จีนเตือน “การทำลายฮ่องกงกำลังสิ้นสุดลงแล้ว”

เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์/เอเจนซี--จีนประณามการประท้วงของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลจีนทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกวัน พร้อมกับเตือนว่า “ความเคลื่อนไหวที่พยายามทำลายฮ่องกง และเป็นปฏิปักษ์ต่อจีน กำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว”

จีนได้ส่งข้อความประณามและคำเตือนดังกล่าวผ่านบทความแสดงความคิดเห็นที่เผยแพร่เมื่อวานนี้(1 ก.ย.)ผ่านสื่อคือสำนักข่าวซินหวา โดยมิได้ระบุชัดเจนว่าการยุติการประท้วงจะเป็นวิธีการใด แต่ก็เป็นแถลงการณ์เตือนจากจีนที่ใช้ถ้อยคำแรงที่สุด โดยขีด “เส้นแดงที่ห้ามรุกล้ำอย่าวงเด็ดขาดสามประการ”

“มิมีใครอาจทำลายความมั่นคงและอธิปไตยจีน, มิมีใครอาจทำลายอำนาจของรัฐบาลกลางและหลักกฎหมาย HKSAR, มิมีใครอาจแทรกซึมและบ่อยทำลายจีน” บทความระบุโดยอ้างถึงชื่ออย่างเป็นทางการของฮ่องกง HKSAR (เขตบริหารพิเศษแห่งฮ่องกง)

“ผู้ที่กล้าล่วงล้ำเส้นแดงเหล่านี้ โดยการแทรกแซงหรือบ่อนทำลายหลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” จะต้องล้มเหลว และจะต้องรับผิดชอบตามกฎหมายรัฐธรรมนูญของประเทศ และหลักกฎหมายพื้นฐานของ HKSAR
การประท้วงในฮ่องกงที่เริ่มเมื่อต้นเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมาจากการเดินขบวนต่อต้านกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดีที่จีน ทวีความรุนแรงอย่างน่าวิตกที่สุดในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ในวันเสาร์(31 ส.ค.) ตำรวจและผู้ประท้วงปะทะกันใจกลางเมือง ในรายงานข่าวระบุว่าผู้เดินขบวนได้จุดไฟเผา ขว้างปาระเบิดขวดใส่ตำรวจ ขณะที่ฝ่ายตำรวจได้โต้ตอบด้วยการใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูงและยิงแก็สน้ำตาใส่กลุ่มประท้วง ตำรวจปราบจลาจลได้ไล่กวดผู้ประท้วงในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน จากภาพวิดีโอตำรวจได้ใช้ตระบองไล่ตีประชาชนและสเปรยพริกไทยใส่

ในวันอาทิตย์(1 ก.ย.) กลุ่มผู้ประท้วงพยายามปิดสนามบินนานาชาติเป็นครั้งที่สามในรอบหนึ่งเดือนนี้ พวกเขาได้นำรถเข็นกระเป๋าเดินทางมาเป็นแนวกั้นปิดทางเข้า-ออก ขณะที่ตำรวจได้ปิดล้อมเทอร์มินัล อนุญาตเพียงผู้โดยสารที่มีตั๋วเครื่องบินผ่านเข้าไปได้

ผู้ประท้วงออกจากสนามบินในตอนเย็นวานนี้และบุกเข้าไปในสถานีรถไฟใต้ดินที่ใกล้ที่สุด ทำลายอุปกรณ์เครื่องมือ และพ่นสีเขียนสโลแกนต่อต้านรัฐบาลบนผนัง

ในบทความแสดงความเห็นในซินหวาเตือนว่าผู้ประท้วงจะต้องขึ้นถูกชำระความยุติธรรม

ซินหวาได้อ้างถึงกลุ่มผู้ประท้วงเป็น “พวกปฏิวัติสี” ซึ่งเป็นถ้อยคำที่ใช้อ้างถึงการลุกฮือในยุโรปตะวันออก แอฟริกาเหนือ และตะวันออกกลางในต้นสหัสววรษ 2000 เป็นครั้งแรกในบทความแสดงความเห็นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ในบทความฯดังกล่าวอ้างถึงผู้นำสูงสุด เติ้ง เสี่ยวผิงผู้ล่วงลับ ที่พูดในปี ค.ศ. 1984 ว่า “รัฐบาลแผ่นดินใหญ่จะแทรกแซงหากเกิดเหตุการณ์ไม่สงบในดินแดน” แต่ในบทความที่เผยแพร่เมื่ออาทิตย์(1 ก.ย.)มิได้กล่าวย้ำถึงการแทรกแซงนี้อีก แต่อย่างไรก็ตามในสารของปักกิ่งแสดงความชัดเจนว่าจะไม่ยอมตามข้อเรียกร้องของผู้ประท้วง