MGR ONLINE--หลังจากที่สหรัฐฯประกาศตีตราจีน “บิดเบือนค่าเงิน” หนังสือพิมพ์ประชาชนจีน (พีเพิล เดลี่) ออกโรงศอกกลับในทันที ว่า “สหรัฐฯจงใจทำลายระเบียบสากล” ทำให้อุณหภูมิศึกพิพาทการค้าระหว่างสองมหาอำนาจเศรษฐกิจโลกพุ่งสูง ขยายวงสู่สงครามเงิน
กระบอกเสียงใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนคือ หนังสือพิมพ์ประชาชนจีน (People's Daily) กล่าววิจารณ์ด้วยถ้อยคำที่รุนแรงในบทบรรณาธิการ(6 ส.ค.) ชี้ว่าสหรัฐฯจับพลเมืองของตนมาเรียกค่าไถ่ โดยมิได้กล่าวถึงความเคลื่อนไหวล่าสุดของวอชิงตัน
“ความรับผิดชอบของชาติอำนาจคือช่วยรักษาเสถียรภาพและความมั่นคงให้แก่โลกด้วยการสร้างเงื่อนไขและโอกาสในการพัฒนาร่วมของทุกประเทศ แต่บางคนในสหรัฐฯกลับกระทำในสิ่งตรงกันข้ามนี้”
การเผยแพร่บทบรรณาธิการโจมตี “บางชาติ”นี้เกิดไล่หลังจากที่กระทรวงการคลังแห่งสหรัฐฯแถลง(5 ส.ค.) ระบุว่าจีน “บิดเบือนค่าเงิน” โดยถือเป็นครั้งแรกนับจากปี 1994 ที่จีนถูกประณามเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ
การแถลงของสหรัฐฯนี้เกิดหลังจากที่ค่าเงินจีนอ่อนสุดเป็นประวัติการณ์ โดยอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินหยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ เท่ากับ 7.0240 หยวนต่อหนึ่งดอลลาร์สหรัฐในตอนเปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ ซึ่งถือว่าอ่อนที่สุดในรอบ11 ปี และเป็นสัญญาณว่าปักกิ่งจะยอมให้เงินค่าของตนอ่อนลงเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่สหรัฐฯได้ขู่จะขึ้นอัตราภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีน 10 เปอร์เซนต์ โดยสินค้าจีนที่จะถูกรีดภาษีรอบใหม่นี้มูลค่า 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ในช่วงสามวันหลังจากที่ทรัมป์ขู่ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนรอบใหม่ซึ่งมีผลบังคับใช้ 1 ก.ย. เงินหยวนได้อ่อนค่าลงไปแล้ว 2.3 เปอร์เซ็นต์
เมื่อสองสามสัปดาห์ก่อนกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟแถลงว่าค่าเงินหยวนสอดคล้องปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจจีน ส่วนดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่ามากไป 6 เปอร์เซ็นต์ ถึง 12 เปอร์เซ็นต์
ขณะที่ธนาคารกลางจีนยืนยันว่าการอ่อนค่าของเงินหยวนเป็นไปตามแรงขับดันของตลาด แต่ก็เกิดกระแสวิตกกันว่าจีนจะใช้การลดค่าเงินมาเป็นอาวุธสู้กับทรัมป์ในกรณีการร้องเรียนยอดได้เปรียบดุลการค้าของจีนที่มีเหนือสหรัฐฯและนโยบายเทคโนโลยี
ด้านสื่อทางการจีนอีกรายไชน่า เดลี่ เผยแพร่บรรณาธิการ (6 ส.ค.) ระบุว่าการที่หยวนอ่อนค่าลงเช่นนี้เป็นผลมาจาก “ลัทธิปกป้องการค้าและการกระทำฝ่ายเดียว”ของรัฐบาลสหรัฐฯ และว่าอัตราแลกเปลี่ยนในอนาคตจะถูกตัดสินโดย “ปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจ”
กลุ่มนักวิเคราะห์ชี้ว่าการกระทำของสหรัฐฯยิ่งทำให้สงครามการค้าขยายวงออกไปนอกเขตของภาษีการค้า โดยขณะนี้มันได้ขยายวงสู่ด้านเทคโนโลยีแล้ว และยังขยายวงออกไปอีกสู่สงครามการเงิน
กระทรวงพาณิชย์จีนประกาศ(6 ส.ค.) มาตรการโต้ตอบการขึ้นอัตราภาษีต่อสินค้าจีนรอบใหม่โดยกลุ่มบริษัทจีนจะหยุดซื้อสินค้าเกษตรสหรัฐฯ
เงินหยวนยังอ่อนค่าเป็นประวัติการณ์
ค่าเงินหยวนในวันนี้(6 ส.ค.) ยังอ่อนค่าลงอีกทั้งในตลาดภายในและตลาดต่างประเทศ เงินหยวนที่ตลาดในประเทศเปิดการซื้อขายอย่างอ่อนตัวที่ราว 7.0699 หยวนต่อหนึ่งดอลลาร์สหรัฐ และกระเตื้องขึ้นมาหน่อยที่ 7.0515 หยวนต่อหนึ่งดอลลาร์สหรัฐ
ขณะที่ธนาคารกลางได้กำหนดค่ากลางในตอนเช้าในระดับที่แข็งกว่าที่คาด เท่ากับ 6.9683 หยวนต่อหนึ่งดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งยังถือว่าอ่อนสุดนับจากเดือนพ.ค. 2008
ในการค้าที่ตลาดเอเชีย เงินหยวนอ่อนตัวเป็นประวัติการณ์ในตอนเปิดซื้อขาย เท่ากับ 7.1397 หยวนต่อหนึ่งดอลลาร์สหรัฐ และกระเตื้องขึ้นมาอยู่ที่ 7.0596 หยวนต่อหนึ่งดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่ธนาคารกลางจีนประกาศขายพันธบัตรสกุลเงินหยวนในฮ่องกง มูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถูกมองว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่สกัดการขายชอร์ตในตลาดเงิน