รายงานข่าวจากเซาท์ ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ เผยในวันนี้(6 มิ.ย.) กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศแห่งชาติจีนได้รับรองใบอนุญาต 5G สำหรับใช้ในเชิงพาณิชย์ ให้แก่กลุ่มบริษัทโทรคมนาคมและเครือข่ายเคเบิลรายใหญ่ของประเทศ ซึ่งถือเป็นสัญญาณการบุกเบิกการลงทุนครั้งใหญ่ในตลาดโทรศัพท์มือถือที่ใหญ่ที่สุดในโลกท่ามกลางศึกพิพาทเทคโนโลยีระหว่างจีนและสหรับฯที่กำลังร้อนระอุ
กลุ่มบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตประกอบการเครือข่าย 5G เชิงพาณิชย์ ได้แก่ บริษัทไชน่า โมบาย (China Mobile), ไชน่า ยูนิคอม (China Unicom) และไชน่า เทเลคอม (China Telecom) รวมทั้ง ไชน่า บรอดเคสติ้ง เนทเวิร์ค (China Broadcasting Network)
เมื่อปลายปี2018 จีนได้ไฟเขียวใบอนุญาตให้แก่บริษัทของรัฐสามรายทำการทดลองเครือข่าย 5G สำหรับการผ่านใบอนุญาตฯครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ไฟเขียวให้ขยายเครือข่าย5G เพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์อย่างเต็มรูปแบบ
การอนุมัติใบอนุญาตนี้เกิดขึ้นในบรรยากาศที่มีการคาดเก็งว่าบริษัทเครือข่ายโทรคมนาคมรายใหญ่ของจีนกำลังตกที่นั่งลำบากในการขยายเครือข่าย 5G ระดับสเกลใหญ่ สืบเนื่องจากกรณีที่สหรัฐฯขึ้นรายชื่อ หัวเว่ย เทคโนโลยีส์ (Huawei Technologies) ในบัญชีดำการค้าซึ่งเป็นการสกัดหัวเว่ยได้รับชิ้นส่วนไฮเทคที่สำคัญจากซับพลายสหรัฐฯทั้งจากกลุ่มบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ ควอลคอมม์ (Qualcomm) และ อินเทล (Intel) รวมทั้งผู้ให้บริการด้านซอฟ์ทแวร์ กูเกิล (Google) และไมโครซอฟท์ (Microsoft)
ทั้งนี้หัวเว่ยมีส่วนแบ่งการตลาดในตลาดอุปกรณ์โทรคมนาคมในจีนอยู่ถึง 50 เปอร์เซ็นต์
การอนุมัติใบอนุญาตนี้ยังแสดงท่าทีจีนว่าจะไม่เลื่อนการขยายเครือข่าย 5G ล่าช้าออกไปเพราะสหรัฐฯแบนหัวเว่ย ทำให้จีนมีอำนาจการต่อรองมากขึ้นและเรียกเสียงสนับสนุนทางการเมืองภายในที่แข็งแกร่งขึ้น เอดิสัน ลี นักวิเคราะห์จาก Jefferies กล่าว
การเคลื่อนไหวนี้ยังทำให้จีนรุดหน้าในการแข่งขันบนเวทีโลกด้านการขยายโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมซึ่งจะช่วยพัฒนาอินเทอร์เน็ตอุตสาหกรรม ระบบอัตโนมัติ และเมืองอัจฉริยะ
ขณะนี้เกาหลีใต้ สหรัฐฯ ออสเตรเลีย และสหราชอาณาจักร(UK) ได้เปิดบริการเครือข่าย 5G เชิงพาณิชย์ขั้นพื้นฐานไปแล้วเมื่อไตรมาสที่สอง สำหรับขนาดตลาดของจีนจะแทรกแซงขนาดตลาดของกลุ่มประเทศดังกล่าวทั้งหมดรวมกัน