ไชนาเดลี (20 ก.พ.) เผยคลิปสัมภาษณ์ชาวต่างชาติจำนวนมากยังคงอาศัยและทำงานอยู่ในกรุงปักกิ่ง ที่ยังอยู่ภายใต้มาตรการอันเข้มงวดเพื่อต่อสู้กับไวรัสโควิด-19
ผู้สื่อข่าวตระเวนไปตามถนนในหวังจิ่งโซโห ซึ่งประชาชนหลายพันคนต่างยังคงไปทำงานทุกวัน และจากการแวะเข้าไปในห้างสรรพสินค้า ซึ่งใช้มาตรการตรวจวัดอุณหภูมิทุกคนที่เข้ามาในอาคาร รวมทั้งบันทึกชื่อ หมายเลขโทรศัพท์ และข้อมูลอื่นๆ
ห้างร้านในสรรพสินค้ายังเปิดบริการตามปกติ โดยเฉพาะซูเปอร์มาร์เก็ต หน้าประตูจะมีถุงมือใช้ครั้งเดียวทิ้งให้หยิบใช้ ก่อนลูกค้าเดินเข้าไปซื้ออาหาร และผักผลไม้ ซึ่งยังมีมากมาย
หลายคนเข้าใจผิดว่ามาตรการจะเป็นอุปสรรคกับการใช้ชีวิต และระบบต่างๆ ของปักกิ่ง และไกลไปถึงระดับทำให้จีนล่มสลาย จะมีเพียงผู้ที่อยู่ในท้องถิ่น และผ่านประสบการณ์มาก่อนจึงจะเข้าใจความตามเป็นจริง
ผู้สื่อข่าวซึ่งสวมหน้ากาก ยังได้สัมภาษณ์ ชาวต่างชาติที่สวมหน้ากากอนามัย เป็นผู้อาศัยและทำงานในปักกิ่ง ชายต่างชาติคนแรกกล่าวว่า เขาเคยผ่านประสบการณ์ซาร์ส ในปี 2003 มาแล้ว จึงพอจะคุ้นกับมาตรการและสถานการณ์โควิด คือให้เราป้องกันตัวเองไว้ แต่การป้องกันสุขภาพแบบนี้ ก็ไม่ได้จะเป็นเรื่องยุ่งยากอะไรนัก
กิจการไม่ได้ปิดเมืองอะไร ร้านขายยา ซูเปอร์มาร์เก็ต ต่างๆ ยังเปิดปกติ เพียงแต่การเข้าไปในอาคารต่างๆ จะมีจุดตรวจไข้ ก็เป็นเรื่องไม่ลำบากอะไร
เมื่อถูกถามเกี่ยวกับความรู้สึกปลอดภัย เขาตอบว่า "ผมอยู่จีนมา 30 กว่าปีแล้ว คงไม่รู้สึกตกใจ ขวัญหายอะไร"
ชาวเยอรมันอีกคน ที่อาศัยอยู่ในปักกิ่งให้เหตุผลถึงการไปเดินทางออกจากจีนกลับประเทศว่า เขายังทำงานในปักกิ่ง และไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องออกจากที่นี่ ยังไม่มีอะไรน่าวิตกหวาดกลัว
ด้านสุภาพสตรีชาวต่างชาติ แสดงความเห็นว่า ซูเปอร์มาร์เกต ยังมีสินค้าเต็ม ผัก อาหาร ยา จากคำถามที่ว่าการใช้ชีวิตในเวลานี้น่ากลัวไหม ขอตอบว่า ไม่น่ากลัวอะไร