นักท่องเที่ยวอินเดีย ดาวรุ่งดวงใหม่ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย

เมื่อเร็วๆนี้มีการเปิดเผยสถิติกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวไทย ข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาระบุตัวเลขคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวประเทศไทยในปีนี้จะมีมากกว่า 40 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากสถิติสูงสุดที่ 38.3 ล้านคนในปี 2561 และแน่นอนกลุ่มนักท่องเที่ยวที่สร้างอานิสงส์แก่การท่องเที่ยวไทยหนีไม่พ้นกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนโดยทำสถิติในปีที่แล้ว (2018) 10.5 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 28 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดที่มาไทย

ทว่า กระแสนักท่องเที่ยวจีนแห่เที่ยวไทยนี้กำลังอยู่ในช่วงขาลงแล้ว ข้อมูลสถิติกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาระบุว่าช่วง 2 เดือนแรกของปี 2019 นี้ กลุ่มนักท่องเที่ยวจีนมีจำนวนลดลงเห็นได้ชัดจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมายังไทยในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นเดือนฉลองเทศกาลตรุษจีน ลดลง 12.3% จากช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว

ขณะเดียวกันกลุ่มนักท่องเที่ยวจากแดนภารตะกำลังหลั่งไหลมาเที่ยวสยามเมืองยิ้มหนาตาจนกลายเกิดกระแสคาดการณ์ว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวอินเดียจะเป็นความหวังในช่วยขยายการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สื่อฮ่องกง เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ได้เสนอรายงานข่าวระบุกระแสนักท่องเที่ยวชาวจีนแห่เที่ยวไทยเริ่มลดลงหลังอุบัติเหตุเรือล่มที่จังหวัดภูเก็ตเมื่อเดือนก.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งมีนักท่องเที่ยวชาวจีน 47 คน เสียชีวิต

ขณะที่กลุ่มนักท่องเที่ยวจากอินเดียเพิ่มจำนวนอย่างเห็นได้ชัด จากตัวเลขกระทรวงการท่องเที่ยวฯของไทยระบุว่าใน 5 เดือนแรกของปี 2019 นี้กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวอินเดียมาไทยเพิ่มขึ้นมากกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ เฉพาะในเดือนมิ.ย.เพียงเดือนเดียว มีนักท่องเที่ยวชาวแดนโรตีมาเที่ยวไทยถึง 180,000 คน

ในช่วงเวลาเดียวกัน กลุ่มนักท่องเที่ยวจากจีนลดลง 4 เปอร์เซ็นต์ แม้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวอยู่ที่ 4.8 ล้านคน ในขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวจากแดนภารตะ มีเพียง 787,195 คน

ปัจจัยที่กระตุ้นนักท่องเที่ยวอินเดียมาสยามเมืองยิ้ม ได้แก่ จำนวนเที่ยวบินตรงที่เพิ่มมากขึ้น การยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า และปัจจัยสำคัญที่สุดคือชาวแดนภารตะกำลังรวยขึ้น

ขนาดตลาดอินเดียนั้นไม่แพ้จีน ได้แก่ จำนวนประชากร 1,300 ล้านคน อีกทั้งแนวโน้มชนชั้นกลางที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่การท่องเที่ยวไทยได้ปรับเพิ่มตัวเลขประมาณการ โดยในปี 2028 จะมีกลุ่มนักท่องเที่ยวอินเดียมายังไทยอย่างน้อย10 ล้านคนซึ่งจะเพิ่มขึ้นมาถึง 5 เท่าเทียบกับเมื่อปีที่แล้ว วงจรการขยายตัวนี้ดูเลียนแบบการแห่เที่ยวไทยของกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนในช่วงก่อนหน้า จากจำนวน 800,000 คน ในปี 2008 ทะยานขึ้นมาจนแตะระดับกว่า 10 ล้านคนในปีที่แล้ว

ปรีชา จำปี กรรมการสมาคมโรงแรมไทย (Thai Hotels Association) เผยว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวชาวอินเดียแตกต่างจากนักท่องเที่ยวจีนตรงที่ว่าพวกเขามักเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเองเนื่องจากพูดภาษาอังกฤษได้ น้อยมากที่จะมากับกรุ๊ปทัวร์

“ในปีที่แล้ว (2018) นักท่องเที่ยวอินเดียมาไทย 1.6 ล้านคน และคาดว่าจะขยับขึ้นมาเป็น 1.8 คนในปีนี้” นาย ปรีชา กล่าว และว่าส่วนแบ่งตลาดอินเดียคล้ายกับตลาดจีนมาก ได้แก่ เวลาเดินทางจากจีนมาไทยและจากอินเดียมาไทยใช้เวลาพอๆกันคือ 3-4 ชั่วโมง จำนวนประชากรที่สูสีกัน แต่มีจุดต่างคือ ประชากร 600 ล้านคนในอินเดียมีอายุน้อยกว่า 25 ปี การท่องเที่ยวไทยมองว่าหนุ่มสาวจากแดนภารตะกลุ่มนี้จะเป็นอนาคตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย

จากการตระเวนสัมภาษณ์นักท่องเที่ยวอินเดียในไทยโดยผู้สื่อข่าวเซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ ตัวอย่างเช่น นาย Parv Jain นักศึกษาวัย 18 ปี จากแคว้นปัญจาบ เล่าว่าเขาและเพื่อนอีก 7 คน บินตรงมาที่จังหวัดภูเก็ต จากนั้นได้ไปเที่ยวรีสอร์ทที่กระบี่ และแวะชมเมืองในกรุงเทพฯเป็นจุดสุดท้าย

“พวกเราอยู่ในไทย 8 วัน ค่าใช้จ่ายตกคนละราว 15,000 บาท” หนุ่มนักศึกษาจากปัญจาบ กล่าว

Tuhin Mitra จากโกลกาตา เล่าประสบการณ์เที่ยวไทยว่าเขาไปที่พัทยา และชอบที่นั่นมากเพราะเขาสามารถดื่มเคื่องดื่มแอลกอฮอร์บนชายหาด ซึ่งเป็นสิ่งที่คนวัย 27 ปี ไม่สามารถทำได้ที่บ้านของตน

นอกจากเที่ยวชมสถานที่แหล่งวัฒนธรรม ลิ้มรสชาติอาหารไทยอันเลื่องลือแล้ว ยังมีกระแสชาวอินเดียเดินทางมาไทยเพื่อจัดพิธีแต่งงาน ในแต่ละปีคู่รักชาวอินเดียราว 200 คู่ได้เลือกเมืองไทยเป็นสถานที่จัดพิธีแต่งงาน จากข้อมูลสมาคมโรงแรมไทยเผยว่า สนนราคาที่คู่รักและครอบครัวจ่ายสำหรับแพคเกจจัดพิธีแต่งงานที่โรงแรมระดับห้าดาวในกรุงเทพฯ หัวหิน และพัทยา อยู่ที่ประมาณ 8-9 ล้านบาท

“นอกจากคู่บ่าว-สาวและสมาชิกครอบครัวพวกเขา ยังมีแขกที่บินมาร่วมงาน 300-400 คน ทั้งหมดอยู่ในไทยเพื่อร่วมฉลองพิธีแต่งงานประมาณ 3-4 คืน โดยพวกเขาคิดว่าค่าใช้จ่ายการจัดพิธีแต่งงานในไทยนั้นเป็นราคาที่ย่อมเยาว์”

อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวชาวอินเดียได้ชื่อว่าเป็นนักต่อราคาสินค้าตัวยง ยกตัวอย่างเจ้าของแผงขายกระเป๋าย่านประตูน้ำเล่าว่า “ผมต้องยอมขายกระเป๋าให้นักท่องเที่ยวอินเดียที่ราคาครึ่งหนึ่งของราคาที่ตั้งไว้ เพราะนอกจากนักท่องเที่ยวอินเดียแล้ว...ไม่มีใครอีกเลย”

คนขายสินค้าที่ระลึกในพัทยาบอกว่านักท่องเที่ยวชาวอินเดียไม่ค่อยควักกระเป๋าซื้อของกัน ขณะที่นักท่องเที่ยวจีนที่มากับกรุ๊ปทัวร์ช้อปกระจายทุกจุดที่แวะ

นักท่องเที่ยวจีนได้ชื่อว่าช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยมากกว่านักท่องเที่ยวชาติอื่นๆ เมื่อปีที่แล้วนักท่องเที่ยวจีนใช้จ่ายเงิน 120,000 ล้านบาท คิดเป็น 24 เปอร์เซ็นต์ของการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวทั้งหมด แต่คาดว่าในปีนี้กลุ่มนักท่องเที่ยวจะไม่จับจ่ายมากนักโดยเฉพาะในสถานการณ์ที่เงินบาทแข็งค่า

ขณะนี้การคาดการณ์ระบุใน 8 ปี อินเดียจะมีประชากรมากที่สุดในโลกแซงหน้าจีน พร้อมกับกลุ่มชนชั้นกลางที่นับวันยิ่งขยายตัว ดังนั้น อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยจึงหันไปมองฝั่งตะวันตกมากกว่า