เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ (7 ม.ค.) ชายจีนผู้มีนามแฝงว่าจู้ จากมณฑลกวางตุ้ง ถูกลงโทษปรับ 1,000 หยวน (ราว 5,000 บาท) เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม ปลายปีที่แล้ว ด้วยข้อหาพฤติกรรมละเมิดมาตรา 6 และ 14 ของระเบียบชั่วคราวการบริหารเครือข่ายคอมพิวเตอร์ระหว่างประเทศของจีน จากการติดตั้งระบบ VPN โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางการก่อน
ประกาศในเว็บไซต์ของรัฐบาลมณฑลกวางตุ้งระบุว่า บุคคลและองค์กรสามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายระหว่างประเทศผ่านช่องทางที่รัฐบาลจัดทำขึ้นตามระเบียบที่ระบุไว้ในเว็บไซต์ของกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศเท่านั้น
จีนดำเนินนโยบายปิดกั้นการเข้าถึงบริการและสื่อสังคมออนไลน์ของต่างประเทศ หรือที่เรียกว่า Great Firewall ซึ่งทำให้ประชาชนจีนรวมทั้งชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศจีนไม่สามารถใช้ข้อมูลจากสื่อที่ทางการจีนปิดกั้นการเข้าถึง ซึ่งประมาณกันว่ามีมากกว่า 135 เว็บไซต์ จาก 1,000 เว็บไซต์ชั้นนำของโลก รวมถึง Google, Facebook, Twitter และ YouTube
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา Greatfire.org ซึ่งเป็นระบบหน่วยงานกำกับดูแลตรวจสอบเซ็นเซอร์ออนไลน์ในประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์ ได้ออกคำสั่งให้ลบเนื้อหา "ไม่เหมาะสม" รวมถึงสื่อลามกและคำพูดทางการเมืองซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการ "กวาดบ้าน" สภาพแวดล้อมออนไลน์ของประเทศ ดังนั้น หากใครต้องการจะเข้าถึงบริการต้องห้ามเหล่านั้นจะต้องเจาะผ่านบริการ VPN (Virtual Private Network) ซึ่งเป็นช่องทางเลือกเพื่อให้ชาวจีนสามารถเลี่ยงกำแพงเซ็นเซอร์ Great Firewall ซึ่งเป็นระบบของรัฐบาลในการจำกัดการเข้าถึงเว็บไซต์ต่างประเทศและบริการออนไลน์
อย่างไรก็ตาม จีนก็ได้ประกาศว่าบริการ VPN ต่างๆ นั้นผิดกฎหมาย จะต้องได้รับการยินยอมจากรัฐบาลก่อน
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่ได้ลงโทษสำหรับการให้บริการ VPN ในประเทศจีน ในปี 2560 ชายชาวจีนจากมณฑลกวางสี ชื่ออู่ เซียงหยาง ถูกศาลตัดสินให้ติดคุก 5 ปีครึ่ง จากการขายบริการ VPN ออนไลน์ อู่ยังต้องจ่ายค่าปรับ 500,000 หยวน (72,790 ดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเท่ากับผลกำไรที่เขาทำจากธุรกิจ VPN ของเขาตั้งแต่ปี 2556
การปราบปรามครั้งใหญ่ครั้งล่าสุดของ VPNs คือในเดือนมีนาคม 2559 ในระหว่างการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติในกรุงปักกิ่ง ซึ่งในช่วงนั้นหลายบริษัทร้องว่าบริการ VPN แบบชำระเงินของพวกเขาไม่ทำงานนานถึงหนึ่งสัปดาห์
ชาวเน็ตจีนหลายล้านคนแสดงความต้องการที่จะเข้าถึงเว็บไซต์ต่างประเทศโดยเฉพาะผู้ใช้ออนไลน์หนุ่มสาวที่อายุน้อย ซึ่งมีประสบการณ์ในระดับสากลมากขึ้น ความต้องการที่เพิ่มขึ้นของคนจีนในการเชื่อมต่อในต่างประเทศนั้นขัดแย้งโดยตรงกับการปราบปรามบริการ VPN ที่รุนแรงขึ้นของรัฐบาล เป็นผลให้เกิดสภาพแมวไล่จับหนูตลอดหลายปีระหว่างหน่วยงานรัฐกับผู้ให้บริการ VPN