ผู้เขียน: ร่มฉัตร จันทรานุกูล มหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และธุรกิจระหว่างประเทศ วิทยาลัยนานาชาติ
วันนี้ผู้เขียนจะมาเล่าสู่กันฟังเกี่ยวกับเรื่องของความก้าวหน้าของเทคโนโลยีจีนซึ่งจะนำมาซึ่งการพัฒนาในอนาคต และถือเป็นโอกาสใหม่ของจีนในเวทีโลก ระบบสัญญาณนำทางดาวเทียมเป่ยโต่ว หรือ Beidou Navigation Satellite System (BDS) เป็นข่าวฮือฮาสร้างความสนใจไม่น้อยและไม่ใช่แต่กับชาวจีนแต่ยังเป็นที่สนใจไปทั่วโลก เทคโนโลยีระบบนำทางสัญญาณดาวเทียม BDS นี้เทียบได้กับระบบนำทางสัญญาณดาวเทียม GPS ของอเมริกา เข้าใจกันง่ายๆเลยก็คือระบบสัญญาณสองค่ายนี้จะเป็นคู่แข่งกันตลาดโลกนั่นเอง
เราจะมาทำความเข้าใจกับระบบสัญญาณดาวเทียมเป่ยโต่วของจีนมากขึ้น ผู้เขียนขอใช้ชื่ออเรียกย่อว่า“เป่ยโต่ว”ระบบนี้จนถึงปัจจุบันพัฒนามาแล้ว 26 ปีเต็มโดย BEIDOU AEROSPACE GROUP กลุ่มบริษัทรัฐวิสาหกิจที่ถูกจัดตั้งโดยรัฐบาลจีน โดยเริ่มต้นในปี 1994 ระบบสัญญาณเป่ยโต่วเริ่มถูกวิจัยและพัฒนาขึ้น จนถึงปี 2000 จีนประสบความสำเร็จในการพัฒนา “ระบบเป่ยโต่ว 1” และเริ่มนำมาทดลองใช้ภายในประเทศ ต่อมาในปี 2012 ได้พัฒนา “ระบบเป่ยโต่ว 2” สำเร็จ และในปีนี้ 2020 “ระบบเป่ยโต่ว 3” ผ่านการทดลองจนสำเร็จและถูกยิงขึ้นสู่ห้วงอวกาศ เปิดสัญญาณให้บริการทั่วโลกอย่างเป็นทางการ
“ระบบเป่ยโต่ว 3” นี้ถือเป็นระบบดาวเทียมนำทางแรกของจีนที่ให้บริการทั่วโลก จีนเรียกการพัฒนาเป่ยโต่วนี้ว่า สามก้าวใหญ่ หลังจากความสำเร็จของระบบเป่ยโต่ว 3 นี้ทำให้จีนกลายเป็นประเทศที่สามของโลกที่มีระบบสัญญาณดาวเทียมนำทางนานาชาติ ตามหลังระบบ GPS และ GLONASS
ในปัจจุบันดาวเทียมเป่ยโต่วได้ถูกยิงขึ้นไปเหนือน่านฟ้าแล้ว 55 ตัว และตั้งแต่เริ่มส่งปฏิบัติการดาวเทียมเป่ยโต่วมาจนปัจจุบัน ระบบสัญญาณนำทางดาวเหนือ (เป่ยโต่ว หมายถึงดาวเหนือ) ของจีนได้มีบทบาทกับชีวิตคนจีนอย่างมาก เพราะความสามารถในการเข้าถึงตำแหน่งอย่างแม่นยำทำให้ระบบสัญญาณนำทางนี้อำนวยความสะดวกให้กับชีวิตประชาชนในหลากหลายด้าน ไปจนถึงยกระดับการบริการ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยงานต่างๆได้ โดย 70% ของสมาร์ทโฟนในประเทศจีนมีบริการระบบเป่ยโต่ว และผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นนำทาง แอพฯช็อปปิ้ง แอพฯข่าวออนไลน์ ระบบสัญญาณมือถือของจีนต่างใช้สัญญาณดาวเทียมเป่ยโต่ว ดังนั้นเราจะเห็นภาพได้ชัดขึ้นว่า ระบบสัญญาณดาวเทียมเป่ยโต่วถูกนำมาควบรวมกับบริการต่างๆที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประชาชน และในหลายๆด้านทำให้การพัฒนาเศรษฐกิจการขับเคลื่อนสังคมก้าวหน้าอย่างรวดเร็วและสร้างโอกาสใหม่ๆเพิ่มขึ้นตามมาด้วย
จากสถิติของทางการจีนรายงานว่า ในปี 2019 ระบบเป่ยโต่วที่นำมาถูกใช้ในภาคบริการต่างๆสร้างรายได้ทั้งสิ้น 3.4 ล้านล้านหยวน ในเบื้องต้นของการพัฒนาและการใช้ระบบเป่ยโต่วนี้สร้างรายได้ระดับนี้ถือว่าไม่น้อยเลยทีเดียว ภาคประชาชนจีนที่ได้รับประโยชน์จากระบบนำทางเป่ยโต่วในวงกว้าง ปัจจุบันแบ่งได้สามด้านใหญ่ๆดังนี้
- ด้านความปลอดภัยของชีวิตและทรัพสินย์ประชาชน ในพื้นที่ที่ประสบภัยธรรมชาติบ่อยๆ เป่ยโต่วจะสามารถตรวจจับและแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ ประชาชนในพื้นที่สามารถหลบภัยและออกจากพื้นที่ได้ทันท่วงที ลดการสูญเสีย
- ด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของแรงงาน เช่น เป่ยโต่วได้ถูกใช้อย่างกว้างขวางในพื้นที่เกษตรที่กว้างใหญ่อย่างในเขตตะวันออกเฉียงเหนือและเขตมณฑลซินเจียงทางภาคตะวันตกของประเทศ ในด้านเกษตรการหว่านเมล็ดพันธุ์และการให้ยากำจัดแมลงเป็นไปอย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ลดการสิ้นเปลืองเมล็ดพันธุ์และลดการใช้ยากำจัดแมลงลงได้ถึง 40%
- ด้านการคมนาคมเพิ่มความปลอดภัยและการติดตาม ในปัจจุบันเรือเพื่อการประมงของจีน 7 หมื่นลำทั่วประเทศได้เชื่อมต่อกับระบบสัญญาณเป่ยโต่ว รถบรรทุก 6.5 ล้านคันทั่วประเทศก็ได้เชื่อมต่อกับสัญญาญเป่ยโต่วเป็นที่เรียบร้อย อีกทั้งการบินของจีนก็จะเปลี่ยนมาใช้ระบบสัญญาณเป่ยโต่วมากยิ่งขึ้นในอนาคต ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยและการติดตามด้านคมนาคมของประเทศ
และในต้นปีนี้ช่วงที่จีนสู้รบกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป่ยโต่วก็มีบทบาทอยู่มากเช่นกัน ดังเช่นการก่อสร้างโรงพยาบาลเหลยเซินซันในนครอู่ฮั่น การเลือกที่ตั้งและการออกแบบโครงสร้างอาคารตึกต่างๆของโรงพยาบาลใช้ดาวเทียมเป่ยโต่วในการร่างวัดออกมา ในการใช้โดรนเข้าไปในพื้นที่ที่ต้องการพ่นยาฆ่าเชื้อโรค ก็ใช้สัญญาณเป่ยโต่วนำทางผนวกกับบิ๊กดาต้า การติดตามรถบรรทุกทุกคันที่ขนสินค้าเร่งด่วนทางการแพทย์เพื่อให้ไปถึงปลายทางได้อย่างปลอดภัยและรวดเร็ว เป่ยโต่วก็มีบทบาทอย่างมากในการช่วยบรรลุงานเหล่านี้
ในด้านของการร่วมมือกับนานาชาติตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา รัฐบาลจีนนำระบบนำทางเป่ยโต่วขึ้นเป็นวาระแห่งชาติและบูรณาการกับยุทธศาสตร์ข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ซึ่งก็มีบางประเทศให้การตอบรับอย่างดีทีเดียว ประเทศรัสเซียมั่นใจในระบบเป่ยโต่วว่าความแม่นยำของสัญญาณพอๆหรือใกล้เคียงกับ GPS และ GLONASS อีกทั้งเส้นทางการโคจรของเป่ยโต่วไปพร้อมกับลักษณะการหมุนเอียงของโลก ทำให้การส่งข้อมูลมาถึงพื้นโลกมีความแม่นยำมากขึ้น ทางด้านของอเมริกาเองก็มองว่าความพยายามของจีนมา 20 กว่าปี นำมาสู่การพัฒนาหน้าใหม่ ทั้งความพร้อมของรัฐบาลจีนและการร่วมมือพัฒนาอย่างจริงจังจากหลายฝ่าย ทำให้ระบบเป่ยโต่วจีนประสบความสำเร็จขึ้นมาอีกขั้น
ทุกวันนี้ระบบสัญญาณดาวเทียมเป่ยโต่วครอบคลุม 200 กว่าประเทศทั่วโลกและมี 120 ประเทศที่ใช้บริการส่งสัญญาณจากดาวเทียมเป่ยโต่วนี้ ในแต่ละวันมีการเข้าถึงสัญญาณ 2 พันล้านครั้ง นั่นหมายความว่าครึ่งหนึ่งของประเทศทั่วโลกกำลังใช้สัญญาณดาวเทียมเป่ยโต่วนี้อยู่ และในอนาคตขอบเขตการใช้งานเป่ยโต่วจะมีมากขึ้นไปจนถึงรถยนต์ไร้คนขับ การบริการด้านอินเทอร์เน็ตแบบบูรณาการ (IOT:The Internet of Things)
มนุษชาติกำลังเข้าสู่ยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ประเทศไหนที่มีเทคโนโลยีในมือจะสามารถก้าวขึ้นมามีบทบาทนำบนเวทีโลกได้อย่างยั่งยืน ระบบสัญญาณดาวเทียมเป่ยโต่วจะกลายเป็นกุญแจสำคัญของจีนในเวทีโลก ไม่ใช่แค่เรื่องของเทคโนโลยีที่ทันสมัยเท่านั้นแต่ในด้านของการขยายอิทธิพลในเวทีโลกก็เป็นอีกนัยยะสำคัญหนึ่งด้วย