รอยเตอร์ส-- H&M แถลงผลประกอบการไตรมาสแรกขาดทุนยับ และว่าจะหันมาทุ่มเทสร้างความไว้วางใจเชื่อใจกับคู่หุ้นส่วนธุรกิจจีนและเหล่านักช้อปในแดนมังกรหลังจากที่โดนจีนเปิดศึกโต้กลับเหล่าแบรนด์ดังโลกที่กล่าวหาว่ามีการละเมิดสิทธิมนุษย์ชนในซินเจียง
สืบเนื่องจากการที่เอช แอนด์ เอ็ม แห่งสวีเดนซึ่งครองแท่นยักษ์ใหญ่ค้าปลีกสินค้าแฟชั่นอันดับสองของโลก ได้เริ่มออกแถลงการณ์ในโซเชียลมีเดียตั้งแต่ปี 2020 ในเนื้อหาแถลงการณ์แสดงความวิตกเกี่ยวกับรายงานที่แฉการบังคับใช้แรงงานในเขตปกครองตัวเองชนชาติอุยกูร์แห่งซินเจียง และบอกว่าเอช แอนด์ เอ็ม จะไม่ใช้ฝ้ายจากซินเจียงอีกต่อไป แถลงการณ์ฉบับนี้ได้จุดกระแสให้กลุ่มแบรนด์ดังโลกทั้งค้าปลีกแฟชั่น-เครื่องกีฬา อย่างไนกี้ อาดิดาส ออกมาร่วมขบวนบอยคอตฝ้ายซินเจียง
ด้านจีนได้ระดมกลุ่มผู้รักชาติทั้งภาคเจ้าหน้าที่รัฐ ซุปตาร์ กลุ่มบริษัทรายใหญ่ และผู้บริโภคบอยคอตสินค้าแบรนด์ดังโลกที่บังอาจมากล่าวหาจีนละเมิดสิทธิมนุษย์ชน
H&M แถลงในเว็บไซต์ขององค์กรวันนี้(31 มี.ค.)ว่า ข้อตกลงสัญญาระหว่าง H&M กับจีน ยังเหนียวแน่น และบริษัทได้ฟื้นความเชื่อใจและมั่นใจกับผู้บริโภค ผู้ร่วมงาน และคู่หุ้นส่วนในจีน
“ในการทำงานร่วมกับกลุ่มผู้ถือหุ้น และคู่หุ้นส่วน เราเชื่อว่าเราจะจับมือกันเดินหน้าพัฒนาอุตสาหกรรมแฟชั่น ตอบสนองความต้องการผู้บริโภค และเคารพซึ่งกันและกัน”
H&M รายงานยอดขาดทุนก่อนหักภาษีระหว่างช่วงเดือนธ.ค.-ก.พ. ซึ่งเป็นไตรมาสแรกของปีการเงินบริษัท เท่ากับ 1.39 พันล้านคราวน์ (หรือ 159 ล้านเหรียญสหรัฐ/ หรือกว่า 4.9 พันล้านบาท) เทียบกับปีก่อนหน้าที่มีกำไรอยู่ที่ 2.50 พันล้านคราวน์ หรือ 8.99 พันล้านบาท จากการวิเคราะห์จากการสำรวจของ Refinitiv ได้คาดการณ์ยอดขาดทุนเฉลี่ย เท่ากับ 1.41 พันล้านคราวน์ หรือกว่า 5 พันล้านบาท
*อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินคราวน์/บาท (31 มี.ค. 2021): 1 โครนาสวีเดน = 3.5788 บาท