ซานฟรานซิสโก/วอชิงตัน (รอยเตอร์) - ซัปพลายเออร์ชิปอเมริกันของ “หัวเว่ย” รวมถึงวอลคอมม์และอินเทลกำลังกดรัฐบาลสหรัฐฯ อย่างเงียบๆ เพื่อผ่อนปรนการห้ามขายสินค้าให้กับยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของจีน
แหล่งข่าวใกล้ชิดกล่าวว่า ผู้บริหารจากผู้ผลิตชิปชั้นนำของสหรัฐอเมริกา Intel และ Xilinx Inc เข้าร่วมการประชุมเมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมากับกระทรวงพาณิชย์ เพื่อหารือเกี่ยวกับการตอบสนองต่อสถานะในบัญชีดำของ หัวเว่ย
มาตรการแบนของซัปพลายเออร์สหรัฐฯ กับการทำธุรกิจกับหัวเว่ย บริษัทอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดในโลก เนื่องจากสิ่งที่รัฐบาลกล่าวว่าเป็นปัญหาด้านความมั่นคงของประเทศ
วอลคอมม์ ผู้ผลิตชิปสัญชาติอเมริกัน ยืนยันไปยังกระทรวงพาณิชย์ว่า หัวเว่ย ผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ เช่น สมาร์ทโฟน และเซิร์ฟเวอร์คอมพิวเตอร์ใช้ชิ้นส่วนที่มีอยู่ทั่วไป ซึ่งไม่น่าจะอยู่ในกลุ่มอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับความปลอดภัย เช่นเดียวกับ อุปกรณ์เครือข่าย 5G ของบริษัทเทคโนโลยีในจีน
“เหตุผลนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการช่วยเหลือหัวเว่ย แต่เป็นไปเพื่อป้องกันการใช้มาตรการที่ส่งผลเสียหายอันตรายต่อธุรกิจบริษัทอเมริกัน” หนึ่งในแหล่งข่าวกล่าว
ล่าสุด เหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งหัวเว่ย กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดสถานการณ์ความไม่แน่นอนจากสงครามการค้าเป็นต้นมา ได้ส่งผลกระทบยอดขายสมาร์ทโฟนของหัวเว่ย และจัดส่งสมาร์ทโฟนระหว่างประเทศของบริษัทลดลง 40%
แหล่งข่าววงในอีกคนกล่าวว่า ในจำนวนนั้นกระทบถึงการซื้อชิ้นส่วน อาทิ ชิปสำหรับอุปกรณ์ทั่วไปในปี 2561 จากคู่ค้าบริษัทอเมริกัน Qualcomm, Intel และ Micron Technology Inc.
สมาคมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ (SIA) ซึ่งเป็นกลุ่มการค้าฯ ยอมรับว่า ได้จัดให้มีการปรึกษาหารือกับรัฐบาลสหรัฐอเมริกาในนามขององค์กร เพื่อหาแนวทางปฏิบัติตาม และสรุปผลกระทบของการห้ามทำการค้ากับบริษัทหัวเว่ย กับเจ้าหน้าที่รัฐบาล
“เราได้นำเสนอมุมมองนี้ต่อรัฐบาลสำหรับเทคโนโลยีใดที่ไม่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติ ก็ไม่ควรอยู่ในขอบเขตของคำสั่งห้าม” จิมมี่ กู้ดริช รองประธานฝ่ายนโยบายระดับโลกของ SIA กล่าว
ทั้งนี้ การแบนหัวเว่ยเกิดขึ้นหลังจากการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ-จีน ล้มเหลวเพื่อยุติกรณีพิพาททางการค้า เป็นเวลานานหลายเดือน โดยสหรัฐฯ ตั้งข้อกล่าวหาหัวเว่ยในเรื่องการจารกรรมองค์กรของจีน การขโมยทรัพย์สินทางปัญญา และการบังคับให้ถ่ายทอดเทคโนโลยี
ด้าน Intel, Xilinx และ Qualcomm ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นในการล้อบบี้วงในรัฐบาล เช่นเดียวกับหัวเว่ย
แอนดริว วิลเลียมสัน รองประธานฝ่ายกิจการสาธารณะของหัวเว่ย กล่าวว่า บริษัทฯ ไม่ได้ขอให้ใครมาล็อบบี้แทนโดยเฉพาะ
“พวกเขากำลังทำตามความต้องการของพวกเขาเอง เพราะสำหรับพวกเขา หัวเว่ยเป็นหนึ่งในลูกค้ารายใหญ่” เขากล่าวและเสริมว่า ผู้ผลิตชิปรู้ว่า การตัดหัวเว่ยออกอาจส่งผลให้เกิดความหายนะสำหรับพวกเขา
นักสังเกตการณ์ชาวจีนกล่าวว่า ซัปพลายเออร์ในสหรัฐอเมริกากำลังพยายามอย่างเงียบๆ โดยไม่ต้องการถูกมองว่าเป็นการช่วยเหลือสายลับโจรและลงโทษผู้กระทำความผิด ซึ่งด้านหนึ่งอาจทำให้สูญเสียลูกค้าที่ดี และพัฒนาการของนวัตกรรมอื่น