เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์--ฮ่องกงประกาศกฎใหม่วันนี้(17 มี.ค.) ผู้เดินทางจากต่างประเทศมาถึงฮ่องกงทุกคนจะถูกกักตัวดูอาการ 14 วัน พร้อมเตือนภัยระยะสั้น (Travel Alerts) ระดับสีแดงครอบคลุมทุกประเทศทั่วโลก
สำหรับมาตรการกักตัวและดูอาการสุขภาพผู้เดินทางมาถึงฮ่องกงนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันพฤหัสฯ(19 มี.ค.) เป็นต้นไป โดยการบังคับใช้กฎใหม่นี้ไม่ครอบคลุมผู้เดินทางจากแผ่นดินใหญ่ มาเก๊า และไต้หวัน
ประธานคณะบริหารเขตบริหารพิเศษแห่งฮ่องกง แคร์รี่ แลม แถลงวันนี้(17 มี.ค.)ว่า การแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 ได้กลายเป็นการระบาดใหญ่ทั่วโลก จำนวนผู้ติดเชื้อในต่างประเทศแซงหน้าจีน
ในสองสัปดาห์ก่อน ฮ่องกงพบกรณีผู้ติดเชื้อฯรายใหม่ 57 ราย ในจำนวนนี้ 50 ราย เป็นกรณีติดเชื้อนำเข้า
“ถ้าตัดกลุ่มติดเชื้อนำเข้าออกแล้ว ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเรามีผู้ติดเชื้อชาวท้องถิ่นเพียง 7รายเท่านั้น และหากเราไม่ออกกฎเข้มงวด มาตรการควบคุมที่เราดำเนินมาตลอดก็จะสูญเปล่า” แลม กล่าว
ข้อมูลล่าสุดระบุผู้เดินทางจากต่างแดนมาถึงสนามบินนานาชาติฮ่องกงในวันเย็นวานนี้(17 มี.ค.) พบว่าประมาณ 20 คน ติดเชื้อโควิด
สืบเนื่องจากกระแสการติดเชื้อนำเข้าระลอกที่สอง ผู้นำหญิงเหล็กแห่งฮ่องกงประกาศอีกว่า การเปิดเทอมในวันที่ 20 เม.ย. “เป็นไปไม่ได้แน่” และรัฐบาลยังคงห้ามการจัดอีเว้นท์ขนาดใหญ่
แลม ยังกล่าวอีกว่า “ศึกครั้งนี้อีกนาน ชาวฮ่องกงต้องเตรียมตัวเตรียมใจรับสถานการณ์ให้ดี เป็นเรื่องยากลำบากที่เราจะสามารถคุมการระบาดได้อย่างอยู่หมัดในระยะเวลาอันสั้น”
ต่อคำถามว่า “ทำไมไม่ออกมาตรการห้ามเดินทาง” แลมตอบว่า มันเป็น “มาตรการที่แรงไป” และเนื่องจากกรณีผู้ติดเชื้อนำเข้าเชื่องโยงกับชาวฮ่องกง และผู้เดินทางกลุ่มหนึ่งก็มีความจำเป็นเดินทางมายังดินแดน
“ขณะเกิดการระบาดใหญ่ แต่เมืองก็ต้องเดินหน้าต่อไป ธุรกิจต้องเดินหน้าแล้ว และเรายังอาจเผชิญปัญหาหนักสาหัสในด้านเศรษฐกิจ”
