เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์/ซินหวา-“นี่คือเสียงอัจฉริยะของผู้ช่วยอาจารย์ที่ปรึกษา “เอไอน้อย” คุณขาดเรียนในวันนี้...” เมื่อไม่นานมานี้ บรรดานักศึกษามหาวิทยาลัยอิเลคทรอนิกส์หังโจว (Hangzhou Dianzi University) ที่โดดเรียนได้รับข้อความเสียงดังกล่าว ซึ่งเป็นเสียงจากระบบเช็คการขาดเรียนเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ พร้อมกันนั้นข้อมูลของนักศึกษาก็ถูกบันทึกไว้ในระบบ
ชาวเน็ตจีนต่างทึ่งกับความร้ายกาจของเทคโนโลยี การแตะการ์ดแจ้งการเข้าชั้นเรียนได้พัฒนาไปอีกขั้น ทำให้การหนีเรียนยิ่งยากมากขึ้น
มหาวิทยาลัยในหังโจว เมืองเอกของมณฑลเจ้อเจียง ได้ติดตั้งระบบเอไอเช็คการเข้าเรียนของนักศึกษา โดยเป้าหมายหลักของการนำระบบนี้มาใช้คือ ค้นหาเหตุผลเบื้องลึกของการขาดเรียน
ระบบเช็คการเข้าเรียนของนักศึกษาด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยสุดนี้ กำหนดให้ผู้เข้าเรียนลงชื่อเข้าใช้ด้วยการใส่รหัสยืนยันบนโทรศัพท์มือถือของพวกเขา และระบบอัตโนมัติจะส่งข้อความเจ้งเตือนแก่ผู้ที่มาเข้าเรียนสาย พร้อมกับเตือนผู้ที่หนีเรียนจะต้องเผชิญกับความเสี่ยงอะไรบ้าง
ผู้ที่ขาดเรียนจะได้รับข้อความ “นี่คือเสียงอัจฉริยะของผู้ช่วยอาจารย์ที่ปรึกษา “เอไอน้อย” คุณขาดเรียนในวันนี้”
สำหรับคำตอบจากนักศึกษาจะถูกบันทึกไว้สำหรับใช้ในการเรียกตัวนักศึกษามาพบ เจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยระบุในโฮมเพจของมหาวิทยาลัย ระบุ
“กว่าครึ่งของชั้นเรียนในมหาวิทยาลัยอิเลคทรอนิกส์หังโจว ได้นำระบบอัจฉริยะเช็คการเข้าเรียนของนักศึกษามาใช้ ก่อนหน้าอาจารย์ต้องใช้เวลา 7-8 นาที ในการเช็คนักศึกษาที่เข้าเรียน ขณะนี้ใช้เวลาเพียง 15 วินาทีเท่านั้น ” หู ไห่ปิน รองผู้อำนวยการฝ่ายการนักศึกษาของมหาวิทยาลัยอิเลคทรอนิกส์หังโจว กล่าว
การใช้ระบบอัจฉริยะเช็คการเข้าเรียนของนักศึกษาส่งผลดีในเบื้องต้น อัตราผู้เข้าเรียนสูงขึ้น 7 เปอร์เซ็นต์ในช่วงสองสัปดาห์ที่นำระบบมาใช้ เปรียบเทียบกับภาคการศึกษาก่อนหน้า
นาย หู เผยว่าการเช็คนักศึกษาที่ขาดเรียน เป็นเพียงส่วนเสี้ยวหนึ่งของเป้าหมายเท่านั้น เป้าหมายหลักคือ การค้นหาเหตุผลที่ลึกลงไปของกลุ่มนักศึกษาที่ขาดเรียน จากนั้นก็นำมาแยกประเภทและสร้างฐานข้อมูล เจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยจะเรียกตัวกลุ่มนักศึกษาที่ขาดเรียนโดยไม่แจ้งเหตุผลการลาล่วงหน้า มาพบ
นวัตกรรมด้านการศึกษาได้ผุดขึ้นขณะที่จีนยักษ์ใหญ่เศรษฐกิจอันดับสองของโลก กำลังระดมเทคโนโลยีเอไอมาใช้ในทุกๆด้านของชีวิต ทั้งการจับนักล้วงกระเป๋า การประหยัดกระดาษชำระในห้องน้ำ ตลอดจนแอพพลิเคชั่นอย่างเช่น รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ หุ่นยนต์ฝึกฝนทักษะ ไปยันการตรวจรักษาทางการแพทย์และตรวจมะเร็ง
พญามังกรตั้งเป้าสร้างอุตสาหกรรมเอไอ มูลค่า 1 ล้านล้านหยวน และจะทะยานขึ้นเป็นมหาอำนาจเอไอโลกในปี 2030 นับจากปี 2014 การยื่นจดสิทธิบัตรเอไอของจีน มีจำนวนมากสุดในโลก ตามด้วยสหรัฐฯ จากข้อมูลของ World Intellectual Property organization