงวดแม้กระทั่งการตัดผมยังต้องขออนุญาต

การแต่งงานดูเหมือนการได้แยกออกมามีชีวิตอิสระ เพื่อนในโรงงานได้แนะนำเธอมาพบกับว่าที่สามีในขณะนั้น ทั้งสองพบกันเพียงสองสามครั้งก่อนเข้าพิธีแต่งงาน ในที่สุดเธอก็ได้ย้ายออกจากบ้านพ่อแม่สมใจ

แต่แล้วอิสรภาพของนางซูก็สิ้นสุดลงหลังแต่งงานไม่ทันข้ามปีเธอก็ตั้งครรภ์ จากนั้นเธอก็พบตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์ที่หนีเสือปะจระเข้ซึ่งยาวนานอีกกว่า 30 ปี

หลังจากที่ตัดสินใจเด็ดเดี่ยวออกจากบ้านและเดินทางบนถนนอิสรเสรี เธอได้แชร์คลิปบนแพลตฟอร์มวิดีโอสั้น ชาวเน็ตอ่านเรื่องราวของเธอและรีโพสต์ ในเดือนต.ค.คลิปของซูกลายเป็นไวรัลในโต่วอิน หรือติ๊กต็อกจีน จนถึงขณะนี้มีกลุ่มผู้ติดตามคลิป Solo Road Trip ของซูหมิ่น รวม 1.35 ล้านคนในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ และกลายเป็นไอดอลแห่งลัทธิสตรีนิยม หรือเฟมินิสต์ (feminist) ที่ฮ็อตที่สุดคนหนึ่ง


ซูหมิ่น เดินทางคนเดียวไปยังที่ต่างๆ โพสต์คลิปบอกเล่าการเดินทางและเล่าชีวิตครอบครัวที่สุดทนไปด้วย แต่บางคนไม่ชอบที่ซูเอาเรื่องส่วนตัวในบ้านออกมาแฉแบบหมดเปลือกเช่นนี้ ถึงขนาดขู่ว่าจะตบตีเธอถ้าได้พบหน้ากัน เธอตอบไปว่า “โชคดีจริงๆที่ไม่ได้เจอคุณ”

ความดังอย่างไม่คาดคิดของซูหมิ่นแสดงถึงการปะทะระหว่างสองพลังหลักในสังคมจีน คือ การขยายตัวอย่างรวดเร็วของอินเทอร์เน็ต และกระแสบูมของความตื่นตัวด้านความเท่าเทียมทางเพศในประเทศที่ประเพณีบทบาททางเพศยังฝังรากลึกโดยเฉาะกลุ่มคนชั่วรุ่นเก่า

“ฉันชอบกินพริกไทยมาก ตอนอยู่บ้านฉันไม่เคยได้กินพริกไทยเลยเพราะคนในบ้านไม่ชอบ เมื่อออกจากบ้านฉันได้กินพริกไทยทุกวัน”

ในเดือน มี.ค. 2021 Net-a-Porter เว็บไซต์ช้อปปิ้งสินค้าหรู ใช้ภาพของซูหมิ่นในโฆษณาวันสตรีสากล (เครดิตภาพ Net-a-Porter)
ในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา Net-a-Porter เว็บไซต์ช้อปปิ้งสินค้าหรู ได้นำภาพซูมาลงโฆษณาในวันสตรีสากล

เรื่องราวของซูหมิ่นดังไปทั่วโลก ค่ายสื่อยักษ์ใหญ่ นิวยอร์ก ไทม์ส ได้นำเรื่องราวของซูหมิ่นไปเผยแพร่เมื่อวันที่ 2 เม.ย.โดยใช้พาดหัวบทความ A Chinese ‘Auntie’ Went on a Solo Road Trip. Now, She’s a Feminist Icon

ซูพูดถึงการที่เธอกลายเป็นคนมีชื่อเสียงว่า เธอยังไม่มีคุณสมบัติเพียงพอสำหรับการเป็นเฟมินิสต์ “ฉันใช้เวลาหลายปีทีเดียวที่จะตัดสินใจว่าฉันต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง”

แปลเก็บความจาก ค่ายสื่อจีน SIXTH TONE, How a Woman’s Can’t-Stand-It-Anymore Road Trip Inspired China, 25 ธ.ค.2020

และ A Chinese ‘Auntie’ Went on a Solo Road Trip. Now, She’s a Feminist Icon เผยแพร่ใน The New York Times, 2 เม.ย.2021

ณ วันที่ 8 เม.ย. 2020 ซู หมิ่นเดินทางมาถึงมณฑลไห่หนัน หรือไหหลำ รวมเวลาที่เธอขับรถเดินทางคนเดียว 6 เดือน 14 วัน  ผู้ติดตามเรื่องราวของการเดินทางของซูหมิ่น กว่า 1.35 ล้านราย




กำลังโหลดความคิดเห็น