ขณะที่นักท่องเที่ยวคนอื่นๆชมทิวทัศน์ถ่ายภาพธรรมชาติสวยๆงามๆ แต่ชายสูงวัยคนหนึ่งกลับมองหาและดูแต่สุสานหรือหลุมฝังศพ
อี้ จิ่วฟาน บ้านอยู่ในเมืองฉังซา มณฑลหูหนัน ปีนี้เขาอายุ 87 ปี แกะสลักป้ายหลุมศพมา 31 ปี รวมนับหมื่นชิ้น! การที่ผู้เฒ่าอี้ได้กลายมาเป็นนักแกะสลักป้ายหลุมศพนี้มีความเป็นมาที่น่าทึ่ง...จากใจรักลงทุนซื้อหินซื้อเครื่องมือมาแกะสลัก ศึกษาพัฒนาฝีมือทักษะด้วยตัวเอง เมื่อเขาท่องเที่ยวไปตามที่ต่างๆก็สนใจมองแต่หลุมศพ ไม่สนใจชมทิวทัศน์เหมือนนักท่องเที่ยวทั่วไป
“ผมไม่มีโรคความดันโลหิตสูง ไม่มีโรคเบาหวาน ไม่มีโรคไขมันในเลือดสูง โรคอะไรๆก็ไม่มีทั้งนั้น การออกกำลังกายทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น ใส่ใจดูแลพักผ่อนให้เพียงพอ” อี้ บอกเคล็ดลับสุขภาพแข็งแรง
ผู้เฒ่าอี้ เล่าว่า “ตอนอายุ 50 กว่า ก็ปลดเกษียณแล้ว ไม่มีอะไรทำ ผมเป็นคนขยันขันแข็ง จึงหางานใหม่ทำ หาวัตถุดิบอุปกรณ์มาแกะสลักหิน ทีแรกไม่ได้คิดทำเป็นอาชีพ เริ่มจากแกะสลักป้ายหลุมศพของบรรพบุรุษใหม่หมด ผมไปซื้อหินมา พอแกะสลักด้านนั้นเสร็จก็มาแกะสลักด้านนี้ เพื่อนบ้านเห็นฝีมือการแกะสลักของผมไม่เลว จากนั้นก็ค่อยๆพัฒนาขยายใหญ่”
“ปี 1994 ผมเริ่มออกเดินทางท่องเที่ยว และพุ่งความสนใจไปที่หลุมฝังศพที่คนอื่นทำแทนที่จะชมวิวทิวทัศน์เหมือนนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ จากนั้นฝีมือก็พัฒนาขึ้น ผมถ่ายรูปสุสานทุกแห่ง และศึกษาป้ายหลุมศพทุกชิ้น”
“ผมเดินทางไปเยี่ยมชมและศึกษาสุสานตามที่ต่างๆ จากสถานที่ใกล้อย่างสุสานนักปฏิวัติใกล้ๆบ้าน และสถานที่ไกลออกไปในต่างแดน...ไต้หวัน เวียดนาม อเมริกา”
อี้เล่าต่อว่า สุสานที่ไต้หวันทำได้อลังการมาก วัฒนธรรมป้ายแกะสลักเป็นงานฝีมือที่ต้องอาศัยความรู้ อย่างเช่น การเขียนคำกลอนคู่ซ้าย- ขวา ที่จีนเรียกว่า ตุ้ยเหลียน (对联) การเขียนคำกลอนคู่นี้ต้องเลือกสรรให้เหมาะสมกับเจ้าของสุสาน
อี้ ยกตัวอย่าง ผู้ล่วงลับคนหนึ่งในยุคสงครามต่อต้านญี่ปุ่นคนหนึ่ง เขาติดเชื้อโรคระบาด ไม่มีหมอไม่มียารักษาจึงเสียชีวิต “ตอนนั้นเขายังหนุ่มมาก อายุแค่ 20 กว่าปี ดังนั้นผมจึงเขียนคำกลอนคู่ ที่มีความหมายประมาณว่า “ในกลียุคสงครามท่านเหยียนวายชนม์ก่อนที่ลูกหลานจะได้ทดแทนบุญคุณ”
เมื่อลูกๆหลานๆได้มาเห็นกลอนคู่นี้ ก็สำเหนียกถึงประวัติศาสตร์แห่งความทุกข์ยากที่บรรพบุรุษได้ประสบมา