กลุ่มสื่อจีน รายงาน (5 ส.ค.) คำแถลงของหัวหน้าผู้บริหารแคร์รี ลัม ผู้ว่าการเขตบริหารพิเศษฮ่องกง จะแถลงฯ กับสาธารณะผ่านสื่อมวลชนครั้งแรกในรอบ 2 สัปดาห์ อธิบายถึงการกระทำของผู้ประท้วงว่าเป็นการท้าทายต่อ “หนึ่งประเทศสองระบบ”
รายงานข่าวกล่าวว่า ในวันจันทร์นี้ ฮ่องกงอยู่ในความโกลาหล รถไฟใต้ดินถูกระงับการเดินรถ 8 สาย เพราะผู้ประท้วงนั่งขวางป้องกันไม่ให้ประตูรถไฟปิด จนไม่สามารถเคลื่อนออกจากสถานีได้
ก่อนหน้านี้สองวัน การประท้วงเริ่มบานปลายอย่างรุนแรงระหว่างผู้ประท้วงและเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วเมือง ตั้งแต่ฝั่งตะวันตก, หวั่นจ๋าย และคอสเวย์เบย์ไปยังเกาลูน และเจิ้งกวนโอ ตำรวจประกาศต่อผู้ชุมนุมและใช้แก๊สน้ำตา รวมถึงการจับกุม
ขณะที่ความต้องการของผู้ประท้วงส่วนใหญ่ยังคงเหมือนเดิม คือ เรียกร้องการถอนร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนอย่างเต็มรูปแบบ และการไต่สวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการจับกุมผู้ประท้วง
แคร์รี ลัม ผู้ว่าการเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ได้แถลงกับสื่อมวลชนเมื่อเวลา 10.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ว่า ผู้ประท้วงกระทำผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการปิดล้อมสถานีตำรวจ และการปิดกั้นการให้บริการรถไฟสาธารณะ เป็นการท้าทายหลักการของ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” และคุกคาม “ความเจริญรุ่งเรืองและความมั่นคง” ของฮ่องกง นอกจากนี้ยังได้ประณามผู้ประท้วงที่ขว้างธงชาติจีน ที่ท่าเรือเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
“ฮ่องกงเป็นเมืองที่ปลอดภัยที่สุดในโลก” ลัมกล่าว และว่า “แต่การกระทำที่รุนแรงหลายครั้งทำให้ฮ่องกงอยู่ในสถานการณ์ที่อันตราย บางคนใช้วิธีการรุนแรงเพื่อแสดงความต้องการของตน และไม่สนใจเสรีภาพของคนอื่น บางคนขว้างก้อนอิฐและระเบิดเพลิง สถานีตำรวจ รวมถึงปิดล้อม ขัดขวางบริการรถไฟ"
“บางคนโยนธงประจำชาติลงในทะเล ในขณะที่บางคนประกาศ 'การปฏิวัติอันรุ่งโรจน์' ในฮ่องกง"
“การกระทำเหล่านี้ท้าทาย ‘หนึ่งประเทศสองระบบ” และคุกคามความมั่งคั่ง ความมั่นคงของฮ่องกง”
“การทำลายความสงบของผู้ประท้วงนับเป็นการไม่ให้ร่วมมือกัน เพื่อสร้างเมืองให้เป็นเมืองที่เราทุกคนรัก”
ไชน่าเดลีรายงานว่า แคร์รี ลัม กล่าวหลังจากทั้งเมืองตกอยู่ในสภาพเกือบเป็นอัมพาต โดยผู้ประท้วงจงใจปิดกั้นประตูรถไฟที่หลายสถานี จนได้รับผลกระทบอย่างน้อย 7 สาย และมี 35 เที่ยวบินที่คาดว่าจะถูกยกเลิกก่อนเที่ยง
“รัฐบาลจะฟื้นฟูความมั่นใจ เราทุกคนรักฮ่องกงและมีส่วนร่วมในเมือง นี่เป็นเวลาที่เราจะนำระเบียบกลับคืน ปฏิเสธความรุนแรงและความวุ่นวายโกลาหล” ลัมกล่าว
พอล ชาน โม-ปอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังฮ่องกง ได้กล่าวเตือนว่า เศรษฐกิจของฮ่องกงตกอยู่ในอันตรายอย่างยิ่งภายใต้สงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ และการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและตัวแปรระหว่างประเทศมากมาย ร้านค้าร้านอาหารและร้านค้าปลีกจำนวนมากได้รับผลกระทบ เศรษฐกิจในไตรมาสที่ 2 มีการเติบโตติดลบ หากสถานการณ์ยังคงเหมือนเดิมในไตรมาสที่ 3 ฮ่องกงจะประสบกับภาวะถดถอย