ร่มฉัตร จันทรานุกูล
มหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และธุรกิจระหว่างประเทศ วิทยาลัยนานาชาติ กรุงปักกิ่ง UIBE
ผู้ที่ติดตามข่าวเศรษฐกิจอยู่บ้าง อาจจะทราบว่าเศรษฐกิจจีนในปีที่แล้วเติบโตเป็นบวก ติดลบเพียงช่วงไตรมาสแรกของปีที่แล้วเนื่องจากการระบาดของโควิด-19 อย่างรุนแรงในอู่ฮั่น หลังจากนั้นไตรมาสที่ 2-4 เติบโตเป็นบวกมาตลอด สรุปผลเมื่อปีที่แล้วทั้งปีเศรษฐกิจจีนเติบโตเทียบกับปี 2019 เฉลี่ย +2.3% ในขณะที่เศรษฐกิจประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกติดลบกันระนาว
หากดูรายละเอียดการเติบโตเศรษฐกิจรายไตรมาสของจีนปี 2020 ในแต่ละไตรมาสมีอัตราการเติบโตดังนี้ ไตรมาสที่1 (-6.8%) ไตรมาสที่2 (+3.2%) ไตรมาสที่3 (+4.9%) ไตรมาสที่4 (+6.5%) และขนาดของเศรษฐกิจจีนในปีที่แล้วคิดเป็น 17% ของขนาดเศรษฐกิจโลก และ จีดีพี ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศจีนทะลุ101.6 ล้านล้านหยวน ดังนั้นจะเห็นได้ว่าการเติบโตของเศรษฐกิจจีนเป็นที่น่าพอใจและทำสถิติใหม่ในสถานการณ์วิกฤตินี้
วันนี้ผู้เขียนอยากจะมาบอกเล่าสู่กันฟังเกี่ยวกับเรื่องของเศรษฐกิจจีนกับการฝ่าฟันอุปสรรค ภายใต้ผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ที่มีมาปีกว่า เศรษฐกิจจีนเทียบกับประเทศอื่นๆ ถือว่ายังเติบโตแข็งแกร่ง ในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนออกประกาศผลการเติบโตทางเศรษฐกิจจีนในปี 2020 ที่ จีดีพี ทะลุ 101.6 ล้านล้านหยวนซึ่งทั่วโลกมี 18 ประเทศเท่านั้นที่มีขนาดจีดีพี มากกว่า 100 ล้านล้านหยวน การเติบโตที่ทำลายสถิติดังกล่าว มีความหมายสำหรับจีนหลายประการดังนี้
- ศักยภาพของเศรษฐกิจจีนโดยรวมและระดับของเทคโนโลยีในประเทศขึ้นสู่อีกระดับ
- การค้าต่างประเทศจีนในปี 2020 ปริมาณนำเข้าและส่งออกจีนมากถึง 32 ล้านล้านหยวน เติบโตขึ้น 1.9% และจีนเป็นประเทศเดียวในโลกที่การค้าสินค้าระหว่างประเทศเติบโตเป็นบวก แถมยังทำสถิติการเติบโตใหม่อีก
- จากผลกระทบจากโควิด-19 อัตราการว่างงานจีนต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ที่ 5.5% โดยประชากรในเมืองมีอัตราการว่างงาน 4.2%
การเติบโตของเศรษฐกิจจีนอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ความกดดันและความท้าทายของการต่อสู้กับการระบาดของโควิด-19 ภายในประเทศ พร้อมกับการป้องกันโควิด-19 ขาเข้า เป็นงานที่หนักเอาการ
ที่สำคัญคือการประกันมาตรฐานชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน การควบคุมการว่างงานและพยุงกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศให้กลับเข้ามาสู่ภาวะปกติให้เร็วที่สุด
ผู้เขียนมองว่าหลายประเทศยากนักที่จะบริหารจัดการได้แบบจีน งานแรกที่ทำคือการจำกัดการแพร่ระบาดแบบทันการณ์ พร้อมด้วยการระดมตรวจแบบเชิงรุกเร่งด่วน ส่วนเรื่องของอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันโควิด-19 ทั้ง ชุดตรวจและเครื่องตรวจ หน้ากากอนามัย ชุดป้องกัน ก็สามารถจัดการได้เร่งด่วนในระยะเวลาอันสั้น เช่น เรื่องของหน้ากากอนามัยแบบใช้แล้วทิ้ง จากขาดตลาดใช้เวลาเพียง 2-3 เดือนเท่านั้นกลับมาสู่ราคาปกติและหาซื้อได้ทั่วไป
ทุกวันนี้จีนยังเป็นประเทศส่งออกอุปกรณ์เครื่องมือที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันโควิด-19 ที่สำคัญของโลก
หลังจากการควบคุมการระบาดเป็นผลสำเร็จแล้ว จีนพิจารณาถึงเรื่องของการกลับมาทำงานของประชาชน การผลักดันภาคธุรกิจไม่ให้หยุดชะงัก โดยออกมาตรการช่วยเหลือภาคเศรษฐกิจอย่างทันท่วงที เพื่อช่วยประคองภาคธุรกิจที่เป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ประคองอัตราการจ้างงานเพื่อให้ประชาชนชนชั้นกลางถึงล่าง มีงานทำเพื่อจุนเจือชีวิตและครอบครัว จีนมองว่าเรื่องนี้คือเรื่องเร่งด่วน
"6 ประคองและ 6 ประกัน"
ต่อมาคือเรื่องของการกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนในประเทศ โดยได้สนับสนุนและเผยแพร่นโยบายเศรษฐกิจที่ว่า “内循环” อ่านว่า เน่ยซุนหวน แปลว่า "เศรษฐกิจแบบหมุนเวียนในประเทศ" ในแต่ละเทศกาลออกบัตรกำนัลกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชน เช่น ส่วนลดการใช้จ่ายออนไลน์หรือส่วนลดในร้านอาหาร เป็นต้น สนับสนุนให้โรงงานที่ผลิตเพื่อการส่งออก กลับมาขายให้ในประเทศมากขึ้น พยายามขยายไลน์สินค้าให้เหมาะกับลูกค้าภายในประเทศมากขึ้น
อีกทั้งตรุษจีนในปีนี้เนื่องจากข้อจำกัดของการเดินทางออกไปช็อปปิ้งต่างประเทศ เกาะไหหลำกลายเป็นสวรรค์นักช็อปชาวจีน ในช่วงตรุษจีนยอดขายของร้านค้าปลอดภาษีฯ รวมมากกว่า 700 ล้านหยวนเลยทีเดียว
“ในวิกฤติเกิดโอกาส” ข้อจำกัดของการเคลื่อนย้ายประชากร การทำงานอยู่ที่บ้าน ทำให้เกิดธุรกิจใหม่ขึ้นมามากมายพร้อมยังกระตุ้นการเติบโตของธุรกิจออนไลน์หลากหลายประเภท
เทคโนโลยี 5G และปัญญาประดิษฐ์(AI) ทำให้การดำเนินธุรกิจและชีวิตประชาชนไม่หยุดชะงัก กระนั้นการที่จีนพยายามประคองการเติบโตอย่างรอบด้าน ยังต้องประสบความเสี่ยงกับสถานการณ์โลกและความไม่แน่นอน ทำให้การฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศยังมีความเสี่ยงอยู่เช่นกัน
แนวทางของจีนที่ยึดถือในช่วงวิกฤติโควิด-19 ตลอดมาคือ “六稳,六保” อ่านว่า ลิ่วเหวิ่น-ลิ่วเป่า หมายถึง "6 ประคองและ 6 ประกัน" ขยายความคือ "ประคองอัตราการทำงาน - ประคองการเงิน - ประคองการค้าระหว่างประเทศ - ประคองการลงทุนจากต่างชาติ - ประคองการลงทุนในต่างประเทศ - ประคองเป้าหมายที่ตั้งไว้" ส่วน 6 ประกันคือ "ประกันการจ้างงาน - ประกันคุณภาพชีวิตประชาชน - ประกันเศรษฐกิจมหภาค - ประกันภาคเกษตร - ประกันการผลิตให้เพียงพอ - ประกันการเติบโตพื้นฐานของเศรษฐกิจ" โดยทั้งสองแนวทางนี้ต้องปฎิบัติไปพร้อม ๆ กัน ไม่อาจแยกกันได้