xs
xsm
sm
md
lg

ส่องผู้นำแดนมังกร แฟนซีรี่ส์ Game of Thrones ย้ำ “อ่อนแอก็แพ้ไป” ในละคร ไม่ควรมีในยุคนี้

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

Game of Thrones (มหาศึกชิงบัลลังก์) ทีวีซีรีส์ยอดฮิตของ HBO ซึ่งประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง เป็นแฟนตัวยง (ภาพเอพี)
ไม่มีกระแสสังคมใดที่พลาดความรับรู้ของผู้นำจีน ล่าสุดทั้งประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กับนายกรัฐมนตรีจีน หลี่ เค่อเฉียง ต่างได้แสดงความเห็นชื่มชมซีรีส์ มหาศึกชิงบัลลังก์ (Game of Thrones) แต่ก็ย้ำว่าคติพจน์ “อ่อนแอก็แพ้ไป” แบบในละคร ไม่ควรมีในโลกยุคนี้

“เมื่อหิมะโปรยปราย สายลมพัดผ่าน หมาป่าตายโดดเดี่ยว แต่เหล่าฝูงยังคงดำรง”

แม้ประธานาธิบดีจีนสี จิ้นผิง จะไม่ได้กล่าวประโยคฮิตนี้ของซานซ่า สตาร์ค เลดี้แห่งวินเทอร์เฟล ผู้สักรูปหมาป่าไดร์วูล์ฟแห่งตระกูลสตาร์คไว้ที่บริเวณแขนข้างซ้าย พร้อมกับคำว่า “The pack survives (ฝูงอยู่รอด)” ซึ่งมีการตีความกันไปมากมายในทางการเมือง แต่แหล่งข่าวกล่าวว่า สีได้พูดกับเจ้าหน้าที่ต่างชาติในการประชุมที่ปักกิ่ง ทำให้ฮือฮากันเมื่อเขาพูดอ้างอิงว่า “เราทุกคนต้องทำให้ต่างมั่นใจว่า โลกที่เราอาศัยอยู่นั้นไม่ได้กำลังไปสู่สงคราม แบบเจ็ดอาณาจักรแห่งเวสเตรอส”

ยังไม่แน่ว่า สี จิ้นผิง จะหาเวลาจากตารางงานมานั่งดูซีรี่ส์นี้ในทำเนียบจงหนานไห่หรือไม่ แต่เขาไม่ใช่ผู้นำจีนคนเดียวที่ชอบซีรีส์ตอนจบนี้ การรับรู้ความชอบส่วนตัวของผู้นำเป็นสิ่งที่พบได้น้อยกับผู้นำจีน ซึ่งสีจิ้นผิง ดูจะเป็นคนแรกๆ ที่เปิดเผยความชอบส่วนตัวของคนระดับผู้นำที่ก็ไม่ต่างประชาชนทั่วไป สี จิ้นผิงยังเปิดเผยความสนใจในภาพยนตร์ยอดนิยมอื่นๆ ของโลกตะวันตก อาทิ The Godfather และ Saving Private Ryan

สำหรับ Game of Thrones แม้ผู้นำจีนจะแสดงความชื่นชม แต่เวอร์ชั่นที่เผยแพร่ในประเทศจีนผ่านทางเทนเซนต์นั้น ฉากความรุนแรงและฉากเซ็กซ์ถูกตัดออกไปจำนวนมาก

เจ้าหน้าที่จีนในกรุงปักกิ่งหัวเราะเมื่อถูกถามว่า สี จิ้นผิงและผู้นำคนอื่น ๆ จะได้ชมฉบับเต็มไม่เซนเซอร์หรือไม่ เขาบอกว่าเวอร์ชั่นที่พวกเขาดูนั้นกระชับดี เพราะตารางงานของพวกเขาแน่นมาก จนไม่มีเวลาเพลิดเพลินกับทุกฉาก

หลี่เค่อเฉียง ผู้นำอันดับสองของจีน ยังอ้างถึงภาพยนตร์ชุดทางโทรทัศน์ "มหาศึกชิงบัลลังก์" (Game of Thrones) เช่นกัน เมื่อตอนพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับยุโรปกลางและยุโรปตะวันออก ในการประชุมสุดยอดผู้นำ ที่ดูบรอฟนิก ประเทศโครเอเชีย ระหว่างวันที่ 11 - 13 เมษายน ว่า "ชีวิตจริง ไม่เหมือนมหาศึกชิงบัลลังก์"

ภาพยนตร์ชุดนี้เล่าเรื่องราวการชิงบัลลังก์ ระหว่าง 7 อาณาจักร หรือ เจ็ดก๊ก ซึ่งมีทั้งความร่วมมือของพันธมิตรและการต่อสู้กับอริ การพลิกผันการวางอุบายทางการเมือง การปกป้องอาณาจักรจากภัยคุกคาม ที่มีทั้งภัยจากมนุษย์ ภัยจากสัตว์ในตำนาน และภัยธรรมชาติ โดยเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้น ณ ดินแดนสมมติในยุคกลาง

รายงานข่าวกล่าวว่า หลี่ได้หยิบความนิยมของละครดังมาเปรียบ ความสัมพันธ์ของจีนกับภาคกลางและยุโรปตะวันออก ต้องไม่ตกหล่มแบบ Game of Thrones ก่อนการประชุมสุดยอดครั้งสำคัญ

ในการประชุมสุดยอด “ 16 + 1” ที่ดูบรอฟนิก หลี่ เค่อเฉียง กล่าวกับนายอันเดร เพล็นโควิช นายกรัฐมนตรีของโครเอเชีย ว่า “จากสิ่งที่ผมเคยได้ยิน เมืองประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของดูบรอฟนิกเป็นที่ตั้งของฉากใน Game of Thrones ซึ่งคนหนุ่มสาวทั่วโลกชื่นชอบติดตามกันมาก ละครแฟนตาซีนี้ สะท้อนคติพจน์ “อ่อนแอก็แพ้ไป” แต่โลกยุคนี้เป็นยุคแห่ง “ความร่วมมือแบบสมประโยชน์ทุกฝ่าย (win-win)” ความร่วมมือ 16 + 1 ไม่ใช่เกมแห่งอะไร "แต่เป็นภาพสะท้อนของความร่วมมือแบบเสริมแรงทุกฝ่าย หรือ win-win"

คำกล่าวของหลี่ เป็นส่วนหนึ่งของการแสดงความจริงใจในการประชุมสุดยอดเพื่อเพิ่มความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนกับประเทศที่อดีตเคยปกครองระบอบคอมมิวนิสต์ 16 ประเทศ ได้แก่ เอสโตเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย โปแลนด์ สาธารณรัฐเช็กสโลวาเกีย ฮังการี โรมาเนีย บัลแกเรีย โครเอเชียและสโลวีเนีย และอีก 5 ประเทศจากบอลข่าน คือ เซอร์เบีย บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา มอนเตเนโกร อัลบาเนีย และ นอร์ทมาซิโดเนีย ท่ามกลางความกังวลในภูมิภาคเกี่ยวกับการเสียเปรียบขาดดุลทางการค้ากับประเทศจีน อาทิ พันธมิตรเชิงกลยุทธ์ เช่น โปแลนด์ ได้การขาดดุลทางการค้ากับจีนถึง 2.84 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในปีที่แล้ว เพิ่มขึ้นสามเท่าตั้งแต่ปี 2555 ที่ผ่านมา ขณะที่หลายชาติตะวันตก กำลังห้ามหัวเว่ยโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของจีน ด้วยระแวงรุกคืบกิจการและอธิปไตยความมั่นคงภายใน

ด้านชาวสังคมออนไลน์จีนได้นำละคร และตัวละครจาก Game of Thrones มาอ้างอิงศึกษาเปรียบเทียบกับตำราพิชัยสงครามจีนกันอย่างคึกคัก บ้างก็วิเคราะห์บทเรียนการเมืองทั้งระดับท้องถิ่นและระหว่างประเทศ ขณะที่ บทความใน Business Insider ก็ได้เสนอบทเรียนการเมืองจากละครชุดเรื่องนี้ ซึ่งหนึ่งในนั้นระบุว่า นโยบายอุดมการณ์ อาจเริ่มด้วยวาทะกรรมการเมืองต่าง ๆ นานา อาทิ จงร่วมกันต่อสู้เพื่ออุดมการณ์ จงร่วมกันต่อสู้เพื่อความมั่งคั่งอยู่ดีกินดี แต่อุดมการณ์เหล่านี้รวมถึงความอยู่ดีกินดี จริงแท้ไม่เคยมีใครรู้ว่าคืออะไรกันแน่ รวมทั้งแค่ไหนคืออยู่ดีกินดีร่วมกันของแต่ละคน-แต่ละฝ่าย จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าสิ่งเหล่านั้นเป็นแค่วาทะกรรม-คำลวงเพื่อได้กุญแจเปิดประตูชิงเมือง

นอกจากนั้น บทความใน Business Insider ยังมองว่าภาวะหนี้สินมหาศาลของอาณาจักรต่าง ๆ คือความเสี่ยงของเสถียรภาพและอธิปไตยแห่งอาณาจักร ดังสถานการณ์ของโรเบิร์ต บาราเธียน หนึ่งในผู้นำอาณาจักรใหญ่ ในทางกลับกันเงินทุนและความมั่งคั่ง คือปัจจัยสำคัญแห่งความสำเร็จทางการเมือง โดยยกตัวอย่างจริงของการเลือกตั้งของประเทศสหรัฐอเมริกา ว่า 9 ใน 10 ของผู้สมัครที่ชนะการเลือกตั้ง คือผู้มีเงินมากที่สุด ซึ่งนั่นสะท้อนว่า ทำไมบุคคลผู้มีความทะเยอทะยานทางการเมือง มักจับมือเป็นพันธมิตรกับผู้มีความร่ำรวย 
กำลังโหลดความคิดเห็น