xs
xsm
sm
md
lg

ปักกิ่งเร่งศักยภาพตรวจโควิด-19 หวังคุมโรคระบาดให้อยู่หมัด

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


แฟ้มภาพซินหัว : เหยียนเค่อฉินและจางซินถอดชุดป้องกันทางการแพทย์ระหว่างพักรับประทานอาหารกลางวันในโรงพยาบาลมิตรภาพจีน-ญี่ปุ่น กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน วันที่ 3 ก.ค. 2020
ซินหัว,ปักกิ่ง — ชวนชมการปฏิบัติงานสำคัญเพื่อการป้องกันและควบคุมโรคระบาดของสองเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์หญิงประจำโรงพยาบาลท้องถิ่นกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน

กรุงปักกิ่งได้ดำเนินการทดสอบกรดนิวคลีอิกขนานใหญ่ โดยกระตุ้นสถาบันทดสอบและโรงพยาบาลท้องถิ่นแห่งต่างๆ เร่งรับมือกับจำนวนตัวอย่างสารคัดหลั่งที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพื่อการประเมินผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ซึ่งนำไปสู่การแยกโรคและการรักษาอย่างทันท่วงที

(แฟ้มภาพซินหัว : จางซินจัดเรียงตัวอย่างสารคัดหลั่งเพื่อการทดสอบกรดนิวคลีอิกในห้องปฏิบัติการของโรงพยาบาลมิตรภาพจีน-ญี่ปุ่น กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน วันที่ 3 ก.ค. 2020)
โรงพยาบาลมิตรภาพจีน-ญี่ปุ่น (China-Japan Friendship Hospital) เป็นอีกหนึ่งสถานพยาบาลเป้าหมาย ที่ได้รับการปรับปรุงห้องปฏิบัติการทดสอบกรดนิวคลีอิกใหม่ภายในระยะเวลา 48 ชั่วโมง ทำให้ศักยภาพการทดสอบกรดนิวคลีอิกเพื่อตรวจโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นเป็น 10,000 ตัวอย่างต่อวัน

(แฟ้มภาพซินหัว : เหยียนเค่อฉินสวมชุดป้องกันทางการแพทย์ก่อนเข้าพื้นที่ปนเปื้อนของโรงพยาบาลมิตรภาพจีน-ญี่ปุ่น กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน วันที่ 3 ก.ค. 2020)
เหยียนเค่อฉิน และจางซิน เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์จากคนละแผนกของโรงพยาบาลฯ ได้ร่วมทีมห้องปฏิบัติการข้างต้นเป็นการชั่วคราว เพื่อช่วยเหลือการทดสอบกรดนิวคลีอิก โดยภาระงานประจำวันประกอบด้วยการเก็บรวบรวมตัวอย่าง การกำจัดตัวอย่าง การทำให้ไวรัสหมดฤทธิ์ และการบันทึกข้อมูล

แฟ้มภาพซินหัว : เหยียนเค่อฉินและจางซิน ทำงานอยู่ในห้องปฏิบัติการทดสอบกรดนิวคลีอิกของโรงพยาบาลมิตรภาพจีน-ญี่ปุ่น กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน วันที่ 3 ก.ค. 2020
ทั้งนี้ กรุงปักกิ่งรายงานการตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อในท้องถิ่น จำนวน 334 ราย เมื่อนับจากวันที่ 11 มิ.ย.-4 ก.ค. โดยมีผู้ป่วยที่ยังคงรักษาตัวในโรงพยาบาล 324 ราย

แฟ้มภาพซินหัว : เหยียนเค่อฉินสวมชุดป้องกันทางการแพทย์ก่อนเข้าพื้นที่ปนเปื้อนของโรงพยาบาลมิตรภาพจีน-ญี่ปุ่น กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน วันที่ 3 ก.ค. 2020


กำลังโหลดความคิดเห็น