สำนักข่าวซซินหัวรายงาน —รัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกง (HKSAR) ของจีนได้เสร็จสิ้นโครงการตรวจโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ขนานใหญ่ที่เริ่มดำเนินการเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน โดยมีผู้อยู่อาศัยบนเกาะฮ่องกงเข้ารับการตรวจทั้งสิ้น 1.78 ล้านคน
ฮ่องกงเปิดเผยเมื่อเย็นวันจันทร์ (14 ก.ย.) ผ่านแถลงการณ์ว่าตัวอย่างสารคัดหลั่งที่เก็บมาภายใต้โครงการตรวจโรคชุมชนสากล (UCTP) เกือบ 1.72 ล้านรายการ ส่วนใหญ่ถูกนำไปทดสอบแล้ว จนถึงเวลา 20.00 น. ของวันจันทร์
โครงการดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อระบุตัวผู้ป่วยที่ไม่มีอาการและตัดเส้นทางการแพร่ระบาดเชื้อที่มองไม่เห็น หลังจากฮ่องกงเผชิญกับการระบาดรอบที่ 3 ซึ่งเริ่มตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม และเนื่องจากฮ่องกงมีความล่าช้าด้านขีดความสามารถการตรวจสอบโรค รัฐบาลกลางในปักกิ่งจึงเร่งดำเนินการสนับสนุนอย่างเต็มที่ ทั้งทรัพยากรทางการแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ
โฆษกรัฐบาลฮ่องกงกล่าวเมื่อวันจันทร์ว่าโครงการนี้ประสบความสำเร็จและราบรื่น ด้วยการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากรัฐบาลกลาง โดยมีการจัดตั้งทีมสนับสนุนที่ทำหน้าที่ทดสอบกรดนิวคลีอิกเพื่อขยายขีดความสามารถในการตรวจโรคของฮ่องกงในระยะเวลาอันสั้น
“สมาชิกทีมสนับสนุนกว่า 570 คน ได้ปฏิบัติภารกิจของพวกตนจนสำเร็จ ด้วยการทำงานอย่างแข็งขันตลอดวันตลอดคืนภายในห้องปฏิบัติการพองลมที่ตั้งขึ้นชั่วคราว” โฆษกกล่าว
ชิว หง รองหัวหน้าสำนักงานประสานงานของรัฐบาลประชาชนส่วนกลางในฮ่องกง กล่าวว่ารัฐบาลกลางและแผ่นดินใหญ่คือผู้ให้การสนับสนุนฮ่องกงที่แข็งแกร่งที่สุด พร้อมทั้งเรียกร้องให้สร้างความพยายามร่วมกันของสังคมเพื่อชัยชนะในการต่อสู้กับโรคระบาดและนำพาฮ่องกงให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
“แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดในฮ่องกงจะคลี่คลาย แต่ก็ยังมีผู้ติดโรคโควิด-19 ไร้อาการแฝงอยู่ในชุมชน” โฆษกรัฐบาลฮ่องกงกล่าวพร้อม ให้คำมั่นว่าจะขยายและดำเนินการทดสอบกลุ่มเป้าหมายและกลุ่มเสี่ยงซ้ำ
ทั้งนี้ ฮ่องกงรายงานผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายใหม่ 14 ราย เมื่อวันจันทร์ (14 ก.ย.) ส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยสะสมแตะ 4,971 ราย
