ไชน่าเดลี รายงาน (31 ม.ค.) - อาลีบาบาอีคอมเมิร์ชยักษ์ใหญ่ของจีน แถลงเมื่อวันพุธว่า มีผลประกอบการกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 37% ในไตรมาสล่าสุด เนื่องจากการเติบโตของระบบคลาวด์คอมพิวติ้งและกลุ่มธุรกิจอื่น ๆ ซึ่งช่วยชดเชยการชะลอตัวของการค้าปลีกออนไลน์หลัก
รายงานระบุว่า ในไตรมาสที่สาม (ตุลาคมถึงธันวาคม) อาลีบาบามีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 3.3 หมื่นล้านหยวน เทียบกับ 2.4 หมื่นล้านหยวนในช่วงเดียวกันของปี 2560
อาลีบาบาเป็น ผู้ครองอาณาจักรการบริโภคที่กำลังเติบโตของจีน ขณะที่ผลประกอบการของบริษัท เป็นตัวสะท้อนสัญญาณว่าเศรษฐกิจจีนกำลังถดถอยหรือเฟื่องฟู ซึ่งผลกระทบของค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน กำลังเป็นอุปสรรคใหญ่
รายรับจากธุรกิจหลัก มีเพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบเป็นรายปี เกือบ 1.03 แสนล้านหยวนขณะที่รายรับจากคลาวด์คอมพิวติ้งเพิ่มขึ้น 84% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ 6.6 พันล้านหยวน
ผู้บริโภคในตลาดค้าปลีกของจีน ปีที่ผ่านมามีจำนวนถึง 636 ล้านคน เพิ่มขึ้น 35 ล้านคนจากช่วง 12 เดือน (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2561)
แดเนียล จาง ซีอีโอของอาลีบาบา กล่าวว่า "อาลีบาบา ยังมีอีกไตรมาสที่แข็งแกร่ง โดยการดำเนินงานและการเงินที่แข็งแกร่งของเรานั้น เป็นภาพสะท้อนโดยตรงของการมุ่งเน้นอย่างต่อเนื่องของเรา ในการให้บริการฐานการเติบโตของผู้บริโภค เกือบ 700 ล้านราย ทั่วทั้งค้าปลีก บันเทิงดิจิทัล และบริการในท้องถิ่น"
“ การเติบโตของเรายังได้รับแรงหนุนจากพลังของเทคโนโลยีคลาวด์และข้อมูลของอาลีบาบา ที่ช่วยเร่งการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลขององค์กรหลายล้านแห่ง” จางกล่าว