ไม่มีกระแสสังคมใดที่พลาดความรับรู้ของผู้นำจีน ล่าสุดทั้งประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กับนายกรัฐมนตรีจีน หลี่ เค่อเฉียง ต่างได้แสดงความเห็นชื่มชมซีรีส์ มหาศึกชิงบัลลังก์ (Game of Thrones) แต่ก็ย้ำว่าคติพจน์ “อ่อนแอก็แพ้ไป” แบบในละคร ไม่ควรมีในโลกยุคนี้
“เมื่อหิมะโปรยปราย สายลมพัดผ่าน หมาป่าตายโดดเดี่ยว แต่เหล่าฝูงยังคงดำรง”
แม้ประธานาธิบดีจีนสี จิ้นผิง จะไม่ได้กล่าวประโยคฮิตนี้ของซานซ่า สตาร์ค เลดี้แห่งวินเทอร์เฟล ผู้สักรูปหมาป่าไดร์วูล์ฟแห่งตระกูลสตาร์คไว้ที่บริเวณแขนข้างซ้าย พร้อมกับคำว่า “The pack survives (ฝูงอยู่รอด)” ซึ่งมีการตีความกันไปมากมายในทางการเมือง แต่แหล่งข่าวกล่าวว่า สีได้พูดกับเจ้าหน้าที่ต่างชาติในการประชุมที่ปักกิ่ง ทำให้ฮือฮากันเมื่อเขาพูดอ้างอิงว่า “เราทุกคนต้องทำให้ต่างมั่นใจว่า โลกที่เราอาศัยอยู่นั้นไม่ได้กำลังไปสู่สงคราม แบบเจ็ดอาณาจักรแห่งเวสเตรอส”
ยังไม่แน่ว่า สี จิ้นผิง จะหาเวลาจากตารางงานมานั่งดูซีรี่ส์นี้ในทำเนียบจงหนานไห่หรือไม่ แต่เขาไม่ใช่ผู้นำจีนคนเดียวที่ชอบซีรีส์ตอนจบนี้ การรับรู้ความชอบส่วนตัวของผู้นำเป็นสิ่งที่พบได้น้อยกับผู้นำจีน ซึ่งสีจิ้นผิง ดูจะเป็นคนแรกๆ ที่เปิดเผยความชอบส่วนตัวของคนระดับผู้นำที่ก็ไม่ต่างประชาชนทั่วไป สี จิ้นผิงยังเปิดเผยความสนใจในภาพยนตร์ยอดนิยมอื่นๆ ของโลกตะวันตก อาทิ The Godfather และ Saving Private Ryan
สำหรับ Game of Thrones แม้ผู้นำจีนจะแสดงความชื่นชม แต่เวอร์ชั่นที่เผยแพร่ในประเทศจีนผ่านทางเทนเซนต์นั้น ฉากความรุนแรงและฉากเซ็กซ์ถูกตัดออกไปจำนวนมาก
เจ้าหน้าที่จีนในกรุงปักกิ่งหัวเราะเมื่อถูกถามว่า สี จิ้นผิงและผู้นำคนอื่น ๆ จะได้ชมฉบับเต็มไม่เซนเซอร์หรือไม่ เขาบอกว่าเวอร์ชั่นที่พวกเขาดูนั้นกระชับดี เพราะตารางงานของพวกเขาแน่นมาก จนไม่มีเวลาเพลิดเพลินกับทุกฉาก
หลี่เค่อเฉียง ผู้นำอันดับสองของจีน ยังอ้างถึงภาพยนตร์ชุดทางโทรทัศน์ "มหาศึกชิงบัลลังก์" (Game of Thrones) เช่นกัน เมื่อตอนพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับยุโรปกลางและยุโรปตะวันออก ในการประชุมสุดยอดผู้นำ ที่ดูบรอฟนิก ประเทศโครเอเชีย ระหว่างวันที่ 11 - 13 เมษายน ว่า "ชีวิตจริง ไม่เหมือนมหาศึกชิงบัลลังก์"
ภาพยนตร์ชุดนี้เล่าเรื่องราวการชิงบัลลังก์ ระหว่าง 7 อาณาจักร หรือ เจ็ดก๊ก ซึ่งมีทั้งความร่วมมือของพันธมิตรและการต่อสู้กับอริ การพลิกผันการวางอุบายทางการเมือง การปกป้องอาณาจักรจากภัยคุกคาม ที่มีทั้งภัยจากมนุษย์ ภัยจากสัตว์ในตำนาน และภัยธรรมชาติ โดยเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้น ณ ดินแดนสมมติในยุคกลาง
รายงานข่าวกล่าวว่า หลี่ได้หยิบความนิยมของละครดังมาเปรียบ ความสัมพันธ์ของจีนกับภาคกลางและยุโรปตะวันออก ต้องไม่ตกหล่มแบบ Game of Thrones ก่อนการประชุมสุดยอดครั้งสำคัญ
ในการประชุมสุดยอด “ 16 + 1” ที่ดูบรอฟนิก หลี่ เค่อเฉียง กล่าวกับนายอันเดร เพล็นโควิช นายกรัฐมนตรีของโครเอเชีย ว่า “จากสิ่งที่ผมเคยได้ยิน เมืองประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของดูบรอฟนิกเป็นที่ตั้งของฉากใน Game of Thrones ซึ่งคนหนุ่มสาวทั่วโลกชื่นชอบติดตามกันมาก ละครแฟนตาซีนี้ สะท้อนคติพจน์ “อ่อนแอก็แพ้ไป” แต่โลกยุคนี้เป็นยุคแห่ง “ความร่วมมือแบบสมประโยชน์ทุกฝ่าย (win-win)” ความร่วมมือ 16 + 1 ไม่ใช่เกมแห่งอะไร "แต่เป็นภาพสะท้อนของความร่วมมือแบบเสริมแรงทุกฝ่าย หรือ win-win"
คำกล่าวของหลี่ เป็นส่วนหนึ่งของการแสดงความจริงใจในการประชุมสุดยอดเพื่อเพิ่มความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนกับประเทศที่อดีตเคยปกครองระบอบคอมมิวนิสต์ 16 ประเทศ ได้แก่ เอสโตเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย โปแลนด์ สาธารณรัฐเช็กสโลวาเกีย ฮังการี โรมาเนีย บัลแกเรีย โครเอเชียและสโลวีเนีย และอีก 5 ประเทศจากบอลข่าน คือ เซอร์เบีย บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา มอนเตเนโกร อัลบาเนีย และ นอร์ทมาซิโดเนีย ท่ามกลางความกังวลในภูมิภาคเกี่ยวกับการเสียเปรียบขาดดุลทางการค้ากับประเทศจีน อาทิ พันธมิตรเชิงกลยุทธ์ เช่น โปแลนด์ ได้การขาดดุลทางการค้ากับจีนถึง 2.84 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในปีที่แล้ว เพิ่มขึ้นสามเท่าตั้งแต่ปี 2555 ที่ผ่านมา ขณะที่หลายชาติตะวันตก กำลังห้ามหัวเว่ยโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของจีน ด้วยระแวงรุกคืบกิจการและอธิปไตยความมั่นคงภายใน
ด้านชาวสังคมออนไลน์จีนได้นำละคร และตัวละครจาก Game of Thrones มาอ้างอิงศึกษาเปรียบเทียบกับตำราพิชัยสงครามจีนกันอย่างคึกคัก บ้างก็วิเคราะห์บทเรียนการเมืองทั้งระดับท้องถิ่นและระหว่างประเทศ ขณะที่ บทความใน Business Insider ก็ได้เสนอบทเรียนการเมืองจากละครชุดเรื่องนี้ ซึ่งหนึ่งในนั้นระบุว่า นโยบายอุดมการณ์ อาจเริ่มด้วยวาทะกรรมการเมืองต่าง ๆ นานา อาทิ จงร่วมกันต่อสู้เพื่ออุดมการณ์ จงร่วมกันต่อสู้เพื่อความมั่งคั่งอยู่ดีกินดี แต่อุดมการณ์เหล่านี้รวมถึงความอยู่ดีกินดี จริงแท้ไม่เคยมีใครรู้ว่าคืออะไรกันแน่ รวมทั้งแค่ไหนคืออยู่ดีกินดีร่วมกันของแต่ละคน-แต่ละฝ่าย จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าสิ่งเหล่านั้นเป็นแค่วาทะกรรม-คำลวงเพื่อได้กุญแจเปิดประตูชิงเมือง
นอกจากนั้น บทความใน Business Insider ยังมองว่าภาวะหนี้สินมหาศาลของอาณาจักรต่าง ๆ คือความเสี่ยงของเสถียรภาพและอธิปไตยแห่งอาณาจักร ดังสถานการณ์ของโรเบิร์ต บาราเธียน หนึ่งในผู้นำอาณาจักรใหญ่ ในทางกลับกันเงินทุนและความมั่งคั่ง คือปัจจัยสำคัญแห่งความสำเร็จทางการเมือง โดยยกตัวอย่างจริงของการเลือกตั้งของประเทศสหรัฐอเมริกา ว่า 9 ใน 10 ของผู้สมัครที่ชนะการเลือกตั้ง คือผู้มีเงินมากที่สุด ซึ่งนั่นสะท้อนว่า ทำไมบุคคลผู้มีความทะเยอทะยานทางการเมือง มักจับมือเป็นพันธมิตรกับผู้มีความร่ำรวย