นิคเคอิ สื่อญี่ปุ่น รายงาน (22 ก.พ.) คำแถลงของกระทรวงการต่างประเทศของรัฐบาลโจ ไบเดน เมื่อเย็นวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ส่งสัญญาณว่า สหรัฐฯ จะไม่ลดท่าทีต่อปัญหาสิทธิมนุษยชนของจีน และสิ่งที่เห็นว่าเป็นแนวทางปฏิบัติทางเศรษฐกิจที่มีปัญหา
รายงานข่าวกล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศของประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ ส่งสัญญาณว่า วอชิงตันไม่พร้อมที่จะผ่อนคลายแรงกดดันต่อจีน เพื่อปรับเริ่มความสัมพันธ์ทวิภาคีขณะที่ปักกิ่งกำลังพยายาม
นอกเหนือจากการกดดันจีนในประเด็นสิทธิมนุษยชนแล้ว สหรัฐฯยังไม่ยอมลดนโยบายยกเว้นเทคโนโลยีของจีนจากเครือข่าย 5G ในเร็ว ๆ นี้
นายเน็ด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวถึงการเรียกร้องของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หวังอี้ ให้มีการเริ่มความสัมพันธ์ทวิภาคีใหม่ว่า คำพูดของนายหวัง "สะท้อนให้เห็นแนวโน้มของปักกิ่ง ที่จะหลีกเลี่ยงการตำหนิการปฏิบัติทางเศรษฐกิจที่ขาดความโปร่งใส ความล้มเหลวในการปฏิบัติตามข้อตกลงระหว่างประเทศและสิทธิมนุษยชนสากล "
“เราจะยังคงยืนหยัดเพื่อคุณค่าประชาธิปไตยของเราเมื่อสิทธิมนุษยชนถูกละเมิดในซินเจียง, ทิเบตหรือที่อื่น ๆ ในจีน หรือเมื่อการปกครองตนเองถูกเหยียบย่ำในฮ่องกง” ไพรซ์กล่าว และว่า หวังเรียกร้องให้วอชิงตันหยุดแทรกแซงกิจการภายในของจีนและยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรด้านเทคโนโลยีและการค้ายุคทรัมป์
"เรากังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับอันตรายของการติดตั้งเครือข่ายด้วยอุปกรณ์ที่สามารถจัดการขัดขวางหรือควบคุมได้โดยจีน" โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวฯ