จีนเตรียมเปิดการประชุมเต็มคณะสภาผู้แทนประชาชนในวันศุกร์นี้ (5 มี.ค.) โดยมีวาระการประชุมสำคัญคือ การตัดสินแผนปฏิบัติการเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ และประกาศแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมระยะเวลาห้าปี ฉบับที่ 14 สำหรับการพัฒนาประเทศในช่วงปี 2021-25 ซึ่งมีเป้าหมายขจัดความชะงักงันและกระตุ้นการเติบโตเศรษฐกิจของประเทศ โดยหันมาพึ่งพิงการบริโภคภายใน และเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นเองในประเทศ
ในพิธีเปิดการประชุมเต็มคณะของสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีน หรือเอ็นพีซี (National People’s Congress) ซึ่งเป็นสภานิติบัญญัติ นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง จะขึ้นแถลงรายงานการทำงานของคณะรัฐบาลประจำปี 2021
แหล่งข่าวเผยว่าปีนี้จะเป็นปีที่สองติดๆกันที่คาดว่าจีนจะไม่ประกาศเป้าหมายอัตราเติบโตเศรษฐกิจอย่างชัดเจนเนื่องจากภาวะชะงักงันจากโรคโควิด-19
ในวันพิธีเปิดการประชุมฯ จีนจะเผยแพร่แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมระยะเวลาห้าปี ฉบับที่ 14 ซึ่งเป็นพิมพ์เขียวสำหรับการปฏิรูปที่จะสร้างแรงขับเคลื่อนการเติบโตตัวใหม่ๆ ในแผนฯได้ระบุเป้าหมายกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉลี่ยราว 5 เปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้จีนอาจปฏิรูปการเลือกตั้งในฮ่องกง ซึ่งขณะนี้ผู้นำจีนได้กระชับอำนาจการปกครองเหนือเขตบริหารพิเศษฮ่องกงนับตั้งแต่บังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติเมื่อปีที่แล้วหลังเกิดเหตุการณ์วุ่นวายจากการประท้วงใหญ่ของกลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตยตลอดปี 2019 การปฏิรูปนี้จะยิ่งเร่งผลักดันให้ฮ่องกงอยู่ใต้การปกครองของกลุ่ม “ผู้รักชาติ”อย่างเต็มไม้เต็มมือ และลดทอนบทบาทของนักการเมืองจากค่ายสนับสนุนประชาธิปไตย
ในสัปดาห์นี้จีนได้เตรียมความพร้อมต่างๆโดยเฉพาะมาตรการรักษาความปลอดภัยก่อนเปิดการประชุมใหญ่สภาผู้แทนประชาชนซึ่งถือเป็นกิจกรรมการเมืองประจำปีที่สำคัญสุดนัดหนึ่งของแดนมังกร
หน่วยงานที่ปรึกษาด้านนโยบายในปักกิ่ง China Policy ชี้ว่าแผนพัฒนาห้าปีฉบับที่ 14 จะมุ่งให้ความสำคัญอย่างสุดสุดกับการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม ขณะที่ความขัดแย้งระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกาบานปลายไม่เลิก กรณีที่วอชิงตันแบนการส่งผลิตภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์ให้กับกลุ่มยักษ์ใหญ่บริษัทโทรคมนาคมอย่างหัวเหวยนั้นได้เผยให้เห็นว่าจีนพึ่งพิงเทคโนโลยีนำเข้าอยู่มาก
“การสร้างพลังอำนาจด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นประเด็นความมั่นคงแห่งชาติ ส่วนการพัฒนาอื่นๆที่จีนให้ความสำคัญในอันดับต้นๆ ได้แก่ การเพิ่มผลผลิต การบริโภค การพัฒนาชนบท และการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม” รายงานของ China Policy ที่เผยเมื่อเร็วๆนี้ ระบุ
"เลี่ยงกับดัก" จุดตัดสินอนาคต
ประธานาธิบดี สี จิ้นผิงประกาศเป้าหมายยิ่งใหญ่ครั้งล่าสุด คือจะสร้างจีนเป็น “ชาติรายได้สูง”ในปี 2025 และเป็น “ชาติพัฒนาแล้วระดับปานกลาง” (moderately developed) ภายใน 2035 ซึ่งเป็นปีที่คาดกันว่าเศรษฐกิจมังกรจะโตเป็นสองเท่าจากอัตราเติบโตเมื่อปี 2020
การที่ผู้นำแดนมังกรจะประสบความสำเร็จในการดันจีนขึ้นมาเป็น “มหาอำนาจโลก” จะต้องดำเนินแผนพัฒนาฯอย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญสุดคือสามารถก้าวข้ามพ้น “กับดักรายได้ปานกลาง”ไปได้
“การดำเนินแผนพัฒนาฉบับที่ 14 ไม่ได้จำกัดอยู่ที่ระยะเวลาห้าปี (2021-2025) ยังเชื่อมต่อไปถึงปี 2035 ซึ่งเป็นช่วงที่จีนจะสร้างการพัฒนาแบบยั่งยืนหลังจากที่ก้าวข้าม “กับดับรายได้ปานกลางไปได้แล้ว” นาย จยา คัง หัวหน้าสถาบันการศึกษาแห่งจีนว่าด้วยเศรษฐศาสตร์ด้านอุปทาน (China Academy of New Supply-side Economics) บอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์ส
หน่วยงานการวิจัยค่ายตะวันตกในลอนดอน คือศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจ (Centre for Economics and Business Research) คาดการณ์ว่าจีนจะแซงหน้าสหรัฐฯขึ้นมาเป็นชาติอำนาจเศรษฐกิจรายใหญ่ที่สุดในโลกในปี 2028 ซึ่งเร็วกว่าการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ถึง 5 ปี โดยประเมินจากการฟื้นตัวจากโรคระบาดของสองประเทศที่แตกต่างกันอย่างชนิดหน้ามือหลังมือ