ส่งออกจีน ส.ค. หดตัวลงอย่างไม่คาดคิด

รอยเตอร์ส-การส่งออกจีนระหว่างเดือนส.ค.ลดลงอย่างไม่คาดคิด ขณะที่การนำเข้าฝ่อแฟบต่อเนื่องเป็นเดือนที่สี่ ยิ่งตอกย้ำให้จีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขณะที่สงครามการค้ากับสหรัฐฯบานปลายไม่เลิก

เป็นที่คาดว่าปักกิ่งจะประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกชุดในเร็วๆนี้ เพื่อสกัดความเสี่ยงจากภาวะชะลอตัวเศรษฐกิจ รวมทั้งการตัดลดอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมที่สำคัญในรอบสี่ปี

เมื่อวันศุกร์(6 ก.ย.) ธนาคารประชาชนจีน หรือแบงค์ชาติจีนประกาศปรับลดอัตราเงินสดสำรองของกลุ่มธนาคารปล่อยกู้เป็นครั้งที่ 7 นับจากต้นปีที่แล้ว(2018) เพื่ออัดฉีดเงินทุนสำหรับการกู้ยืมมากขึ้น การประกาศฯเกิดขึ้นหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีที่ส่งสัญญาณนโยบายผ่อนปรนมากขึ้น

ข้อมูลศุลกากรจีนเผย(8 ก.ย.) การส่งออกเดือนส.ค. ลดลง 1 เปอร์เซ็นต์ จากปีก่อนหน้า ถือเป็นการตกลงครั้งใหญ่นับจากเดือนมิ.ย. ซึ่งการส่งออกได้ลดลงไป 1.3 เปอร์เซ็นต์

ก่อนหน้านี้กลุ่มนักวิเคราะห์ที่ตอบแบบสอบถามของสำนักข่าวรอยเตอร์ส คาดการณ์ว่าการส่งออกจีนจะสูงขึ้น 2.0 เปอร์เซ็นต์ หลังจากที่ดีดตัวขึ้น 3.3 เปอร์เซ็นต์ในเดือนก.ค.

ขณะนี้การวิเคราะห์หลายสำนักคาดว่าการส่งออกจากแดนมังกรจะชะลอตัวลงอีกในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ เนื่องจากคำสั่งซื้อสินค้าส่งออกที่ลดลงทั้งในการสำรวจจากกลุ่มโรงงานเอกชนและภาครัฐ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยจากมาตรการปรับเพิ่มอัตราภาษีศุลกากรของสหรัฐฯที่กำลังจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ต.ค. และ 15 ธ.ค.

ในการแถลงตัวเลขการค้า (8 ก.ย.) ระบุการนำเข้าจีนได้หดตัวลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่สี่จากเดือนเม.ย. โดยขยายตัวในอัตราที่ลดลง 5.6 เปอร์เซ็นต์ ปีต่อปีในเดือนส.ค. ขยับลงเล็กน้อยที่จากตัวเลขคาดการณ์ 6.0 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็เท่ากับอัตราขยายตัวในเดือนก.ค. 5.6 เปอร์เซ็นต์

บรรยากาศเศรษฐกิจแดนมังกร: ความต้องการภายในประเทศซึ่งรัฐบาลหวังให้เป็นปัจจัยหลักกระตุ้นเศรษฐกิจ ตกอยู่ในภาวะเซื่องซึม กอปรด้วยราคาสินค้าโภคภัณฑ์โลกที่อ่อนเปลี้ย การบริโภคและการลงทุนภายในจีนยังแผ่วเบาแม้รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นมากกว่าปี

ยอดเกินดุลการค้าเมื่อเดือนที่แล้ว เท่ากับ 34,840 ล้านเหรียญสหรัฐ เทียบกับยอดเกินดุล 45,060 ล้านเหรียญสหรัฐ ของเดือนก.ค. ก่อนหน้ากลุ่มวิเคราะห์คาดการณ์ยอดเกินดุลการค้าจีนสำหรับเดือนส.ค.ไว้ที่ 43,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

ส่วนยอดเกินดุลการค้าจีนที่มีต่อสหรัฐฯในเดือนส.ค. เท่ากับ 26,950 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจาก 27,970 ล้านเหรียญสหรัฐ ของเดือนก.ค.

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขยอดเกินดุลการค้าจีนต่อสหรัฐฯรวมใน 8 เดือนแรก เท่ากับ 195,450 ล้านเหรียญสหรัฐ แสดงให้เห็นว่าความไม่สมดุลทางการค้ายังคงอยู่ และเป็นประเด็นปัญหาหลักที่รัฐบาลประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ นำมากดดันจีนให้แก้ปัญหาให้ได้