xs
xsm
sm
md
lg

จีนลดเป้าหมายจีดีพีปี 2019 นายกฯหลี่รับสถานการณ์ศก.ปีนี้ซับซ้อนกว่าในอดีตมาก

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

นายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียง แถลงรายงานปฏิบัติการของรัฐบาลในพิธีเปิดการประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีน หรือสภานิติบัญญัติ ณ มหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง วันนี้(5 มี.ค.) (ภาพ รอยเตอร์ส)
เอเจนซีส์--จีนประกาศเป้าหมายอัตราเติบโตเศรษฐกิจปี 2019 นี้ ระหว่าง 6 ถึง 6.5 เปอร์เซ็นต์ และจะดำเนินมาตรการการคลังเพื่อรักษาเสถียรภาพการเติบโตเศรษฐกิจ พร้อมกับเดินหน้ารูปแบบการพัฒนาที่มุ่งคุณภาพที่สูงขึ้นในท่ามกลางมรสุมความไม่แน่นอนในภูมิทัศน์เศรษฐกิจโลก

นายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียง แถลงรายงานปฏิบัติการของรัฐบาลประจำปี (Government Work Report) ในพิธีเปิดการประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีน (National People's Congress/NPC) หรือสภานิติบัญญัติ ณ มหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง วันนี้(5 มี.ค.)

การประกาศเป้าหมายอัตราเติบโตเศรษฐกิจหรือจีดีพีสำหรับปีนี้ ที่ 6 ถึง 6.5 เปอร์เซ็นต์ เป็นระดับที่ต่ำกว่า เป้าหมาย “ประมาณ 6.5 เปอร์เซ็นต์” ที่รัฐบาลจีนได้กำหนดสำหรับการเติบโตเศรษฐกิจปีที่แล้ว สืบเนื่องมาจากการพิจารณาเงื่อนไข ได้แก่ แรงต้านจากปัจจัยต่างๆ ทั้งสงครามการค้ากับสหรัฐอเมริกา หนี้สินกองพะเนิน และปัญหาการอัดฉีดทุนให้แก่กลุ่มผู้ประกอบการเอกชน รายงานข่าวของสื่อฮ่องกง เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ ระบุ

ในการแถลงการณ์ปฏิบัติงานของรัฐบาล นายกฯหลี่กล่าวว่ารัฐบาลยังดำเนินนโยบายการคลังเชิงรุกอย่างเข้มข้นและส่งเสริมประสิทธิผล

“จีนจะอัดฉีดการใช้จ่ายรัฐบาล กว่า 23 ล้านล้านหยวน หรือ 3,400 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นอัตราเพิ่ม 6.5 เปอร์เซ็นต์จากปีก่อนหน้า ขณะที่คงนโยบายการเงินแบบรอบคอบ โดยจะผ่อนปรนหรือคุมเข้มใน “ระดับที่เหมาะสม” “นายกฯหลี่กล่าว พร้อมกับปฏิเสธข่าวที่ลือกันว่าธนาคารประชาชนจีนหรือธนาคารกลาง จะเข้ามาช่วยดันโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

จีนยังชี้ว่ามูลค่าจีดีพีของแดนมังกรปีที่แล้ว 2018 ยังสูงกว่าจีดีพีทั้งสิ้นของประเทศออสเตรเลีย

“ในการปฏิบัติงานเราจะต้องควบคุมมูลค่าอุปทานการเงินรวม (aggregate monetary supply) และหลีกเลี่ยงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจแบบอีหลุยฉุยแฉก” หลี่ กล่าว

นอกจากนี้หลี่ได้ย้ำสูตรแก้ไขปัญหาที่รัฐบาลใช้เป็นประจำ คือการรักษาเสถียรภาพอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินหยวนไว้อย่างเหนียวแน่น ขณะที่รักษาระดับที่อาจปรับตัวและสมดุล

ด้านนโยบายงานอาชีพ จะยกระดับความสำคัญ “การจ้างงาน” เป็น”นโยบายมหภาค” ซึ่งเป็นการประกาศชัดเจนว่าปักกิ่งยกการขยายอัตราจ้างงานเป็นภารกิจสำคัญที่สุด นายกฯหลี่ชี้ว่ารัฐบาลจะมุ่งนโยบายจ้างงานมาก่อนอันดับแรกอย่างเต็มสูบ เพราะแนวโน้มตลาดแรงงานมีผลโดยตรงต่อการรักษาอัตราเติบโตที่มั่นคง
ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กำลังอ่านรายงานของรัฐบาลในพิธีเปิดการประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีน หรือสภานิติบัญญัติ ณ มหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง วันนี้(5 มี.ค.) (ภาพ รอยเตอร์ส)
สำหรับเป้าหมายการสร้างตำแหน่งงานใหม่ในเขตเมือง อยู่ที่ 11 ล้านตำแหน่งสำหรับปีนี้ เทียบกับการสร้างตำแหน่งงานใหม่ที่แท้จริงของปีที่แล้ว เท่ากับ 13.6 ล้าน ส่วนเป้าอัตราว่างงานในเขตเมืองในการสำรวจ จะอยู่ที่ราว 5.5 เปอร์เซ็นต์ เทียบกับอัตราที่แท้จริง 5.1 เปอร์เซ็นต์ในปีที่แล้ว

รัฐบาลได้ตั้งเพดานอัตราเงินเฟ้อ ต่ำกว่า 3 เปอร์เซ็นสำหรับปีนี้ เช่นเดียวกับเมื่อปีที่แล้ว

“ปัญหาท้าทายในการรักษาอัตราเติบโตที่มั่นคงของปีนี้นั้น แหลมคมและซับซ้อนยิ่งกว่าในอดีต เราต้องเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่เพื่อที่จะฝ่าฟันอุปสรรคใหญ่นี้ไปให้ได้” หลี่ กล่าว

เป็นที่คาดว่าแรงกดดันเศรษฐกิจที่กำลังทดสอบทีมนักกำหนดนโยบายในช่วงครึ่งแรกของปี จะออกฤทธิ์เมื่อมาตรการขึ้นอัตราภาษีการค้าของวอชิงตันพ่นพิษเต็มที่ต่อเศรษฐกิจประเทศ

พญามังกรได้เตรียมรับมือผลกระทบจากสงครามการค้า โดยมุ่งสร้างกันชนภายในประเทศที่แข็งแกร่ง ด้วยการสนับสนุนภาคการคลัง การเงินที่จำเป็น และการจ้างงาน

นายกฯหลี่กล่าวยอมรับระหว่างแถลงรายงานฯ ว่า “ความขัดแย้งด้านการค้า” กับสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีน อย่างไรก็ตามโดยรวมแล้วอัตราขยายตัวเศรษฐกิจในปีที่แล้วถือว่ามั่นคงดี

หลี่ไม่ได้แจงถึงศึกพิพาทการค้ากับสหรัฐฯ กล่าวเพียงว่ารัฐบาลกำลังรับมือกับปัญหานี้ “อย่างเหมาะสม”
กลุ่มผู้แทนประชาชนทั่วประเทศจีน ราว 3,000 คน เข้าร่วมการประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีน หรือสภานิติบัญญัติ ณ มหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง วันนี้(5 มี.ค.) (ภาพ รอยเตอร์ส)
ด้านกลุ่มนักเศรษฐศาสตร์แห่งบรรษัทบริการการเงินค่ายดัง อย่าง มอร์แกน สแตนลีย์ (Morgan Stanley) ประเมินว่าเพื่อบรรลุเป้าการขยายขนาดเศรษฐกิจเป็นเท่าตัวในช่วงทศวรรษ 2010 ถึง 2020 จีนจะต้องประคับประคองการเติบโตสำหรับปีนี้ ที่ระดับ 6.2 เปอร์เซ็นต์

ทั้งนี้ จีนเปิดม่านอีเวนท์ทางการเมืองใหญ่ประจำปีแห่งเดือนมี.ค. ได้แก่ “การประชุมสองสภา” เริ่มจากการประชุมคณะกรรมาธิการปรึกษาการเมืองแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน (Chinese People's Political Consultative Conference ชื่อย่อ CPPCC) ในวันที่ 3 มี.ค. และการประชุมสภาผู้แทนประชาชนทั่วประเทศ (National People's Congress ชื่อย่อNPC) ซึ่งเป็นสภานิติบัญญัติ ในวันที่ 5 มี.ค. โดยมีกลุ่มผู้แทน ราว 3,000 คน เข้าร่วมการปะชุมซึ่งกินเวลา 11 วัน
กลุ่มทหารจากกองทัพปลดแอกประชาชนจีน หรือพีแอลเอ เข้าร่วมพิธีเชิญธงประจำชาติขึ้นสู่เสา ก่อนพิธีเปิดการประชุมสภาผู้แทนประชาชนจีน หรือสภาเอ็นพีซี ในวันที่ 5 มี.ค. (ภาพ รอยเตอร์ส)
วงดุริยางค์ของกองทัพในพิธีเปิดการประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีน ณ มหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง วันนี้(5 มี.ค.) (ภาพ รอยเตอร์ส)


กำลังโหลดความคิดเห็น