xs
xsm
sm
md
lg

สหรัฐฯ เตรียมแบนไม่ซื้อขายกับ บ.จีนอีก 11 ราย ละเมิดสิทธิฯ ชาวอุยกูร์

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ แถลงว่า การจำกัดการค้าฯ กับบริษัทจีนทั้ง 11 ราย จะทำให้มั่นใจได้ว่าสินค้าและเทคโนโลยีของสหรัฐจะไม่ถูกพรรคคอมมิวนิสต์นำไปใช้ประโยชน์อย่างน่ารังเกียจ ในการต่อต้านประชากรชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิม (ภาพรอยเตอร์ส)
ซีเอ็นเอ็น รายงาน (22 ก.ค.) ว่า สหรัฐฯ เตรียมแบนบริษัทจีน 11 แห่งที่ซื้อเทคโนโลยีอเมริกันและสินค้าอื่น ๆ เพราะระบุว่าเชื่อมโยงกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนในซินเจียง

รายการที่รวบรวมโดยกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐอเมริกาครอบคลุม บริษัทจีนหลายแห่ง รวมถึง บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ บริษัทผู้ผลิตวิกผมกิจการเครื่องใช้ในบ้าน เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ อ้างว่าบริษัทจีน "บังคับใช้แรงงานกับชาวอุยกูร์และชนกลุ่มน้อยมุสลิมอื่น ๆ" ในเขตปกครองตนเองซินเจียงของจีน

นายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐอเมริกากล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ว่า ข้อจำกัดฯ จะทำให้มั่นใจได้ว่าสินค้าและเทคโนโลยีของสหรัฐจะไม่ถูกพรรคคอมมิวนิสต์นำไปใช้ประโยชน์ใน "ที่น่ารังเกียจ ในการต่อต้านประชากรชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิม"

ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ สหรัฐฯ เผยรายชื่อบริษัทจีน ที่ถูกเพิ่มเข้าไปในบัญชีดำล่าสุดเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม อ้างว่าเกี่ยวข้องกับการบังคับใช้แรงงานที่เกี่ยวข้องกับชาวอุยกูร์และกลุ่มชนกลุ่มน้อยมุสลิมอื่น ๆ ได้แก่
- Changji Esquel Textile Co. Ltd.
- Hefei Bitland Information Technology Co. Ltd.
- Hefei Meiling Co. Ltd.
- Hetian Haolin Hair Accessories Co. Ltd.
- Hetian Taida Apparel Co., Ltd.
- KTK Group
- Nanjing Synergy Textiles Co. Ltd.
- Nanchang O-Film Tech
- Tanyuan Technology Co. Ltd.
- Xinjiang Silk Road BGI
- Beijing Liuhe BGI

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่ได้ให้รายละเอียดว่า บริษัทอเมริกันรายใดที่ทำธุรกิจกับบริษัทจีนที่ถูกลงโทษ แต่ตามรายงานที่ตีพิมพ์เมื่อเดือนมิถุนายน โดยสถาบันนโยบายยุทธศาสตร์แห่งออสเตรเลีย นั้น มีรายชื่อของบริษัทแอปเปิล Apple (AAPL), คาลวินไคลน์ Calvin Klein และ ไนกี้ Nike (NKE) ที่ร่วมทำธุรกิจกับบริษัทที่มีชื่อในรายงานฯ

รายงานตรวจสอบการใช้แรงงานชาวอุยกูร์และชนกลุ่มน้อยมุสลิมอื่น ๆ ในเขตปกครองตนเองซินเจียงในประเทศจีน อ้างว่า คนงานเหล่านั้นกำลัง “ทำงานในโรงงานที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทานของแบรนด์ระดับโลกที่มีชื่อเสียง ที่มีอย่างน้อย 83 แบรนด์ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี เสื้อผ้าและยานยนต์”

ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนทวีความรุนแรงมากขึ้นเป็นเดือนที่สองเนื่องจากการต่อสู้ทางการค้าและเทคโนโลยีที่่ลามไปสู่ความขัดแย้งระหว่างบริษัท ซึ่งแขวนอยู่กับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งระหว่างมหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่วอชิงตันได้ลงโทษบริษัทจีนในเขตปกครองตนเองซินเจียง เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯ กล่าวหาบริษัทจีน 28 แห่ง ในการมีส่วนร่วมกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนในซินเจียง

วัฒนธรรมและเชื้อชาติของประชากรในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ทางตะวันตกของจีนนั้นมีความแตกต่างจากพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศและมีความสัมพันธ์ที่ไม่ราบรื่นนักกับรัฐบาลในปักกิ่งนานเป็นเวลาหลายปี

กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกาประมาณการว่า ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 มีชาวอุยกูร์มุสลิมส่วนใหญ่จำนวนสองล้านคนและชนกลุ่มน้อยชาวเติร์กอื่น ๆ ถูกจำคุกในค่ายการศึกษาขนาดใหญ่ในซินเจียง อันเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายการปราบปรามกลุ่มหัวรุนแรงในซินเจียง

นายหวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนกล่าวเมื่อวันอังคาร ว่า “สหรัฐฯ ละเมิดมาตรการควบคุมการส่งออก ภายใต้ข้ออ้างที่เรียกว่าสิทธิมนุษยชน”

"นี่เป็นการละเมิดบรรทัดฐานของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แทรกแซงกิจการภายใน และคุกคามผลประโยชน์ของจีน"
กำลังโหลดความคิดเห็น