สำนักข่าวซินหัว สื่อทางการจีน รายงาน (18 เม.ย.) — ทางหลวงตัดผ่านทะเลทรายทากลามากัน ทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดในจีน กลับมาเดินหน้างานก่อสร้างครั้ง ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เริ่มคลี่คลาย
ทางหลวงสายนี้ตัดผ่านทะเลทรายที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก เชื่อมอำเภอเฉี่ยโม่ สุดเขตทะเลทรายทางตอนใต้ กับอำเภออวี้หลี สุดเขตทะเลทรายทางตอนเหนือ ด้วยระยะทางทั้งสิ้น 333 กิโลเมตร และคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2021
ทางหลวงสายแรกข้ามทะเลทรายทากลามากัน เปิดใช้งานครั้งแรกเมื่อปี 1995 เพื่ออำนวยความสะดวกในการสำรวจน้ำมัน ถนนสายดังกล่าวตัดจากเหนือลงใต้ เชื่อมอำเภอหลุนหนุนและอำเภอหมินเฟิง เป็นระยะทางทั้งสิ้น 522 กิโลเมตร ถือเป็นทางหลวงตัดผ่านทะเลทรายที่ยาวที่สุดในโลก
ส่วนทางหลวงสายที่สองซึ่งยาว 424 กิโลเมตร เปิดใช้งานเมื่อปี 2007 เชื่อมเมืองเหอเถียน ซึ่งอุดมด้วยทรัพยากรและมีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นทางตอนใต้ของซินเจียง และเมืองอาลาเอ่อร์ (Aral) เมืองใหม่ที่ยังไม่ได้รับการพัฒนา บริเวณสุดเขตทะเลทรายทางตอนเหนือ
คำว่า “ทากลามากัน” เป็นภาษาถิ่นอุยกูร์ มีความหมายว่า “เข้าไปแล้วจะออกมาไม่ได้” แต่หลังจากการก่อสร้างถนนสายนี้เสร็จสิ้น คำกล่าวนั้นจะเปลี่ยนไป เมื่อผู้คนจากทั้งสองอำเภอในซินเจียงสามารถตะลุยผ่านทะเลทรายขนาด 337,000 ตารางกิโลเมตรแห่งนี้ได้อย่างสบายใจ หลังจากที่ต้องเดินทางอ้อมกันมาหลายชั่วอายุคน
ทีมวิศวกรโครงการระบุว่าการก่อสร้างทางหลวงสายอวี้หลี-เฉี่ยโม่ มีความยากลำบากกว่าทางหลวงสองสายก่อนหน้านี้ เนื่องจากต้องตัดผ่านเนินทรายสูงและสลับซับซ้อน 32 แห่ง ซึ่งมีจุดสูงสุดสูงกว่า 100 เมตร ทั้งยังมีแอ่งและหุบเหวยักษ์ระหว่างเนินทราย 28 แห่ง ซึ่งมีจุดที่กว้างที่สุดถึง 12 กิโลเมตร