เอเจนซีส์—“กรุงปักกิ่ง” ปัดนโยบายฟื้น“เศรษฐกิจแผงลอย” ที่นายกฯหลี่ เค่อเฉียงแห่งจีนกำลังผลักดันเพื่อช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจประชาชนทั่วไป โดยชี้ว่าไม่เหมาะกับเมืองหลวง
สืบเนื่องจากนายกรัฐมนตรีแห่งจีน นาย หลี่ เค่อเฉียงได้รับรองแผนฟื้น “เศรษฐกิจแผงลอย” ในที่ประชุมสภาผู้แทนประชาชนจีน หรือสภานิติบัญญัติเมื่อเดือนที่ผ่านมา นายกฯหลี่ชี้ว่าแผงลอยหาบเร่ขายสินค้าต่างๆริมถนนจะเป็น “แหล่งจ้างงานสำคัญ” และช่วยกอบกู้เศรษฐกิจที่ยิ่งทรุดหนักจากโรคระบาดโควิด-19
แต่บทบรรณาธิการของ เป่ยจิง เดลี่ (Beijing Daily) กระบอกเสียงของเทศบาลนครปักกิ่ง ระบุเมื่อวันเสาร์(6 มิ.ย.)ว่า ปักกิ่งไม่ควรพัฒนาเศรษฐกิจในรูปแบบที่ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งเชิงกลยุทธ์ของเมืองหลวง...พวกแผงขายของริมถนน และหาบเร่มีแต่สร้างปัญหาให้กับการจัดการเมือง สิ่งแวดล้อม ความสะอาด และจราจร พร้อมยืนยันว่าปักกิ่งมีแผนมาตรการของตัวเองสำหรับสร้างงานให้ประชาชน และลดผลกระทบจากโรคระบาด
“หากแผนการฯที่จะนำปัญหาวุ่นวายของเมือง ทั้งถนนทางเท้าที่สกปรก สินค้าปลอม เสียงรบกวน จราจรที่ติดขัด ความสะอาด และพฤติกรมที่ไร้วัฒนธรรม...เหล่านี้กลับมา ก็เท่ากับว่าการบริหารจัดการเมืองทั้งหมดที่เราสู้อุตสาห์ทุ่มเทไปมากมายนั้นสูญเปล่า อีกทั้งทำลายภาพลักษณ์เมืองหลวงและประเทศ”
เมื่อปี 2017 หน่วยเทศกิจปักกิ่งเริ่มโครงการกวาดล้างแผงลอยหาบเร่ขายสินค้าตามถนนหนทาง และธุรกิจเถื่อน จนถึงขณะนี้ยังมีหลงเหลืออยู่เล็กน้อย
ด้านเมืองยักษ์ใหญ่เซินเจิ้นแห่งภาคใต้จีน เซินเจิ้น สเปเชียล โซน เดลี่ (Shenzhen Special Zone Daily) ซึ่งเป็นค่ายสื่อของหน่วยโฆษณาชวนเชื่อของเมือง เผยแพร่บทความแสดงความเห็นเมื่อวันจันทร์(8 มิ.ย.) สนับสนุนให้แต่ละเมืองมีนโยบายที่แตกต่าง สำหรับเซินเจิ้นเป็นเมืองใหญ่ที่ทันสมัย ไม่ควรผลีผลามกลับมาพัฒนาเศรษฐกิจแผงลอย
สำหรับเซี่ยงไฮ้ ศูนย์กลางการเงินของประเทศจีน รับนโยบายฯอย่างแบ่งรับแบ่งสู้ โดยได้ประกาศหลักแนะแนวช่วยเหลือแผงขายของริมถนนรายเล็กรายน้อย โดย “ยกเว้นการลงโทษ”
ขณะที่เมืองซีอัน แหล่งท่องเที่ยวใหญ่ในมณฑลส่านซี ได้คลายกฎเหล็กห้ามแผงลอยโดยอนุญาตให้ตั้งแผงได้ตามจุดและเวลาที่กำหนด
ที่เมืองจิ่วเจียง ในมณฑลเจียงซี รัฐบาลท้องถิ่นหนุนนโยบายฟื้นเศรษฐกิจแผงลอยเต็มที่ โดยให้เทศกิจติดต่อเรียกกลุ่มขายสินค้าริมทางกลับมา
จาง เจี้ยนเหวิน อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยการเงินมณฑลเหอเป่ย กล่าวว่าแม้เมืองต่างๆมีแผนรูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจของตัวเองแต่เจ้าหน้าที่ก็ควรเคารพสิทธิทางเลือกเศรษฐกิจของประชาชนเช่นกัน”
“เศรษฐกิจแผงลอยได้ฝังรากในการค้ามาแต่โบราณ ซึ่งผู้ปกครองไม่อาจปฏิเสธ แต่ควรเคารพและให้หลักชี้แนะ” จาง กล่าว
เมื่อเดือนที่แล้ว เมืองต่างๆในจีนได้เริ่มผ่อนปรนกฎห้ามขายของริมถนนหลังจากที่นายกฯหลี่ เค่อเฉียงแถลงรับรองในที่ประชุมประจำปีของสภาผู้แทนประชาชน โดยกล่าวชื่นชมเฉิงตู เมืองเอกของมณฑลเสฉวนแห่งภาคตะวันตกจีนที่สามารถสร้างงานเพิ่มมากกว่า 100,000 ตำแหน่งงานหลังจากที่ไฟเขียวให้หาบเร่ขายสินค้า 36,000 รายกลับมาขายของได้
ในสัปดาห์ที่แล้ว นายกฯหลี่ได้ลงพื้นที่เยี่ยมร้านอาหารริมถนนในเมืองเหยียนไถ มณฑลซันตง และกล่าวว่า “พ่อค้าแม่ค้าริมถนนและร้านค้ารายเล็กเป็นแหล่งสร้างงานที่สำคัญ และเป็นสัญลักษณ์ความอุดมสมบูรณ์ และพลังชีวิตของจีน
นอกจากนี้รัฐบาลกลางยังได้ยกเลิกเกณฑ์ตัดสินเมืองต่างๆที่ห้ามแผงลอยข้างถนนหาบเร่เป็น “เมืองที่ศิวิไลซ์”
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้กลุ่มแผงลอยหาบเร่กับเทศกิจที่จีนเรียก “เฉิงก่วน” เปิด “ศึกแมวไล่จับหนู” อันดุเดือดกันมาตลอดเป็นที่เลื่องลือกระฉ่อนไม่แพ้ที่อื่นในโลก