เอเจนซีส์--ณ ฟาร์มเลี้ยงสุกรในเมืองหนันหนิง เมืองเอกของเขตปกครองตัวเองชนชาติจ้วงมณฑลกว่างซี เกษตรกร นาย ผาง ชง ได้เลี้ยงสุกรขนาดใหญ่พิเศษมีน้ำหนักเท่ากับหมีขั้วโลก ประมาณ 500 กิโลกรัม ผู้เลี้ยงสามารถขายสุกรไซส์จัมโบนี้ในราคามากกว่า 10,000 หยวน คิดเป็นสามเท่าของรายได้บุคคลสุทธิ/เดือนของชาวกว่างซี
แม้สุกรของนายผางนี้มีขนาดใหญ่เวอร์ แต่ในสถาการณ์ที่ชาวจีนกำลังเผชิญปัญหาขาดแคลนเนื้อหมูในประเทศ แนวความคิด “ขนาดใหญ่กว่าย่อมดีกว่า” ยิ่งโหมกระพือไปทั่วประเทศ ซึ่งเป็นถิ่นนักบริโภคเนื้อมากที่สุดในโลก
สำหรับพันธุ์หมูไซส์หมีขั้วโลกของนายผางมีน้ำหนักมากว่าหมีขั้วโลกเพศผู้ที่เจริญเติบโตเต็มที่ “ขณะที่ราคาเนื้อหมูกำลังแพงขึ้นๆ เกษตรกรเลี้ยงสุกรในมณฑลจี๋หลินพากันขุนหมูขนาดใหญ่เท่าที่สามารถ น้ำหนักเฉลี่ย 175 ถึง 200 กิโลกรัม ขณะที่หมูทั่วไปที่มีน้ำหนักโดยปกติที่ 125 กิโลกรัม” นาย เจ้า ไห่หลิน เกษตรกรเลี้ยงสุกกรในท้องถิ่นเผย
ขณะเดียวกันกลุ่มผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ที่เป็นแหล่งโปรตีนรายหลักในจีน ได้แก่ Wens Foodstuffs ผู้เลี้ยงสุกรรายใหญ่ของประเทศ, Cofco Meat, และ Beijing Dabeinong Technology เผยว่าพวกเขาพยายามขุนสุกรให้มีน้ำหนักมากกว่าปกติ
“ฟาร์มขนาดใหญ่พยายามเพิ่มน้ำหนักหมูอย่างน้อย 14 เปอร์เซ็นต์” หลิน กัวฟา นักวิเคราะห์ประจำบริษัทที่ปรึกษาของ Bric Agriculture Group
น้ำหนักเฉลี่ยของสุกรที่โรงเชือดในฟาร์มขนาดใหญ่ เพิ่มขึ้นถึง 140 กิโลกรัม เทียบกับประมาณ 110 กิโลกรัมในสถานการณ์ปกติ
กระแสการขุนสุกรให้มีน้ำหนักมากที่สุดนี้ สืบเนื่องจาก “ไข้หวัดหมู” หรือโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (AFRICAN SWINE FEVER) กำลังระบาดในจีน บางแหล่งข่าวเผยว่าเจ้าหน้าที่ต้องสังหารสุกรถึงครึ่งหนึ่งของสุกรทั้งหมดในประเทศ ทำให้ราคาหมูในตลาดแพงกระฉูด รัฐบาลจึงกระตุ้นให้เกษตรกรอัดฉีดผลผลิตเพื่อสกัดภาวะเงินเฟ้อ
รองนายกรัฐมนตรีจีน นาย หู ชุนหวา เตือนสถานการณ์ซับพลายเนื้อหมูกำลังแย่ลงๆและจะ “เลวร้ายมาก” ไปถึงช่วงครึ่งปีแรกของปีหน้า (2020) จีนจะขาดแคลนเนื้อหมูถึง 10 ล้านตันในปีนี้ ขณะที่ซับพลายจากต่างประเทศก็ยังไม่เพียงพอ ดังนั้นจีนต้องเร่งผลิตเนื้อหมูภายในประเทศอย่างเร่งด่วน