เอเจนซี - เมื่อวันศุกร์ที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา บุตรีและครอบครัวของ "จ้าว จื่อหยาง" อดีตนายกรัฐมนตรีจีน และอดีตเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ ได้ทำพิธีฝังอัฐิของเขาแล้ว ที่สุสานชานกรุงปักกิ่งร่วมกับอัฐิของภริยาของเขา "เหลียงปั๋วฉี"
จ้าวจื่อหยาง อดีตนายกรัฐมนตรีจีน ระหว่างปี 1980 - 1987 และอดีตเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ 1987 - 1989 ที่มีผลงานปฏิรูปพัฒนาเศรษฐกิจจีนอย่างแข็งแกร่ง ต้องถูกจองจำใช้ชีวิตบั้นปลายอยู่ภายใต้การกักบริเวณเป็นเวลานานกว่า 15 ปี จนวาระสุดท้ายของชีวิต ด้วยเหตุที่เขาตัดสินใจแสดงจุดยืนคัดค้านการประกาศกฎอัยการศึก และการใช้กำลังทหารเต็มอัตราเข้าปราบผู้ประท้วงสนับสนุนประชาธิปไตย ในคืนวันที่ 3 มิถุนายน เรื่อยมาจนถึงรุ่งเช้าวันที่ 4 มิถุนายน ที่ เทียนอันเหมิน กรุงปักกิ่ง ในปี 1989
ตามข้อมูลบันทึกเหตุการณ์ ในช่วงวิกฤติการเมืองจีนนั้น ระบุตามลำดับวันเวลาว่า
- วันที่ 22 เมษายน 1989 จ้าว จื่อหยาง เสนอ 3 ข้อ ในการเจรจากับกลุ่มผู้ประท้วง ได้แก่ เรียกร้องให้กลับเข้าห้องเรียน เสนอเปิดเวทีสนทนา และการใช้กฎหมายเพียงเพื่อลงโทษเฉพาะผู้กระทำผิดในข้อหาก่ออาชญากรรม
- วันที่ 26 เมษายน 1989 People's Daily เผยแพร่การตัดสินใจปราบจลาจลของเติ้งเสี่ยวผิง สถานการณ์มีความตึงเครียดมากขึ้น จนเป็นวิกฤตทางการเมืองที่รุนแรง
- วันที่ 4 พฤษภาคม 1989 จ้าว จื่อหยาง กล่าวคำปราศรัยแก่ผู้แทนธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชียที่เรียกร้องให้จัดการกับการประท้วง โดย “อิงตามหลักประชาธิปไตยและกฎหมาย”
- วันที่ 17 พฤษภาคม 1989 จ้าว จื่อหยาง เข้าประชุมที่บ้านของเติ้งเสี่ยวผิง เติ้งตัดสินใจที่จะใช้กฎอัยการศึก แต่ จ้าวจื่อหยาง กล่าวว่าเขาคัดค้าน
- วันที่ 19 พฤษภาคม 1989 จ้าว จื่อหยาง เดินทางไปพบผู้ประท้วงนักศึกษาในจัตุรัสเทียนอันเหมิน และกล่าวคำปราศรัยกับนักศึกษาขอให้ออกจากจัตุรัสโดยเตือนว่าจะมีการปราบปราม และนั่นคือการปรากฏตัวต่อสาธารณชนครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะถูกคณะโปลิตบูโร สั่งปลดจากทุกตำแหน่งในพรรคคอมมิวนิสต์
จ้าว จื่อหยางถูกกล่าวหาจากพรรคคอมมิวนิสต์ ว่า "บริหารผิดพลาดในการปราบปรามการจลาจลเปลี่ยนแปลงการปกครอง เป็นปฏิปักษ์พรรคฯ" ถูกขับไล่ออกจากตำแหน่งสูงสุด และโดนกักบริเวณใช้ชีวิตที่เหลือในบ้านพักรับรองของทางการฯ กว่า 15 ปี จนเสียชีวิตในวันที่ 17 มกราคม ปี 2005
แม้ว่าเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2005 รัฐบาลได้จัดพิธีศพให้เขาที่ "สุสานปาเป่าซัน" กรุงปักกิ่ง สถานที่สำคัญซึ่งสงวนไว้สำหรับวีรบุรุษนักปฏิวัติ ผู้นำและเจ้าหน้าที่ของรัฐ มีผู้ร่วมงานกว่า 2,000 คน แต่เป็นงานที่ถูกควบคุมอย่างเข้มงวดในการคัดเลือกผู้เข้าร่วม ด้วยไม่ต้องการให้มีความเคลื่อนไหวไม่สงบทางการเมือง บุคคลผู้ใกล้ชิดกับจ้าวจื่อหยาง ถูกกักตัวไว้ที่บ้าน ไม่สามารถเข้าร่วมได้ นอกจากนี้ยังมีคำสั่งห้ามนำดอกไม้ หรือจารึกข้อความบนดอกไม้พวงหรีดใดๆ ไม่มีคำสรรเสริญถึงประวัติผู้วายชนม์ในพิธี เพราะรัฐบาลและครอบครัวของจ้าวไม่เห็นด้วยกับเนื้อหา ในขณะที่รัฐบาลต้องการที่จะพูดว่าเขาทำผิดพลาดแต่ครอบครัวของเขาปฏิเสธที่จะยอมรับว่า จ้าวจื่อหยาง ทำอะไรผิด
ในวันงานศพฯ สถานีโทรทัศน์ของรัฐกล่าวถึงมรณกรรมของจ้าวจื่อหยางเป็นครั้งแรก ซินหัวรายงานบทความสั้น ๆ เกี่ยวกับการจัดพิธีศพแต่ก็ระบุถึงความผิดพลาดในประวัติชีวิตของเขา
หลังจากพิธีฌาปนกิจที่จัดโดยรัฐบาลเสร็จสิ้น ครอบครัวของจ้าว นำอัฐิ กลับไปเก็บรักษาที่บ้านในปักกิ่ง เนื่องจากรัฐบาลปฏิเสธที่จะให้ฝังอัฐิไว้ที่ สุสานปาเป่าซัน" กรุงปักกิ่ง เช่นวีรบุรุษและผู้นำประเทศคนอื่นๆ ในอดีต
เถ้าอัฐิของอดีตเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์และอดีตนายกรัฐมนตรีจีนท่านนี้ ถูกเก็บไว้ที่บ้านของครอบครัวนับแต่วันนั้นนานกว่า 14 ปี เพื่ออุทธรณ์รัฐบาลหาสถานที่พักพิงสุดท้ายอันสมเกียรติ จนในที่สุดก่อนวันครบรอบวันเกิด 100 ปีของจ้าวจื่อหยาง (เกิดวันที่ 17 ตุลาคม 1919) ครอบครัวของเขาจึงตัดสินใจจัดพิธีฝังอัฐิอย่างเงียบๆ เหมือนคนธรรมดาทั่วๆ ไป ด้วยความเชื่อว่าจะไม่เป็นมงคลกับผู้วายชนม์ ซึ่งครบอายุ 100 ปี แต่ยังไม่สามารถหาที่พักพิงสุดท้าย
หวังหยานหนาน บุตรีของจ้าวจื่อหยางกล่าวว่า “เรารู้สึกโล่งใจ ในที่สุดพ่อแม่ของเราก็สามารถหลับพักได้อย่างสงบสุข"
"เรารู้สึกเสียใจก็คงเพียงที่เราผ่านเวลาการ (เจรจากับรัฐบาล) มานาน มาถึงวันนี้ยังรู้สึกเหมือนฝัน วันนี้มาถึงในที่สุด"
หยานกล่าวว่า “ครอบครัวเรารู้สึกผิดที่ไม่สามารถแจ้งให้ทุกคนทราบล่วงหน้าเกี่ยวกับ [การฝังอัฐิ] ในวันนี้” เธอกล่าวเสริม “โปรดเข้าใจว่าเราไม่มีทางเลือกมากนัก”
ชายผู้บุกเบิกความมหัศจรรย์ทางเศรษฐกิจของจีน ยังคงเป็นรัฐบุรุษที่เคารพนับถือในหมู่คนรุ่นเก่าและนักเสรีนิยมของประเทศ แต่กลายเป็นชื่อต้องห้ามทางการเมือง โดยชื่อของเขาถูกเซ็นเซอร์จากสื่อทางการทั้งหมด จนดูเหมือนเป็นนักปฏิรูปฯ ที่พรรคคอมมิวนิสต์ต้องการจะลืม
ภาพจำของจ้าวจื่อหยาง ที่คนยังจดจำได้ในระดับสากล คงมีเพียงภาพถ่ายที่เขาเดินถือร่มคล้องแขนกับ โรนัลด์ เรแกน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อเขาไปเยือนทำเนียบขาวในปี 1984 กับภาพที่เขาปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 1989 เมื่อไปเยี่ยมนักศึกษาซึ่งอดอาหารประท้วง ที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน ในปักกิ่ง
18 ตุลาคม 2019 ในพิธีฝังเถ้าอัฐิ "จ้าวจื่อหยาง" ณ สุสานที่พำนักนิรันดรนี้ มีสมาชิกในครอบครัวประมาณสิบกว่าคนเข้าร่วม กับเพื่อนเก่าของจ้าวอีกราวสิบกว่าคน ซึ่งปรากฏตัวประมาณหนึ่งชั่วโมงหลังจากเปิดป้ายศิลาหน้าหลุมฯ สุสานนี้เป็นสุสานสำหรับประชาชนทั่วไป อาจรวมถึงศิลปิน และปัญญาชนบ้าง อยู่ห่างจากกรุงปักกิ่งราว 60 กิโลเมตร
ที่ป้ายศิลาหลุมศพเรียบๆ ธรรมดานั้น สลักชื่อ "จ้าวจื่อหยาง 赵紫阳" ด้วยอักษรดำอย่างง่ายๆ ไม่ใช่สีแดง และทอง นอกจากชื่อของ "จ้าวจื่อหยาง" กับ "เหลียงปั๋วฉี 梁伯琪" ภริยาคู่ชีวิตแล้ว ก็ไม่ได้มีรายละเอียดอื่นใด ...