เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์--เมื่อต้นเดือนนี้ สหรัฐฯได้ขึ้นชื่อ หัวเว่ย เทคโนโลยีส์ (Huawei Technologies) ในบัญชีดำการค้า เพื่อจำกัดการซื้อขายกับกลุ่มซับพลายไฮเทคสัญชาติอเมริกัน ทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟท์แวร์ และบริการที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีขั้นสูง
“บัญชีดำ” หรือ แบล็คลิสต์ (blacklist) ที่ว่านี้มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการคือ Entity List รายชื่อในแบล็คลิสต์นี้ได้แก่ กลุ่มองค์กรหรือบุคคลที่ทางการสหรัฐฯเชื่อว่ามีความเชื่อมโยงหรืออาจสร้างความเสี่ยงต่อความมั่นคงแห่งชาติอเมริกันหรือผลประโยชน์นโยบายต่างประเทศ
ณ ขณะนี้กลุ่มบริษัทจีนในแผ่นดินใหญ่ที่ถูกขึ้นชื่อในบัญชีดำการค้าของสหรัฐฯนี้ มี 143 ราย ผู้ที่ประเมินและเสนอรายชื่อเหล่านี้คือ สำนักงานอุตสาหกรรมและความมั่นคง (Bureau of Industry and Security ชื่อย่อ BIS) ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัด กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ
จำนวนบริษัทจีนที่ถูกขึ้นชื่อในบัญชีดำนี้ ยังน้อยกว่าจำนวนบริษัทรัสเซียที่ถูกขึ้นบัญชีดำมาก สหรัฐฯขึ้นบัญชีดำบริษัทแดนมหมีขาวไว้ถึง 317 รายชื่อ
สำหรับ หัวเว่ย และบริษัทในเครือ 68 รายชื่อ ถูกขึ้นบัญชีดำเมื่อวันที่ 16 พ.ค.
กลุ่มองค์กรและบริษัทใน Entity List จะต้องยื่นคำร้องขอใบอนุญาตจาก BIS ก่อนดำเนินการส่งออก หรือทำการส่งออกอีกครั้ง (re-export) หรือการถ่ายโอนใดๆ อาทิ ซอฟท์แวร์ และเทคโนโลยีอื่นๆจากบริษัทอเมริกัน
กลุ่มบริษัทจีนกว่าร้อยรายโดนแบล็คลิสต์นั้น เป็นบริษัทในภาคต่างๆ อาทิ ภาคอิเลคทรอนิกส์ การบิน เซมิคอนดักเตอร์ วิศวกรรม และเหมืองแร่ที่ใช้อุปกรณ์ชิ้นส่วนไฮเทค บริษัทเหล่านี้ ได้แก่ สถาบันอุปกรณ์ควบคุมระบบอัตโนมัติแห่งปักกิ่ง (Beijing Automation Control Equipment Institute), สถาบันวิจัยเทคโนโลยีการผลิตทางอากาศแห่งปักกิ่ง (Beijing Aeronautical Manufacturing Technology Research Institute), สถาบันเครื่องจักรไฟฟ้าแห่งปักกิ่ง (Beijing Power Machinery Institute), ศูนย์การพัฒนาและวิจัยอากาศพลศาสตร์ (China Aerodynamics Research and Development Centre) และบริษัทเทคโนโลยีอิเลคทรอนิกส์ (China Electronic Technology Group Corp)
สำหรับกลุ่มบริษัทผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์ชิ้นส่วนไฮเทครายใหญ่ ที่อยู่ในบัญชีดำการค้าสหรัฐฯ อาทิ Tenco Technology Co, Avin Electronics Technology และ Multi-Mart Electronics Technology
นอกจากนี้กลุ่มสถาบันการศึกษา-วิชาการในจีนที่โดนแบล็คลิสต์ อาทิ มหาวิทยาลัยด้านการบินและอวกาศแห่งปักกิ่ง (Beijing University of Aeronautics and Astronautics), มหาวิทยาลัยซุนยัตเซน (Sun Yat-sen University), สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศแห่งชาติ (National University of Defence Technology), มหาวิทยาลัยโพลีเทคนิก นอร์ทเวสต์เทิร์น (Northwestern Polytechnical University), มหาวิทยาลัยเสฉวน (Sichuan University) และมหาวิยาลัยเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์อิเลคทรอนิกส์ (University of Electronic Science and Technology)
ไม่เพียงกลุ่มบริษัทจีนในเมืองชั้นหนึ่งอย่างเซินเจิ้นและปักกิ่ง ที่โดนแบล็คลิสต์ บริษัทตามหัวเมืองต่างๆ อย่างเช่น บริษัทเป่าโถว กวงหวา เคมีคัล อินดัสเทียล โค (Baotou Guanghua Chemical Industrial Co) ซึ่งตั้งอยู่ในเขตปกครองมองโกเลียใน บริษัท Yantai Jereh Oilfield Services Group แห่งเมืองเยียนไถ มณฑลซานตง เป็นต้น ก็ถูกขึ้นรายชื่อในบัญชีดำด้วย
รัฐบาลสหรัฐฯยังกำลังพิจารณาเพิ่มรายชื่อบริษัทจีนในแบล็คลิสต์ ได้แก่กลุ่มบริษัทระบบเฝ้าระวังรายใหญ่ ได้แก่ Dahua Technology, Hikvision Digital Technology, Megvii, Meiya Pico และ iFlytek