xs
xsm
sm
md
lg

จีนลงดาบหยุดความบันเทิงสุดสามานย์ใน “ประเพณีหยอกเจ้าสาวในคืนวิวาห์”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“ความหมาย”ของ “ประเพณีหยอกเจ้าสาวในคืนวิวาห์”ในความเป็นจริงได้ตายไปนานแล้ว  หากแต่ตัว “ประเพณีหยอกเจ้าสาวในคืนวิวาห์”ยังไม่ตาย และได้กลับกลายเป็นการละเล่นแผลงๆที่เน่าเฟะ กลายเป็นปรากฏการณ์ความรุนแรง
1...


ความหมาย“ประเพณีหยอกเจ้าสาวในคืนวิวาห์” ตายไปนานแล้ว

ในพิธีแต่งงานแบบประเพณีจีนที่สืบทอดกันมาแต่โบราณกาลนั้นมีขั้นตอนหนึ่งที่จีนเรียกว่า “เน่าฮุน” (闹婚) หรือ “เน่าซินเหนียง” (闹新娘) ซึ่งเป็นประเพณี “หยอกเจ้าสาวในคืนวิวาห์” โดยแขกที่เข้าร่วมงานแต่งจะจัดกิจกรรมสนุกสนานครื้นเครงหยอกล้อเจ้าสาว   ในยุคโบราณได้ผุด “ประเพณีหยอกเจ้าสาวในคืนวิวาห์”นี้ขึ้นเพื่อให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวที่โดยทั่วไปแต่งงานกันแบบคลุมถุงชนนั้นได้สร้างคุ้นเคยกันขจัดความรู้สึกเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน

ในยุคปัจจุบันคู่รักคบหาดูใจหรืออยู่ด้วยกันก่อนแต่ง   “ความหมาย”ของ “ประเพณีหยอกเจ้าสาวในคืนวิวาห์”ในความเป็นจริงจึงได้ตายไปนานแล้ว หากแต่ตัว “ประเพณีหยอกเจ้าสาวในคืนวิวาห์”ยังไม่ตาย และได้กลับกลายเป็นการละเล่นแผลงๆที่เน่าเฟะ กลายเป็นปรากฏการณ์ความรุนแรงที่ตกเป็นข่าวฉาวโฉ่ไปทั่วโลกในช่วงปีสองปีมาจนถึงบัดนี้ก็ดูยังไม่เลิกลา

ล่าสุดรัฐบาลท้องถิ่นเมืองจัวผิง มณฑลซันตง ได้ออกประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา ห้ามการ “หยอกเจ้าสาวในคืนวิวาห์”ที่ชั่วช้าสามานย์ทำลายสังคมที่อารยะ และปฏิรูปพิธีแต่งงานตามประเพณี

ในประกาศฯได้แจงรายการห้าม “หยอกเจ้าสาวในคืนวิวาห์” ดังต่อไปนี้

1)ห้ามบังคับเจ้าบ่าว เจ้าสาว หรือผู้เข้าร่วมพิธีแต่งงานอื่นๆถอดเสื้อผ้า จับมัดตัว
2) ห้ามบังคับเจ้าบ่าวหรือผู้เข้าร่วมพิธีแต่งงานอื่นๆให้แต่งตัวแบบวิกลที่ขัดต่ออารยะในสังคม
3)ห้ามบังคับจูบ กอด หรือการกระทำที่เป็นการลบหลู่ศักดิ์ศรีคน การกระทำลามกอนาจารเจ้าสาว และเพื่อนเจ้าสาว
4)การทำให้ร่างกายของเจ้าบ่าว เจ้าสาว และแขกในงานเปรอะเปื้อนจากการละเลงสีหรือสาดสิ่งของต่างๆ ใส่
5)การบังคับให้เจ้าบ่าว เจ้าสาว และแขกในงาน ทำการแสดงที่ต่ำตมต่างๆที่เป็นการลบหลู่ดูหมิ่น
6) ห้ามนำภาพหรือคลิปวิดีโอกิจกรรม “หยอกเจ้าสาวในคืนวิวาห์” มาตัดต่อและเผยแพร่บนอินเทอร์เน็ตด้วยเจตนาชั่วร้ายหรือเพื่อผลประโยชน์อื่นๆ
7)ห้ามกิจกรรมที่ก่อความวุ่นวาย ทำลายระเบียบและความสงบเรียบร้อยในสังคม

จัวผิงไม่ใช่รัฐบาลท้องถิ่นรายแรกที่ออกโรงมาปราบการสร้างความสนุกสนานครื้นเครงที่ถ่อยสถุลในพิธีแต่งงานแบบประเพณีจีน เมื่อสองปีที่แล้ว (2019) รัฐบาลท้องถิ่นอำเภอเซิน มณฑลซันตง ได้ประกาศห้าม “ประเพณีหยอกเจ้าสาวในคืนวิวาห์” หลังจากที่เกิดเหตุความรุนแรงหลายกรณีในพิธีแต่งงาน

เจ้าบ่าววัย 24 ปี ดับอนาถจากเหตุถูกรถชนขณะที่เขาวิ่งหนีฝูงเพื่อนที่รุมถอดเสื้อผ้าเขาจนเหลือแต่กางเกงในพิธีแต่งงาน
2…

“ฝันร้ายในคืนวิวาห์” ที่ตามหลอกหลอนไปชั่วชีวิต


เจ้าสาวคนหนึ่งเปิดเผยในโซเชียลมีเดียจีนเมื่อสองปีที่แล้ว ว่าในคืนวันแต่งงาน เธอถูกชาย 7 คน รุมทำอนาจาร ถอดชุดแต่งงานจนล่อนจ้อน เธอดิ้นรนร้องสุดฤทธิ์ให้เจ้าบ่าวมาช่วย แต่เจ้าบ่าวถูกลากไปกินเหล้าที่ไหนก็ไม่รู้…เหตุร้ายที่เกิดขึ้นกับเธอในคืนวันแต่งงานที่เธอรอคอยมาถึงแปดปี กลับกลายเป็นฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนเธอมาตลอด

อีกกรณี...เจ้าสาวโดนทำอนาจารโดยชายที่มาร่วมงานคนหนึ่งยัดสิ่งของบางอย่างเข้าไปในชุดเจ้าสาว และลูบหน้าอกเลยไปถึงส่วนล่าง

ไม่เพียงเจ้าสาวที่ตกเป็นเป้าการสร้างความบันเทิงแผลงๆ เพื่อนเจ้าสาวยังมักตกเป็นเหยื่อโดนหางเลขถูกทำอนาจารด้วย กรณีที่น่าเศร้าสลดเมื่อปี 2013 ที่เมืองไท่อัน มณฑลซันตง เพื่อนเจ้าสาววัย 16 ปีถูกทำอนาจารซึ่งกระทบกระเทือนจิตใจเธอมากถึงกับพยายามฆ่าตัวตายหลายครั้งในเวลาต่อมา

เจ้าบ่าวถูกบังคับให้สวมชุดชั้นในผู้หญิง
ภาพการสร้างความบันเทิงสุดสามานย์ในพิธีแต่งงานในจีนกระฉ่อนไปทั่วโลก โดยค่ายสื่อตะวันตก เดลีเมล์ (dailymail) ได้รวบรวมกรณีความรุนแรงในกิจกรรม หยอกเจ้าสาวในคืนวิวาห์ ที่จีนเรียก“เน่าฮุน” ซึ่งฝรั่งได้ให้ความหมายเป็น “พิธีรับน้อง” ตัวอย่างกรณีแผลงๆโหดๆ เช่น

เจ้าบ่าวถูกจับมัดกับต้นไม้ การราดเบียร์หรือซอสหรือปาไข่ใส่เจ้าบ่าวเจ้าสาว

ในพิธีแต่งงานบางแห่งบังคับให้เจ้าบ่าวสวมชุดชั้นในผู้หญิง

ในพิธีแต่งงานงานหนึ่งที่มณฑลกุ้ยโจวเมื่อเดือนพ.ย. 2019 เจ้าบ่าววัย 24 ปีเสียชีวิตอย่างอนาถจากเหตุรถชนขณะที่วิ่งหนีฝูงเพื่อนที่รุมถอดเสื้อผ้าเขาจนเหลือแต่กางเกงใน

ในเดือนต.ค.2017 เจ้าบ่าวในเมืองเจิ้งโจวเกือบจบชีวิตลงในวันแต่งงานของเขาหลังจากที่ถูกเพื่อนๆจับมัดกับต้นไม้ และฉีดสเปรย์เครื่องดับเพลิงใส่หน้า

ผู้กำกับชื่อดัง  อั้งลี่  กล่าวว่า “ประเพณีหยอกเจ้าสาวในคืนวิวาห์” เป็นผลพวงจากการกดขี่ทางเพศห้าพันปีของจีน  ในภาพ: ฉากหนึ่งในภาพยนตร์เรื่อง The Wedding Banquet ที่ อั้ง ลี่ เป็นผู้กำกับกำกับการแสดง
3…


“สังคมรักษาหน้า รักษาความรู้สึกกัน” สืบทอดการกดขี่ทางเพศห้าพันปี

ผู้กำกับชื่อดัง อั้งลี่ (李安) เคยกล่าวถึง “ประเพณีหยอกเจ้าสาวในคืนวิวาห์”เป็นผลพวงจากการกดขี่ทางเพศที่เป็นมานานถึงห้าพันปี ไม่ว่าพฤติกรรมต่ำช้าหรือวิกลวิปริตต่างๆของคนกลุ่มหนึ่งล้วนแสดงออกมาในนามของธรรมเนียมหรือประเพณีนิยม เรื่องสามานย์ดังกล่าวไม่เพียงแสดงถึงการไม่ให้เกรียติคู่บ่าวสาว ยังได้สะท้อนโดยตรงถึงปัญหาการขาดการอบรมกล่อมเกลา

แน่นอน “ประเพณีหยอกเจ้าสาวในคืนวิวาห์” นับวันยิ่งต่ำตมล้ำเส้นศีลธรรมจรรยาและระเบียบสังคม มูลเหตุของปรากฏการณ์ที่รุนแรงเหล่านี้มาจากการที่ผู้กระทำได้รับการยอมรับโดยนัยจาก “ระเบียบชุมชน” และ “การเห็นแก่หน้าตา ความรู้สึก”มาเป็นเวลานาน การกระทำที่หยาบช้าสามานย์ในแต่ละครั้งนั้นถูกมองเป็นธรรมเนียมประเพณี ส่วนกลุ่มคนที่ถูกกระทำถูกทำร้ายนั้นต้องทนทุกข์ขมขื่นใจอย่างแน่นอน แต่เหยื่อเหล่านั้นก็ตกเป็นตัวประกันของสิ่งที่เรียกขานว่า “ระเบียบชุมชน” และ “ธรรมเนียมประเพณี” ไม่กล้าที่จะ “สร้างความผิดหวัง เสียอารมณ์” (ในงานมงคล) และจึงไม่กล้า “ขัดขืนต่อความบันเทิงรวมหมู่” ที่สุดแสนสามานย์

“ผมสะอิดสะเอียนนัก กับพวกที่อ้าง “ธรรมเนียมประเพณี” มาทำเรื่องต่ำช้าอย่างประเพณีหยอกเจ้าสาวในคืนวิวาห์ที่ป่าเถื่อน ประเพณีคือการสืบทอดวัฒนธรรมดีงาม ไม่ใช่พวกกากเดนนรกเขมือบดะไปหมดไม่รู้สัตว์รู้คน ในยุคสมัยที่อารยะเบ่งบาน ผู้คนควรตื่นได้แล้ว กำจัดวัฒนธรรมที่เลวร้าย ภาคภูมิใจกับการได้แก้ไขในสิ่งที่ผิด กลุ่มผู้หญิงต้องตื่นตัวอยู่เสมอ ต้องกล้าที่จะลุกขึ้นมาเอาเรื่อง “การคุกคามทางเพศ” ในแต่ละครั้งที่ปล่อยพวกนี้ลอยนวลเท่ากับเป็นส่งเสริมให้คนทำผิดเหิมเกริม ไม่ว่าการเห็นแก่หน้า การรักษาความรู้สึกหรือรักษาน้ำใจกัน “การก้มหน้าทนแบกรับความขมขื่น” กลับเป็นแรงกระตุ้นความเลวร้ายที่รุนแรงมากขึ้น” อั้งลี่ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น