xs
xsm
sm
md
lg

ประท้วงฮ่องกง 2019 VS อ็อกคิวพาย เซ็นทรัล: “79 วัน” ผู้ค้าปลีก นักลงทุน นักพัฒนาฯ เดือดร้อนที่สุดจากพิษประท้วงปีนี้

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

การชุมนุมประท้วงต่อต้านกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนที่มีผู้เข้าร่วมนับล้านเมื่อวันที่ 16 มิ.ย.2019 (แฟ้มภาพ เอพี)
ในวันจันทร์(26 ส.ค.)ที่ผ่านมา การประท้วงใหญ่ในฮ่องกงได้ดำเนินมานานถึง 79 วัน ซึ่งเป็นตัวเลขจำนวนวันประท้วงใหญ่ที่เรียกว่า อ๊อกคิวพาย เซ็นทรัล (Occupy Central) หรือการปฏิวัติร่มในฮ่องกง เมื่อปี 2014

การประท้วงที่ยังไม่เห็นวันยุตินี้กำลังพ่นพิษร้ายใส่เศรษฐกิจฮ่องกง จากภาคสำคัญๆอย่าง อสังหาริมทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์ เจ้าของกิจการร้านค้า และธนาคาร ผลกระทบจากการประท้วงครั้งนี้แตกต่างไปจากการประท้วงอ็อกคิวพาย เซ็นทรัล เมื่อ 5 ปีที่แล้ว โดยความเสียหายต่อภาคธุรกิจหนักยิ่งกว่าและอาจส่งผลต่อการลงทุนระหว่างประเทศที่ยังไม่ชัดเจน

Goldin Financial Holdings ได้ยกเลิกแผนการซื้อที่ดินทำเลทองเชิงพาณิชย์ซึ่งเคยเป็นทางวิ่งของสนามบินเก่าไคตั๊ก มูลค่า 11,120 ล้านเหรียญฮ่องกงเมื่อวันที่ 11 มิ.ย. สองวันหลังการประท้วงใหญ่ที่มีผู้เดินขบวนถึงล้านคน โดยอ้างเหตุผลที่ยกเลิกฯ คือ “ความไร้เสถียรภาพเศรษฐกิจและความขัดแย้งทางสังคม”

การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์โดยรวม รวมทั้งบ้าน ร้านค้า และสำนักงานอุตสาหกรรมที่ขึ้นทะเบียนใน Land Registry ระหว่างเดือนมิ.ย.และก.ค.ลดลง 24 เปอร์เซ็นต์ในช่วง 79 วันที่สิ้นสุด ณ วันที่ 23 ส.ค.ในปีนี้ เปรียบเทียบกับช่วงทีมีการประท้วงใหญ่อ็อกคิวพาย เซนทรัล

รัฐมนตรีว่าการคลังแห่งฮ่องกง พอล ชาน โม-โพ เตือนว่าฮ่องกงกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอยและภาวะว่างงาน ขณะที่ไตรมาสสี่ของปี 2014 ซึ่งเป็นช่วงการประท้วงอ็อกคิวพาย เซ็นทรัล เศรษฐกิจดินแดนยังเติบโต 2.6 เปอร์เซ็นต์ปีต่อปี

ขณะที่ Hong Kong Exchanges and Clearing ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินงานตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง มีผลประกอบการจากหุ้นไอพีโอและการค้าหุ้น ลดลงอย่างน่าใจหาย

ทำไม? สภาพเศรษฐกิจในช่วงการประท้วงในขณะนี้ จึงเลวร้ายกว่ามากเมื่อเทียบกับเมื่อ 5 ปีที่แล้วที่มีเหตุการณ์ประท้วงใหญ่เช่นกัน

ในปีนี้ เศรษฐกิจฮ่องกงบอบช้ำจากสงครามการค้าจีนและสหรัฐฯอยู่แล้ว และยังต้องมาประสบกับเหตุการณ์ปะทะระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจปราบจลาจลทั่วดินแดน สำหรับการประท้วงอ็อกคิวพาย เซ็นทรัลเมื่อปี 2014 นั้นยังกระจุกอยู่ที่ใจกลางเมืองและที่อื่นอีกไม่กี่หย่อม ขณะที่การประท้วงในครั้งนี้ยังขยายวงออกไปถึงสนามบิน รถไฟฟ้าใต้ดิน และหลายๆเขตข้างเคียงรวมทั้งในฝั่งเกาลูน

ในยามนี้ยังไม่มีปัจจัยที่จะเป็นโชคช่วยกระตุ้นบรรยากาศการลงทุนเหมือนอย่างในปี 2014 ซึ่งในตอนนั้นมีโครงการเชื่อมต่อตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้-ฮ่องกง (Shanghai-Hong Kong Stock Connect) ที่เปิดทางให้กลุ่มนักลงทุนทำการซื้อขายหุ้นระหว่างตลาดกัน

“79 วันของการประท้วงปี 2014 เป็นไปอย่างสันติ แม้ผู้ประท้วงชุมนุมกันบนถนนใจกลางเมืองก็ตาม แต่การประท้วงในขณะนี้บานปลายเป็นความรุนแรงและกระทบต่ออารมณ์ของนักลงทุนมาก” Gordon Tsui Luen-on กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์

ดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกงที่ติดตามราคาหุ้นของกลุ่มบริษัทบลูชิพ 50 ราย ร่วงไป4.8 เปอร์เซ็นต์ใน 79 วันนับจากวันที่ 9 มิ.ย. ซึ่งเป็นวันที่ผู้ประท้วงต่อต้านกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปจีนออกมาเดินขบวนกันมากถึง 1 ล้านคน เทียบกับดัชนีหุ้นที่ตกลง 2.75 เปอร์เซ็นต์ในช่วงการประท้วงอ็อกคิวพายฯ

ข้อมูลตลาดหุ้นเผยว่าระหว่างวันที่ 9-26 ส.ค. ผลประกอบการรายวันโดยเฉลี่ยลดลง 31.3 เปอร์เซ็นต์ปีต่อปี มาอยู่ที่ 79,370 ล้านเหรียญฮ่องกง

...เปรียบเทียบกับผลประกอบการโดยเฉลี่ยที่สูงขึ้น 37 เปอร์เซ็นต์ปีต่อปีระหว่างไตรมาสที่สี่ของปี 2014 เท่ากับ 80,130 ล้านเหรียญฮ่องกง ซึ่งเป็นผลมาจากการผุดโครงการเชื่อมต่อตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้-ฮ่องกง

ด้วยมูลค่าตลาดหุ้นและผลประโยชน์จากการค้าที่ต่ำทำให้บริษัท 200 ราย ที่อยู่ระหว่างดำเนินการยื่นคำสั่งขอซื้อหุ้นทั่วไป (float shares) ในฮ่องกง ขอให้ธนาคารของพวกเขาเก็บดีลไว้ก่อน

ผลที่ตามมาคือกองทุนหุ้นไอพีโอร่วงระนาวไปถึง 87 เปอร์เซ็นต์ ระดมทุนได้ 2,620 ล้านเหรียญสหรัฐจากดีลซื้อขาย 28 รายในช่วง 79 วัน(ถึงวันจันทร์26 ส.ค.) เปรียบเทียบกับการระดมทุน 19,630 ล้านเหรียญสหรัฐจาก 49 บริษัท ในช่วงไตรมาสแรกของปีที่แล้ว...จากข้อมูล Refinitiv

ในเดือนส.ค. มีสัญญาซื้อขายไอพีโอขนาดย่อมๆเพียงหนึ่งดีลเท่านั้น! ทุบสถิติน้อยที่สุดตั้งแต่ปี 2012

มาเปรียบเทียบกับการซื้อขายหุ้นไอพีโอระหว่างช่วง 79 วันของการประท้วงอ็อกคิวพายปี 2014 ที่มีอัตราลดลง 39 เปอร์เซ็นต์ปีต่อปี โดยมีดีลซื้อขาย 26 ดีล ระดมทุนได้ 7,190 ล้านเหรียญสหรัฐ

ระหว่างอ็อกคิวพาย เซ็นทรัล ไม่มีการยกเลิกดีลใหญ่ๆ (mega deal) ขณะที่ในปีนี้ต้องล้มเลิกดีลไปถึงสามดีล โดยเป็นดีลไอพีโอระดับเมกะดีล สองฉบับ
การปะทะระหว่างผู้ประท้วงและตำรวจปราบจลาจลเมื่อวันที่ 25 ส.ค. 2019 (ภาพ รอยเตอร์ส)
ESR Cayman ราชาโกดังสินค้าที่ใหญ่สุดในเอเชีย-แปซิฟิก ล้มเลิกแผนขายหุ้นไอพีโอ มูลค่า 1,200 ล้านเหรียญสหรัฐในวันที่ 13 มิ.ย. หลังจากที่เกิดเหตุปะทะบริเวณนอกสภานิติบัญญัติหรือสภาเลคโก ต่อมาในเดือนก.ค. Anheuser-Busch InBev ยกเลิกสัญญาขายหุ้นไอพีโอ มูลค่า 9,800 ล้านเหรียญสหรัฐของ Budweiser ซึ่งเป็นหน่วยปฏิบัติการในเอเชียของตนในฮ่องกง เนื่องจากคาดการณ์ว่าทุนที่จะระดมได้นั้นจะไม่สูงถึงเป้าที่วางไว้

“เราพยายามช่วยลูกค้า (บริษัท) 40 ราย ที่ต้องการเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น แต่ก็ไม่มีใครต้องการเดินหน้าเข้ามาเปิดขายไอพีโอเลย เนื่องจากบรรยากาศในตลาดตอนนี้แย่มากๆ” Clement Chan Kam-wing กรรมการผู้จัดการของบริษัทการบัญชี BDO

“มองย้อนไปเมื่อปี 2014 ลูกค้าของเรา ไม่มีใครระงับหรือเลื่อนดีลไอพีโอเลย”

ราคาบ้านที่อยู่อาศัยในช่วงอ็อกคิวพาย เซ็นทรัล มีอัตราเติบโตอยู่ที่ 2.2 เปอร์เซ็นต์ เทียบกับอัตราขยายตัวที่ 0.3 เปอร์เซ็นต์ในช่วงการประท้วงระหว่างเดือนมิ.ย.ถึงวันที่ 23 ส.ค. จากข้อมูลเอเจนซี่อสังหาฯ Centaline Property Agency

“ความวุ่นวายในสังคมครั้งล่าสุดนี้กระทบต่อตลาดอสังหาฯอย่างไม่รู้อนาคตเลยจริงๆ แย่เสียยิ่งกว่าช่วงการประท้วงอ็อกคิวพายฯ” Donald Choi ประธานผู้บริหารของนักพัมนาอสังหาฯ Chinachem Group

บรรดานักพัฒนาฯในฮ่องกงมีทางเลือกคือ ลดราคาถึง 10 เปอร์เซ็นต์ หากต้องการเดินหน้าผลักดันโปรเจ็ตใหม่ หรือไม่ก็เลื่อนแผนการตลาดของพวกเขา โดยเฉพาะในตลาดบนหรือแผนการพัฒนาโครงการหรู

ขณะที่ภาคค้าปลีกก็หน้ามืดซวนเซ
สมาคมบริหารจัดการภาคค้าปลีกแห่งฮ่องกง (Hong Kong Retail Management Association) เผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ยอดขายของสมาชิกในสมาคมฯ ลดลงถนัดในสามสัปดาห์แรกของเดือนส.ค. และอัตรายอดขายเดือนมิ.ย. ตกลง 6.7 เปอร์เซ็นต์ปีต่อปี และอาจจะต้องมีการปลดคนงานหากสถานกาณณ์วุ่นวายแย่ลงไปอีก อีกทั้งมีเสียงเรียกร้องให้เจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินลดค่าเช่าลงครึ่งหนึ่งในช่วงหกเดือนแรก

ด้านภาคการท่องเที่ยว ข้อมูลจากสภาอุตสาหกรรมการเดินทาง (Travel Industry Council) ระบุว่ายอดจองรวมของกรุ๊ปทัวร์จากทั้งแผ่นดินใหญ่และต่างแดนอื่นๆ ลดลงครึ่งหนึ่งในเดือนส.ค.เปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว

“เอเจนซี่จัดการท่องเที่ยวบางรายเสนอให้สต๊าฟของพวกเขาหยุดพักโดยไม่จ่ายเงินเดือน/ค่าจ้าง ไกด์นำเที่ยวได้รับผลกระทบอ่วมที่สุด” โฆษกสภาอุตสาหกรรมการเดินทาง

ด้านผู้นำสูงสุดของฮ่องกง นาง แคร์รี่ แลม ได้ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2,400 ล้านเหรียญ ซึ่งจะประกอบด้วยโครงการสนับสนุนด้านการศึกษา สาธารณูปโภค และช่วยเหลือธุรกิจขนาดเล็ก

แต่กลุ่มนักวิเคราะห์ได้เตือนว่าด้วยบรรยากาศที่เป็นอยู่ขณะนี้ มาตรการฯดังกล่าวอาจไม่ช่วยอะไรมากนักเนื่องจากกลุ่มบริษัทและผู้บริโภคไม่มีอารมณ์จะใช้จ่ายใดๆ และยังคาดหวังกันว่าในการแถลงนโยบายประจำปีในเดือนต.ค. แลมจะประกาศมาตรการลดหย่อนภาษีและมาตรการอื่นเพิ่มเติมสำหรับกระตุ้นเศรษฐกิจ

เศรษฐกิจที่บูมของแผ่นดินใหญ่หรือมาตรการกระตุ้นฯต่างๆได้ช่วยประคับประคองฯ แต่ในครั้งนี้ปักกิ่งก็ประสบปัญหาชะลอตัวโดยตัวเลขการขยายตัวเศรษฐกิจลดต่ำที่สุดในเกือบสามสิบปี อีกทั้งหนี้สินบานเบอะ


กำลังโหลดความคิดเห็น