xs
xsm
sm
md
lg

จีนโต้คำวิพากษ์วิจารณ์การผลักดันการพัฒนาแม่น้ำโขง

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


สืบเนื่องจากเมื่อเร็วๆนี้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากสื่อมวลชนบางรายเกี่ยวกับปัญหาน้ำในแม่น้ำโขง สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยได้ออกมาชี้แจงคำวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าวไม่มีหลักฐานและไม่ตรงกับข้อเท็จจริง โดยมองข้ามความพยายามของแต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้องซึ่งรวมถึงจีนและไทยในการผลักดันความร่วมมือในด้านทรัพยากรน้ำจากแม่น้ำโขงซึ่งมีเป้าหมายสร้างบรรยากาศความร่วมมืออันดีและประโยชน์ภายในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง

สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยได้ชี้แจงข้อเท็จจริงดังต่อไปนี้

1.เกี่ยวกับการอนุรักษ์ระบบนิเวศน์และสิ่งแวดล้อมแม่น้ำโขง โดยแม่น้ำโขงได้ผูกเชื่อมจีน ไทย กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม 6 ประเทศอย่างแน่นแฟ้น จีนได้ทุ่มกำลังในการสร้างความร่วมมือการพัฒนาแบบสีเขียวไร้มลภาวะกับประเทศลุ่มแม่น้ำโขงด้วยแนวคิด “อนุรักษ์ระบบนิเวศน์สิ่งแวดล้อมเสมือนการปกป้องดูแลลูกตา ปฏิบัติต่อระบบนิเวศน์และสิ่งแวดล้อมเสมือนการปฏิบัติต่อชีวิต”

ทั้ง 6 ประเทศได้สร้างศูนย์ความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อม ดำเนิน “แผนโครงการแม่น้ำลานช้าง-แม่น้ำโขงสีเขียวไร้มลภาวะ” และ “แผนปฏิบัติการความร่วมมือด่านทรัพยากรน้ำระยะ 5 ปี” ภายใต้กรอบความร่วมมือแม่น้ำลานช้าง-แม่น้ำโขง ทั้ง 6 ประเทศได้ดำเนินการสร้างและการลงทุน การจัดหาทุนในการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานที่ยั่งยืนอย่างแข็งขัน

2. เกี่ยวกับประเด็น “การระเบิดแก่งหิน” งานเตรียมการล่วงหน้าโครงการปรับปรุงร่องน้ำแม่น้ำโขงระยะที่สองภายใต้กรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอนุภูมิภาคแม่น้ำโขง (GMS) ได้เริ่มดำเนินการระหว่างปี พ.ศ. 2559 ถึง พ.ศ. 2560 ตามความเห็นพ้องต้องกันของรัฐบาลจีน ไทย พม่า ลาว 4 ประเทศ โดยกลุ่มผู้เชี่ยวชาญของทั้ง 4 ประเทศได้ดำเนินการประเมินด้านสิ่งแวดล้อมและผลกระทบทางสังคมของโครงการฯภายใต้เงื่อนไขบังคับก่อนเพื่อที่จะไม่ส่งผลกระทบต่อคุณสมบัติทางภูมิศาสตร์ธรรมชาติแม่น้ำลานช้าง-แม่น้ำโขง โดยงานเตรียมล่วงหน้าได้เชิญฝ่ายต่างๆ เข้าร่วม รวมทั้งเอ็นจีโอด้วย ได้รับฟังความคิดเห็นของฝ่ายต่างๆ อย่างเต็มที่ จนถึงปัจจุบันนี้ ทั้ง 4 ประเทศยังไม่มีแผนโครงการ จึงไม่ต้องพูดถึงสิ่งที่เรียกว่าปฏิบัติการ “ระเบิดแก่งหิน”

3. เกี่ยวกับกรณีสถานีกำเนิดไฟฟ้าแบบขั้นบันได การเกิดภัยแล้งและภัยน้ำท่วมบ่อยในลุ่มแม่น้ำโขงในปัจจุบันนี้ เป็นผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลก การที่ฝ่ายจีนสร้างเขื่อนแบบขั้นบันไดตามแม่น้ำลานช้าง เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของอากาศ สถานีกำเนิดไฟฟ้าแบบขั้นบันไดนั้นปล่อยน้ำในหน้าแล้ง กักเก็บน้ำในหน้าฝน ซึ่งจะเป็นการ “ปรับลดน้ำท่วม เพิ่มน้ำหน้าแล้ง” ต่อแม่น้ำโขง

หลังการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ปริมาณน้ำที่ไหลออกนอกประเทศของแม่น้ำลานช้างได้เพิ่ม 70% ในหน้าแล้ง และลดลง 30% ในหน้าฝนเมื่อเทียบกับสภาพแบบธรรมชาติเดิม ซึ่งได้ลดค่าเสียหายทางเศรษฐกิจของมวลประชาชนสองฟากฝั่งอันเกิดจากระดับน้ำแม่น้ำโขงเปลี่ยนแปลงผิดปกติ ปัจจุบันนี้น้ำแม่น้ำโขงช่วงจากเชียงแสนถึงเวียงจันทร์ จะมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น 30%-50% และระดับน้ำสูงขึ้น 0.6-1.9 เมตรในหน้าแล้ง และจะมีปริมาณน้ำลดน้อยลง 10%-20% ระดับน้ำลดลง 0.4-1.3 เมตรในหน้าฝน ผู้ประกอบการเดินเรือขนส่งสองฟากฝั่ง สามารถเดินเรือได้ในหน้าแล้งเป็นครั้งแรกในแม่น้ำโขงตอนกลางและตอนบนที่มีน้ำตื้นและมีแก่งหินมากมาย อีกทั้งการขนส่งคมนาคมที่สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้นและเป็นสีเขียวปราศจากมลภาวะแก่ประชาชนสองฟากฝั่ง

ปี พ.ศ. 2556 และ พ.ศ.2559 แม่น้ำลานช้าง-แม่น้ำโขงประสบภัยแล้งอย่างร้ายแรงในทั่วลุ่มแม่น้ำ จีนได้ดำเนินการเพิ่มน้ำฉุกเฉินให้แก่แม่น้ำโขงตอนล่างแม้จีนประสบอุปสรรคมากมาย เพื่อช่วยประชาชน 60 ล้านคนตามแม่น้ำโขงตอนล่างได้ผ่านพ้นภัยแล้งอย่างปลอดภัย

เว็บไซต์ของคณะกรรมการแม่น้ำโขงได้เผยแพร่บทความเมื่อปี พ.ศ. 2560 โดยชี้ว่า “ความแห้งแล้งของแม่น้ำโขงไม่ได้เกิดจากสถานีกำเนิดไฟฟ้าที่ตอนบนของแม่น้ำ ตรงกันข้าม การปรับลดน้ำท่วม เพิ่มน้ำหน้าแล้งของเขื่อนแม่น้ำตอนบน ได้มีบทบาทสำคัญในขณะที่เกิดความแห้งแล้งภายใต้เงื่อนไขอากาศรุนแรงสุดขั้ว”

4. เกี่ยวกับการแจ้งข้อมูลอุทกวิทยา (Hydrological information) ในฐานะประเทศแม่น้ำโขงตอนบน ฝ่ายจีนให้ความสำคัญอย่างสูงต่อความวิตกกังวลและความต้องการของประเทศแม่น้ำโขงตอนล่าง โดยได้รักษาการติดต่อสื่อสารกับประเทศแม่น้ำโขงตอนล่างอย่างใกล้ชิด และทุ่มกำลังในการดำเนินความร่วมมือด้านการแบ่งปันข้อมูลอุทกวิทยากับประเทศที่เกี่ยวข้อง ฝ่ายจีนเริ่มให้ข้อมูลอุทกวิทยาแม่น้ำลานช้างในหน้าฝนแก่ไทย กัมพูชา ลาว เวียดนาม 4 ประเทศผ่านคณะกรรมการแม่น้ำโขงตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 โดยแจ้งแผนการปรับน้ำเขื่อนล่วงหน้า ซึ่งทางคณะกรรมการแม่น้ำโขงและประเทศแม่น้ำโขงตอนล่างได้แสดงความขอบคุณหลายๆ ครั้ง

หน่วยปฏิบัติงานร่วมความร่วมมือทางทรัพยากรน้ำแม่น้ำลานช้าง-แม่น้ำโขง (Joint Working Group of Lancang-Mekong Water Resources Cooperation) ได้เปิดการประชุมวิสามัญเมื่อต้นเดือนมิถุนายนปีนี้ ฝ่ายจีนได้ประกาศให้ข้อมูลอุทกวิยาหน้าฝนของแม่น้ำลานช้างแก่ประเทศภาคีสมาชิกแม่น้ำโขงตอนล่างโดยตรง ช่องทางแลกเปลี่ยนข้อมูลอุทกวิทยาระหว่างรัฐบาลของฝ่ายจีนกับประเทศแม่น้ำโขงตอนล่าง เป็นช่องทางที่ราบรื่นและโปร่งใส

สิ่งที่ต้องชี้ให้เห็นเป็นพิเศษคือ ผลการประเมินของคณะกรรมการแม่น้ำโขงเมื่อปี พ.ศ. 2559 ปรากฏว่า ยอดรวมปริมาณน้ำในเขื่อนของประเทศต่างๆ ตามแม่น้ำสาขาของแม่น้ำโขง มีมากกว่ายอดปริมาณน้ำในเขื่อนขั้นบันไดของแม่น้ำลานช้างสายหลักของฝ่ายจีน ปริมาณน้ำแม่น้ำลานช้างที่ไหลออกนอกประเทศจีน เป็นเพียง 13.5% ของปริมาณน้ำแม่น้ำโขงตอนปากน้ำออกทะเล

“ดื่มน้ำแม่น้ำสายเดียวกัน ร่วมชะตากรรมแบ่งปัน” การส่งเสริมการพัฒนาภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงอย่างปราศจากมลภาวะ ประสานงานกันและยั่งยืนนั้น ต้องการความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ความเข้าใจกันและกัน การสนับสนุนซึ่งกันและกัน การกระชับความร่วมมือกัน การคำนึงถึงความห่วงใยของกันและกัน การบูรณากันในการจัดการความสัมพันธ์ระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจกับการอนุรักษ์ระบบนิเวศน์ให้ดี ฝ่ายจีนยินดีที่จะกระชับความร่วมมือต่อไปกับประเทศต่างๆ รวมทั้งประเทศไทย ผ่านกลไกความร่วมมือแม่น้ำลานช้าง-แม่น้ำโขง (LMC) คณะกรรมการแม่น้ำโขง (MRC) ความร่วมมือทางเศรษฐกิจแม่น้ำโขง เพื่อที่จะทำให้แม่น้ำโขงกลายเป็นแม่น้ำแห่งมิตรภาพ แม่น้ำแห่งความร่วมมือ และแม่น้ำแห่งความเจริญรุ่งเรือง


กำลังโหลดความคิดเห็น