“ชาติประสบภัยเป็นเรื่องที่พวกเราต้องช่วยรับผิดชอบด้วย” ด้วยความคิดซื่อๆนี้ ทำให้อาม่าวัย 80 ปีในมณฑลเฮยหลงเจียง บริจาคเงินออม 50,000 หยวน หรือราว 200,000 บาท ช่วยเขตระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา หรือไวรัสโควิด-19 แต่เจ้าหน้าที่ยืนกรานไม่รับ ขอรับเพียงน้ำใจ...
ในเช้าวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา หญิงชราสวมหน้ากากอนามัยเดินไปหาตำรวจที่กำลังปฏิบัติหน้าที่แถวสี่แยกถนนอิ๋งปิงและถนนตงจื๋อในเมืองซวงยา อำเภอโหยวอี้ มณฑลเฮยหลงเจียง นางบอกความประสงค์บริจาคเงิน 50,000 หยวนให้แก่เขตที่มีการระบาดเชื้อไวรัสฯ คำพูดซื่อๆของแม่เฒ่าทำให้ผู้คนตื้นตันจนน้ำตาไหล “ประเทศชาติมีภัยเป็นเรื่องของตัวเราเองด้วย”
เซียวจิ้ง ตำรวจหญิงที่แม่เฒ่าเดินมาขอความช่วยเหลือเรื่องบริจาคเงิน ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ขณะที่เธอและเพื่อนตำรวจคนหนึ่งกำลังปฏิบัติงานตรวจบัตรอนุญาตการสัญจรของประชาชน แม่เฒ่าคนหนึ่งก็เดินเข้ามาหา
“ทีแรกฉันคิดว่าท่านมีปัญหามาขอความช่วยเหลือ ไม่คิดเลยว่าในมือของท่านถือเช็คธนาคารใบหนึ่งสั่งจ่ายเงิน 50,000 หยวน เพื่อบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากโรคระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
แม่เฒ่ายังบอกว่าไม่ต้องการออกรายการโทรทัศน์หรือสื่อใดๆ “ประเทศชาติมีภัยเป็นเรื่องของตัวเราเองด้วยเช่นกัน ฉันขอบคุณพวกเธอ(ตำรวจ) ที่อุตส่าห์ช่วยฉันดำเนินการบริจาค เงินนี่เป็นเงินที่พรรคฯให้มา ฉันยังมีเงินเหลือ ใช้ไม่หมดหรอก”
“ฉันไม่รู้จะไปบริจาคเงินที่ไหนจึงมาหาพวกคุณให้ช่วยนำเงินจำนวนนี้ไปช่วยเหลือเขตควบคุมโรคระบาด ฉันเพียงอยากช่วยชาติบ้างเท่านั้น”
เซียวจิ้งบอกว่าเนื่องจากเธอไม่เคยประสบเรื่องแบบนี้มาก่อนจึงโทรศัพท์ไปที่ศูนย์บังคับการ เมื่อเจ้าหน้าที่ทราบเรื่องราวก็ปฏิเสธรับเงินจากแม่เฒ่ากัว พร้อมกล่าวขอบคุณแม่เฒ่ากัว พรรคฯและรัฐบาลได้รับน้ำใจจากเธอแล้ว อีกทั้งขอขอบคุณแทนประชาชนที่ประสบภัยจากเชื้อโรคระบาดด้วย จากนั้นตำรวจก็ขับรถพาแม่เฒ่าไปส่งที่บ้าน
บ้านแม่เฒ่าเป็นห้องๆหนึ่ง สามีเสียชีวิตไปหลายปีแล้ว มีบุตรสาวสองคน บุตรชายหนึ่งคน และอีกคนทำงานในเมืองอื่น โดยปกติแม่เฒ่าอยู่บ้านเพียงลำพังคนเดียว มีรายได้ 2,000 กว่าหยวน ส่วนเงิน 50,000 กว่าหยวนนี้ เป็นเงินเก็บหอมรอมริบ ด้วยขณะนี้
สถานการณ์โรคระบาดกำลังเลวร้ายลูกสาวจึงไม่อาจมาดูแลแม่เฒ่าได้