เอพี--วิกฤตล่มสลายในตลาดหุ้นปี 2018 ดูดทรัพย์อภิมหาเศรษฐีโลกหายไปถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ แดนมังกรครองแชมป์มีจำนวนมหาเศรษฐีพันล้านมากสุดในโลก ขณะที่ความมั่งคั่งของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ลดลง 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่แล้ว
ทั้งนี้จากรายงานการจัดอันดับความมั่งคั่ง โดย “หูรุ่น รีพอร์ต” (Hurun Report) เผยในวานนี้ (26 ก.พ.)
“หูรุ่น รีพอร์ต” สำนักจัดอันดับความมั่งคั่งของจีน (เทียบได้กับทำเนียบกลุ่มมั่งคั่งของ Forbes) อ้างอิงข้อมูลอัพเดท ณ วันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา เผยว่าจีนยังครองแชมป์มี“กลุ่มมหาเศรษฐีพันล้านดอลล์” จำนวนมากที่สุดในโลก จำนวนมหาเศรษฐีพันล้านดอลฯของจีน เท่ากับ 658 คน โดยหลายคนรวยจากตลาดหุ้น ขณะที่ฝั่งสหรัฐฯมีมหาเศรษฐีพันล้าน 584 คน ตามด้วยเยอรมนี 117 คน
ในด้านเมืองที่ทำสถิติเป็น “เมืองมหาเศรษฐีพันล้านของโลก” อันดับหนึ่งคือ นครปักกิ่ง 103 คน ตามหลังด้วยนิวยอร์ก 92 คน และฮ่องกง 69 คน นอกจากนี้ในกลุ่มเมือง 20 เมือง ที่มีมหาเศรษฐีมากที่สุด 13 เมืองอยู่ในเอเชีย
ทั้งนี้แหล่งโกยความมั่งคั่งมากที่สุดของปีที่แล้ว มาจากภาคเทคโนโลยี มีเดีย และโทรคมนาคม รองลงมาคือ อสังหาริมทรัพย์ และภาคการลงทุนอื่นๆ ภาคการผลิต และภาคค้าปลีก
ขณะที่จีนและชาติเอเชียอื่นๆกำลังรวยวันรวยคืน ผู้ที่ครองแชมป์มั่งคั่งที่สุดในโลก คือ นาย เจฟฟ์ เบโซส์ ผู้ก่อตั้งอเมซอน ติดอันดับรวยสุดในโลกเป็นปีที่สองติดๆกัน ด้วยสินทรัพย์ 147,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่นาย บิลล์ เกตส์ มั่งคั่งอันดับสอง ด้วยสินทรัพย์ 96,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และนาย วอร์เรน บัฟเฟตต์ ครองความมั่งคั่งในอันดับสาม 88,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ด้านกลุ่มมหาเศรษฐีจีน ผู้มั่งคั่งที่สุดคือ นาย แจ๊ค หม่า แห่งยักษ์ใหญ่อี คอมเมิร์ส อาลีบาบา มีสินทรัพย์ 39,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยติดอันดับที่ 22 ของทำเนียบความมั่งคั่งโลก โดยมีสองมหาเศรษฐีจีนไล่กวดมาติดๆ ได้แก่ โพนี่ หม่า ฮว่าเถิง แห่งเทนเซนต์ โฮลอิ้งส กุมสินทรัพย์ 38,000 ล้านดอลฯ และสีว์ จยาอิ้น แห่งยักษ์ใหญ่อสังหาฯ Evergrande มีสินทรัพย์ 37,000 ล้านดอลฯ
“ในปี 2018 สินทรัพย์ของเกตส์ งอกเงยขึ้นมา 6,000 ล้านดอลฯ แม้หันมามุ่งอุทิศตัวให้การกุศล” รูเพิร์ต ฮูจเวิร์ฟ (Rupert Hoogewerf) ซีอีโอ หูรุ่น รีพอร์ต กล่าว
ความมั่งคั่งของ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ลดลง 500 ล้านดอลฯในปีที่แล้ว เหลือ 3,000 ล้านดอลฯ
สำหรับชาวเอเชียคนเดียวที่ติดอันดับ “ท็อปเทน” ในทำเนียบมหาเศรษฐีโลก คือ ชาวอินเดีย นาย มูเกช อัมบานี (Mukesh Ambani) ประธาน “รีไลแอนซ์ อินดัสทรีส์” (Reliance Industries) ด้วยสินทรัพย์ 54,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับบริษัทที่สร้างมหาเศรษฐีมากที่สุด คือ ซีพี กรุ๊ป (CP Group) ของไทย กลุ่มเครือบริษัทที่มีกิจการในภาคเกษตร โทรคมนาคม ค้าปลีก และการเงิน โดยเพิ่มจำนวนขึ้นมาอีก 5 ราย จากทั้งหมด 17 ราย
มหาเศรษฐีอันดับถัดมาคือ “กระทิงแดง” (Red Bull) และผู้ถือหุ้นระดับท็อปนับสิบ นาย Dietrich Mateschitz และสมาชิกวงศาคณาญาติ 11 คน ของนาย เฉลียว อยู่วิทยา ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท
รายงานหูรุ่น รีพอร์ต เผยการประเมินของตนว่า มหาเศรษฐีพันล้านดอลฯทั่วโลก มีจำนวน 2,470 ราย ลดลง 224 รายจากปีที่แล้ว และความมั่งคั่งโดยรวมทั้งหมดของพวกเขา ลดลง 950,000 ล้านดอลฯ จากปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ 9.6 ล้านล้านดอลฯ จากแรงเหวี่ยงของตลาดหุ้น และดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่า
ความล่มสลายของตลาดหุ้นส่งผลกระทบต่อญี่ปุ่นมากที่สุด โดยตลาดโตเกียวขาดทุนปี้ป่นไป 43 เปอร์เซ็นต์ของมูลค่าตามราคาตลาด ขณะที่มูลค่าฯตลาดเซี่ยงไฮ้หดหายไป 1 ใน 4 และดัชนีฮั่งเส็งฮ่องกง ดิ่งเหวไปเกือบ 16 เปอร์เซ็นต์
ฮูจเวิร์ฟ กล่าวเขาเชื่อว่ามหาเศรษฐีพันล้านในโลก อาจมีมากกว่า 6,000 คน โดยหลายๆคนปิดบังความมั่งคั่งของพวกเขา โดยเฉพาะพวกมหาเศรษฐีในตะวันออกกลาง