อาร์ทีไอ สื่อไต้หวันรายงาน วันนี้ (30 มี.ค.) กองบัญชาการควบคุมโรคติดต่อไต้หวันประกาศว่า ตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย.นี้เป็นต้นไป จะปรับเปลี่ยนมาตรการจำหน่ายหน้ากากอนามัยแบบใช้บัตรประกันสุขภาพยืนยันตน
รายงานข่าวกล่าวว่า ประชาชนสามารถซื้อหน้ากากอนามัยผู้ใหญ่จากเดิมทุก 7 วันซื้อได้ครั้งละ 3 แผ่น เพิ่มขึ้นเป็น "ทุก 14 วัน ครั้งละ 9 แผ่น" หน้ากากอนามัยเด็ก จากเดิมทุก 7 วัน ครั้งละ 5 แผ่น เพิ่มขึ้นเป็น "ทุก 14 วัน ครั้งละ 10 แผ่น" เท่ากับซื้อ 1 ครั้งจะมีหน้ากากอนามัยพอใช้ไปตลอด 2 สัปดาห์ ไม่ต้องไปต่อแถวเข้าคิวซื้ออยู่บ่อยๆ และยังยกเลิกกฎการจำกัดให้ซื้อหน้ากากอนามัยแบ่งตามเลขท้ายบัตรประจำตัวประชาชนเลขคู่และเลขคี่ เป็น "สามารถซื้อวันไหนก็ได้"
นายเฉินสือจง (陳時中) รมว.กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์บัญชาการควบคุมโรคติดต่อ ระบุว่า เนื่องจากรูปทรงใบหน้าของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ในอนาคตจะขยายขอบเขตการจำหน่ายหน้ากากอนามัยชนิดอื่น ไม่ใช่มีแต่เฉพาะหน้ากากอนามัยผู้ใหญ่และเด็ก เพื่อให้เหมาะสมตามความต้องการของแต่ละบุคคลอีกด้วย
นอกจากนี้ รัฐมนตรีผู้นี้ยังประกาศว่า จะเปิดโอกาสให้ประชาชนในไต้หวันสามารถส่งหน้ากากอนามัยไปต่างประเทศให้ญาติทุก 2 เดือน ครั้งละ 30 แผ่น โดยผู้รับพัสดุปลายทางจะต้องเป็นคนในครอบครัว ได้แก่ คู่สมรส บุตร บิดามารดา ปู่ย่าตายาย และพี่น้องร่วมสายโลหิตเท่านั้น ผ่านขั้นตอนพิธีศุลกากรอย่างง่าย เพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการจัดส่ง