เอเจนซีส์--รัฐบาลท้องถิ่นแห่งเซินเจิ้นจับมือบริษัทผู้ผลิตชิปรายใหญ่ในเซี่ยงไฮ้ คือ SMIC ผุดบริษัทรับจ้างผลิตชิปมูลค่าถึง 2.35 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญในการพึ่งพาตัวเองได้ในด้านเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ในอนาคต
SMIC กล่าวว่าทางบริษัทได้บรรลุข้อตกลงกับรัฐบาลท้องถิ่นเซินเจิ้นในโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตแผ่นเวเฟอร์ (wafer fabrication plant) ในเมืองเซินเจิ้น โดย SMIC ถือหุ้น 55 เปอร์เซ็นต์ และรัฐบาลท้องถิ่นเซินเจิ้น ถือหุ้น 23 เปอร์เซ็นต์
SMIC Shenzhen จะมุ่งไปที่การผลิตเทคโนโลยีชิปขนาด 28 นาโนเมตรขึ้นไป โดยตั้งเป้าผลิตแผ่นเวเฟอร์ขนาด 12 นิ้ว จำนวน 40,000 ชิ้นต่อเดือน เป็นที่คาดว่าโรงงานใหม่จะเริ่มการผลิตได้ในปี 2022 และเพิ่มความสามารถผลิตในยามที่โลกขาดแคลนชิป สำหรับชิปขนาด 28 นาโนเมตรนี้เป็นชิปที่มีคุณสมบัติเหมาะเหม็งระหว่างชิประดับต่ำไปถึงชิประดับกลาง และชิประดับกลางไปถึงชิประดับไฮเอน
ทั้งนี้ แผ่นเวเฟอร์ใช้สำหรับสร้างวงจรรวม (IC) หรือชิป ถือเป็นอุตสาหกรรมขั้นต้นของการผลิตเครื่องใช้และอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์
ความเคลื่อนไหวนี้จะช่วยให้จีนบรรลุแผนพึ่งพาตัวเองได้ในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักแตอร์หรือสารกึ่งตัวกึ่งในขณะที่ต้องทำศึกการค้ากับสหรัฐฯ SMIC (Semiconductor Manufacturing International Corporation) ก็โดนหางเลขเข้าไปอยู่ในบัญชีดำ (Entity List) พร้อมกับหัวเหวย การที่วอชิงตันขึ้นบัญชีดำกลุ่มบริษัทไอทีจีนซึ่งห้ามบริษัทสหรัฐฯค้าขายด้วย เสมือนถูกตัดท่อน้ำเลี้ยงการผลิตด้านเทคโนโลยีขั้นสูง
อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการตลอดปีที่ผ่านมาของ SMIC ทำสถิติที่ 3.91 พันล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากความต้องการเซมิคอนดักเตอร์ของภาคเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (Consumer Electronics) มีอยู่สูง
ในเดือน พ.ย. 2020 สมาคมเซมิคอนดักเตอร์แห่งจีน แถลงความคาดหวังว่าจีนจะพึ่งตัวเองได้ในการผลิตเทคโนโลยีชิปขนาด 28 นาโนเมตรภายในสองปี สำหรับชิปขนาด 28 นาโนเมตรนี้ใช้ในการผลิตอุปกรณ์ IoT