ไชน่าเดลี - (24 ก.ค.) สำนักงานข้อมูลของคณะรัฐมนตรีแห่งรัฐ, คณะรัฐมนตรีจีน ได้ตีพิมพ์เอกสารสมุดปกขาว กิจการป้องกันประเทศของจีนในยุคใหม่ ในวันที่ 24 กรกฎาคม ได้ลดลงทหารที่อยู่นอกหน่วยรบกองทัพจีน ไปแล้วครึ่งหนึ่ง
รายงานระบุว่า การใช้จ่ายด้านกลาโหม 'สมเหตุสมผลและเหมาะสม' และคิดเป็นสัดส่วนที่ค่อนข้างต่ำของจีดีพีของประเทศ กับการใช้จ่ายภาครัฐเมื่อเทียบกับประเทศสำคัญอื่น ๆ
อัตราส่วนการใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศต่อปีของจีนต่อจีดีพี ลดลงจากจุดสูงสุดที่ 5.43% ในปี 2522 เป็น 1.26 เปอร์เซ็นต์ในปี 2560 และสัดส่วนงบประมาณด้านการป้องกันประเทศ ต่อการใช้จ่ายภาครัฐ ลดลงจาก 17.37% ในปี 2522 เป็น 5.14 เปอร์เซ็นต์ในปี 2560
จากปี 2555-2560 ค่าใช้จ่ายในการป้องกันประเทศเฉลี่ยต่อปีของจีน อยู่ที่ประมาณ 1.3 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี ขณะที่ชาติอื่นๆ อาทิ สหรัฐอยู่ที่ 3.5% รัสเซียอยู่ที่ 4.4 เปอร์เซ็นต์ อินเดีย 2.5% และสหราชอาณาจักร 2%
รายงานฯ ยังพบว่า จำนวนทหารที่ไม่ได้อยู่ในหน่วยรบกองทัพจีน ได้ลดลงแล้วครึ่งหนึ่ง
โดยเกือบครึ่งหนึ่งของงานที่ไม่ได้อยู่ในกองทัพ ได้ถูกยกเลิกไปแล้ว และประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์ของตำแหน่งงานในหน่วยระดับกรมทหารได้ถูกยกเลิกไปแล้ว
องค์กรทหารที่เกี่ยวข้องกับการแสดงศิลปะ กีฬาบริการข่าว สิ่งพิมพ์ และหน่วยงานด้านการแพทย์และการวิจัย ได้ถูกปิด หรือทำให้เรียบง่ายขึ้น
ทั้งนี้ กองทัพได้บรรลุเป้าหมายในการลดกำลังทหารลง 300,000 นาย และรักษากำลังทหารไว้ที่จำนวน 2 ล้านนาย
สมุดปกขาว กิจการป้องกันประเทศของจีนในยุคใหม่ยังเริ่มเน้นย้ำ การพัฒนากำลังทหารสำหรับภารกิจพื้นที่นอกโลก และความปลอดภัยของไซเบอร์สเปซโดยให้หนักเดียวกันกับ กองกำลังรบนิวเคลียร์ ซึ่งในกิจการความมั่นคงแห่งชาติของจีน เรียกว่า "เขตรักษาความปลอดภัยที่สำคัญ"
รายงานระบุว่า ด้วยเป้าหมายของการพัฒนาอวกาศเพื่อความสงบสุข ประเทศจีนมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในความร่วมมือระหว่างประเทศในอวกาศ
ขณะที่การรักษาความปลอดภัยไซเบอร์สเปซ ก็เป็น "พื้นที่สำคัญสำหรับความมั่นคงของประเทศ การเติบโตทางเศรษฐกิจและการพัฒนาสังคม" เพราะจีนกำลังเผชิญกับภัยคุกคามความปลอดภัยที่รุนแรงจากไซเบอร์สเปซ